ทนายตั้ม แฉเดือดตำรวจเก็บส่วยทั่วประเทศส่งนายใหญ่ อ้างเส้นเงินเว็บพนัน BNK มาสเตอร์โยงตัวท็อปผบ.ตร.?
เป็นอีกเรื่องที่สังคมกำลังให้ความสนใจ หลังทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์เฟซบุ๊กเตรียมแฉส่วย โดยระบุว่าจะแฉเปิดโปงขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ ไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ทำเพื่อชาติ
ล่าสุด ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชน ระบุว่าวันนี้มาแถลงเรื่องส่วย ในนามของมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ก่อนที่มาแถลงก็ได้ปรึกษากับครอบครัวแล้ว เพราะว่าเรื่องที่จะแถลงเป็นเรื่องใหญ่ กระทบถึงคนใหญ่คนโต ไม่มีใครกล้ายุ่ง บางคนอาจจะบอกว่าโง่หรือเปล่าที่มาทำแบบนี้ มาฆ่าตัวตายหรือเปล่าที่มาทำแบบนี้ แต่ว่าชาติได้ประโยชน์ตนก็ยอม
วันนี้จะแถลงม้วนเดียวจบไม่มีต่อซีรีสต่อไป ให้คนได้ติดตามตั้งแต่ต้นตั้งแต่เรื่องส่วยไปจนถึงผู้บังคับบัญชาใครบ้างที่ได้รับประโยชน์ รวมไปถึงเส้นเงินว่าใครบ้าง ซึ่งในส่วนของตำรวจจะเน้นหลักๆ แค่ 3 นาย ถ้าเกิดท่านผู้พิพากษาได้ดูอยู่ก็ขอเมตตาตนด้วย เพราะว่าไม่ได้ออกมาแฉเพื่อใคร แต่ต้องการทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ทนายตั้มอ้างว่า ตำรวจนายแรกที่จะแฉ ก็คือ ด.ต.อภิชาติ หรือ ดาบยาว มีหน้าที่รวบรวมส่วยของทุกทีม เพื่อส่งให้กับทางข้างบนต่อ
คนที่สองคือ พ.ต.ท.สุรกุล หรือ รองฟาง เป็นคนสนิทของบิ๊กต่อ เป็นนายตำรวจรุ่น 61 สายของตนรายงานมาว่า รองฟางมีบทบาทสำคัญ
คนต่อมาคือ บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ซึ่งต้องบอกว่าถ้าดูอยู่คงจะโมโหตนแน่นอน แต่ตอนตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะเปิดโปงทั้งหมด
ทนายตั้มอ้างว่า ก่อนหน้านี้บิ๊กต่อดูแค่คอมมานโดและค้ามนุษย์ ก่อนจะส่งคนของตัวเองไปอยู่ที่ตำรวจไซเบอร์ด้วย ตอนนี้ตำรวจไม่อยากไปที่ไหนหรอก มีแต่มีแต่คนอยากไปอยู่ที่ตำรวจไซเบอร์ทั้งนั้น เพราะว่ามีผลประโยชน์มหาศาล เพราะว่ากำกับดูแลเว็บพนันโดยเฉพาะ ตำรวจจึงอยากไปอยู่ที่ สอท.
ส่วยที่จะพูดถึงคือ 2 กองบังคับการและ 1 กองบัญชาการที่ได้มีการตีตั๋ว เขาเรียกว่าเป็นตั๋ว ตั๋วนี้เก็บอะไรบ้าง อย่างแรกคือ
1.เว็บพนัน 2.คือบ่อนการพนัน 3.คือเงินกู้ไทยแขก 4.คือหวยใต้ดิน 5.สถานบันเทิง 6.ร้านนวดที่แผงขายบริการ 7.อาบอบนวด 8.ซาวน่าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 9.ร้านเหล้าที่มีพีอาร์ 10.บุหรี่ไฟฟ้า 11.บุหรี่หนีภาษี 12.ตลาดนัดเลียบด่วนตลาดนัดตลาดไท
13.สถานที่ประกอบการแรงงานต่างด้าว 14. จุดคอกรับซื้อน้ำมันเถื่อน 15.น้ำมันเขียวที่ช่วยรัฐช่วยชาวประมง 16.โต๊ะสนุกเกอร์
17.หัวหน้าแขกที่เอาแขกมาขายถั่วโรตี 18.คนขายยาเซ็กส์และมีเพศสัมพันธ์ไลฟ์สดเพื่อขายยาเซ็กส์
ทนายตั้มยังอ้างอีกว่า โดยจะมีทีมเก็บส่วยแบ่งเป็นภาคภาค เช่นทีมที่หนึ่งภาคตะวันออก ดูแลภาค 2 ทั้งหมด จะมีจ่ากอล์ฟเป็นหัวหน้าทีม ทีมนี้จะส่งตั๋วประมาณ 8,000,000 - 9,000,000
ทีมที่สองหัวหน้าทีมคือดาบชาติ ดูแลภาค 3 4 และ 7
ทีม 3 ดูแลโซนภาค 1 นครบาลบางพื้นที่ คนดูแลคือดาบสิงห์
ทีม 4 สอท.,ปคม.,คอมมานโด คนดูแลคือดาบบู
ทีม 5 ภาค 8-9 ดาบยักษ์
โดย รองฟาง ถือบัญชีของคชาชาญ ซึ่งเป็นบัญชีม้าตัวเอกที่เกี่ยวกับเรื่องนี้
ส่วนบัญชีที่ดาบยาวถือคือบัญชีม้าชื่อณัฐพงศ์กับมงคล อันนี้เป็นบัญชีที่สำคัญที่มีเส้นเส้นเงินที่ทางทนายบิ๊กโจ๊กเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ หัวหน้าทีมคือ จ่ากอล์ฟ แต่ที่ตลกคือใช้บัญชีของคนตาย ชื่อสัมฤทธิ์ มาเป็นบัญชีม้าด้วย แต่ยังมีคนสามารถทำธุรกรรมได้ ก็ต้องคิดว่าทำได้ยังไง และส่วยที่เก็บมานั้นจะส่งยอดกันในทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน
นอกจากนี้ทนายตั้มยังมีข้อมูลที่อ้างว่าเป็นแชตและการโอนยอดส่งดาบยาวและข้อมูลอื่นๆของทีมเดินตั๋ว สอท.,ปคม.และคอมมานโดมานำเสนออีกด้วย
ทนายตั้มอ้างว่าเส้นเงินโยงไปถึง ผบ.ตร.ได้ยังไง คือก่อนหน้านี้ที่การจับเว็บพนันรายใหญ่ เป็นเว็บของ นางพิมพ์วิไล เว็บบีเอ็นเค Master และวีนัส Master ซึ่งนางพิมพ์วิไล เคยโอนเงินให้ คชาชาญ และบัญชีณัฐพงศ์ด้วย ซึ่งเป็นบัญชีม้า ที่กล่าวมาข้างต้น
จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีของพิมพ์วิไล เคยโอนเงินเข้าของนายคชาชาญ คชาชาญโอนไปบัญชีม้าของดาบยาว นั่นก็คือบัญชีชื่อณัฐพงศ์ ก่อนที่จะโอนเงินให้ เมีย พี่ชาย พี่สาว ของผบ.ตร. มีโอนให้ผู้สื่อข่าวด้วย และโอนสร้างวิหารวัดนครอินทร์
ส่วนที่โอนไปสร้างวิหารวัดนครอินทร์ พบว่ามีชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นประธานทอดกฐิน ที่วัดดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งอันนี้มีบัญชีม้าที่โอนไปวัดยอด 700,000 บาท แยกเป็นสองยอด 500,000 + 200,000 บาท
ทนายตั้มระบุว่า ตนไม่ใช่คนดีอะไร และที่มาแฉวันนี้ก็ซวยถึงตัวเองแน่นอน แต่ยอมเจ็บตัวทำเพื่อสังคม ที่ออกมาแฉวันนี้ตำรวจที่ถูกแฉอย่าโมโหตนเลย ถ้าจะโกรธต้องไปโกรธหัวหน้าหน่วย เพราะว่าหัวหน้าหน่วยของพวกคุณเอาชื่อหน่วยไปหากินเอง
ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว ทนายตั้มมีการต่อสายไปหา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือบิ๊กเต่าด้วย ว่ามีหลักฐานมาขนาดนี้ขอยื่นเรื่องให้ตรวจสอบได้ไหม ซึ่งบิ๊กเต่า นัดทนายตั้ม วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม เวลา 11.00 น.
