นายกฯโพธิ์ตาก ถอนฟ้องหมิ่นฯยายวัย 59 หลังโพสต์พาดพิงถนนเป็นหลุมเป็นบ่อทำลูกตกรถ

23 มี.ค. 67

นายกฯโพธิ์ตาก ถอนฟ้องหมิ่นฯยายวัย 59 หลังโพสต์พาดพิงถนนเป็นหลุมเป็นบ่อทำลูกตกรถ ส่วนเรื่องที่จะฟ้องกลับตนไม่มีปัญญาจ้างทนายความมาฟ้อง ถึงแม้จะมีบางคนยุส่งให้ฟ้องกลับก็ตาม

จากกรณีที่นางบุญกองแก้วไชยอายุ 59 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ BunkongKaeechai ชาวบ้านโคกก่อง ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม ได้โพสต์ข้อความ"เบิ่งเอาเด้อพี่น้องถนนเส้นนี้จากหนองบัวไปโคกก่องว่าลำบากแค่ไหนจะมีหน่วยงานไหนที่จะมาซ่อมแซมแล้วจะให้มีคนป่วยไปรพ.ตกรถป่วยตายก่อนไหมถึงจะมีคนมาช่วยมีนายกที่แสนดีก็แบบนี้แหละค่ะ"โดยโพสต์เมื่อวันที่ 6 พ.ย.66 หลังจากนั้นก็ถูกนายสมคิด นายกอบต.ตำบลโพธิ์ตาก ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม ตั้งทนายยื่นฟ้องนางบุญกองในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

และเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 66 ได้มอบอำนาจให้ นายกฐสักกษัษฐี โคตุทา ในฐานะทนายความเป็นโจทก์ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนมโดยบรรยายฟ้องว่าเมื่อประมาณต้นเดือนต.ค. 66 เวลาใดไม่ปรากฎชัดจำเลยในคดีนี้ได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายกล่าวคือจำเลยได้บังอาจใส่ความโจทก์ต่อสาธารณะโดยผ่านทางเฟซบุ๊กของจำเลยที่ใช้ชื่อว่า"Bunkong.Kaeechai" เป็นข้อความว่า"เบิ่งเอาเด้อพี่น้องถนนสายหนองบัวไปโคกก่องมันไปแบบสบายหรือไปแบบมีคนป่วยกว่าจะไปถึงโรงบาลมันคงตกรถตายก่อนไหมถึงจะมีหน่วยงานอบต.มาทำมีนายกที่แสนดีถนนก็จะประมาณนี้แหละจร้า"และพี่น้องเบิ่งเอาเด้อจร้าทางเส้นจากหนองบัวไปโคกก่องว่ามันลำบากแค่ใหนมีนายกอบต.ก็ไม่มีอะไรดีแล้วก็ไม่ทำไรดีแต่พูดไปวันๆ

11_4

และมีภาพประกอบพร้อมกับแท็กโพสต์ดังกล่าวไปยังบัญชีเฟซบุ๊กบุคคลอื่นอีก 7 คน ทั้งนี้ข้อความในโพสเฟซบุ๊กดังกล่าวสาธารณะชนอื่นๆสามารถเห็นได้ในทันทีซึ่งข้อความที่ปรากฎดังกล่าวล้วนแล้วแต่เป็นความเท็จทั้งสิ้น การกระทำของจำเลยทำให้โจทก็ได้รับความอับอายเสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายการกระทำของจำเลยดังกล่าวข้างต้นเป็นการนำเข้าซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาเหตุเกิดที่ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม

หลังถูกฟ้องนางบุญกองก็แต่งตั้งนายเทพนิมิตร บำรุงหงส์ เป็นทนายความเพื่อต่อสู้คดีโดยศาลจังหวัดนครพนมนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 15 ม.ค. 67 โดยนายนิมิตทนายความของนางบุญกองเปิดเผยว่า คดีนี้หลังจากที่ตนเข้ามารับทำคดีโดยเป็นการอาสามาทำคดีให้กับยายบุญกองโดยไม่ขอรับค่าตอบแทนใดๆเนื่องจากเห็นว่าการที่ยายโพสต์ข้อความลักษณะดังกล่าวเป็นการติชมการทำงานของผู้มีหน้าที่บริหารท้องถิ่น เมื่อมันไม่ดีก็ติชมกันอย่างสุจริตตนจึงเห็นว่าผู้บริหารควรจะใจกว้างไม่ควรถือสาการติชมเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ จนถึงขนาดนำมาฟ้องร้องกันซึ่งชาวบ้านธรรมดาจะต้องเดือดร้อนหนักขึ้นแน่นอนถ้าต้องเสียเงินเสียทองว่าจ้างทนายความมาแก้ต่างให้ตนจึงอาสารับว่าความให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งคดีนี้หลังจากที่ตนทำคำให้การชั้นไต่สวนมูลฟ้องยื่นต่อศาลและชี้ให้ศาลท่านเห็นว่าการกระทำของจำเลยน่าจะไม่เป็นความผิดตามฟ้องขอให้ศาลยกคำร้องของโจทก์เนื่องจากคำฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลและในชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลได้เรียกทนายโจทก์มาพูดคุยพร้อมชี้แจงประเด็นข้อกล่าวหาที่โจทก์อ้างน่าจะไม่มีมูลทำให้ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องยายบุญกองในเวลาต่อมาส่งผลให้ยายบุญกองพ้นข้อกล่าวหาในที่สุด

12_3

ด้าน นางบุญกอง กล่าวเปิดเผยด้วยความดีใจหลังได้รับการถอนฟ้องว่า เหมือนยกภูเขาออกจากอกเนื่องจากช่วงห้าหกเดือนที่ผ่านมาหลังตกเป็นจำเลยก็กินไม่ได้นอนไม่หลับแต่ที่ตนโพสต์ในเฟซบุ๊กนั้นตนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดเนื่องจากประสบมากับตนเองหลังถูกนายกอบต.ฟ้องจนตกเป็นจำเลยเพื่อนบ้านก็สมน้ำหน้าหาว่าไม่มีจะกินแล้วยังจะหาเรื่องอีกตนก็ยอมรับว่าฐานะยากจนจริงทุกวันนี้แทบจะไม่มีจะกินอยู่แล้วจนบางวันต้องอาศัยข้าววัดกินแต่ที่ทำไปเพราะอยากให้มีการแก้ไขปรับปรุงถนนหนทางให้ดีขึ้นเท่านั้นเองไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายใครส่วนเรื่องที่จะฟ้องกลับนายกอบต.หรือไม่นั้น ตนขอบอกว่าตนไม่มีปัญญาจ้างทนายความมาฟ้องหรอก ถึงแม้จะมีบางคนยุส่งให้ฟ้องกลับก็ตามแต่ตนเห็นว่าการมีคดีความนั้นไม่ดีแน่นอนต้องเสียค่าใช้จ่ายสารพัดอย่างน้อยๆต้องมีค่าเดินทางขึ้นลงศาลตามนัดแค่นี้ก็ลำบากมากแล้วจึงไม่ขอมีคดีความดีกว่า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส