ผู้ใหญ่บ้าน เผย รู้จักกับบ้านนี้ดี รู้ว่าอดีตตำรวจและคุณยายหนู รักกันมาก และยอมให้คุณนายหนูมีผัวเป็นฝรั่งอีกคน อยู่กันแบบ 3 ผัวเมีย ส่วนเรื่องเงินทองก็ไม่มีเดือดร้อนเพราะคุณนายเป็นคนมีเงิน จึงไม่รู้จริงๆว่าทำไมถึงเกิดเหตุสลด
ผู้ใหญ่บ้าน เผย ลูกบ้านแจ้งได้ยินเสียงปืนดังค่ำเมื่อวาน จึงตามมาดู แต่ไม่เห็นมีอะไร คิดว่าแค่ทะเลาะกันและยิงปืนขู่ จนกระทั่งตอนเช้า คนสวนแจ้งพบศพ ตาย 3 คน จึงรีบมาดูแล้วแจ้งตำรวจ ระบุไม่คาดคิดว่า ร.ต.อ.สมเด็จจะกล้ายิง เพราะเขารักกันมาก ไม่รู้ยิงด้วยสาเหตุอะไรกันแน่
จากเหตุ สลดผู้กองตำรวจมือปราบ ยิงคุณนายเมียฝรั่งและพี่สาว ก่อนปลิดชีพตัวเอง ดับคาบ้าน 3 ศพ คือ นางสุธาทิพย์ ฟอร์คคอนเนอร์ หรือคุณนายหนู อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของบ้าน นางพิมพิลา รอดชัยภูมิ อายุ 62 ปีพี่สาวคุณนาย และศพสุดท้ายคือ ร.ต.อ.สมเด็จ สุขคารมย์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเจ้าของบ้าน และเป็นอดีตตร.มือปราบชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว นั้น
นางคำแสน จาบาล อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ว่า ตนเองบ้านอยู่ข้างกัน นางสุธาทิพย์ เป็นคนที่ดีมีน้ำใจ มีสามีเป็นชาวต่างชาติอยู่ต่างประเทศ แต่ก็คบหากับ ร.ต.อ.สมเด็จด้วย อยู่ด้วยกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งก็เคยเจอกันทั้ง 3 คน ไม่มีปัญหาอะไรกัน สมัครใจอยู่แบบ 2 ผัว 1 เมีย ตัดเรื่องประเด็นชู้สาวไปได้เลย
โดยนางสุธาทิพย์ เป็นคนที่ปากร้ายแต่ใจดี และค่อนข้างควบคุม ร.ต.อ.สมเด็จ อยู่ ว่าแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ เชื่อฟังเมีย เต็มที่ก็แค่มีปากเสียงเถียงกันไปมา โดยเขารักกันมาก ไม่นานก็ดีกัน และร.ต.อ.สมเด็จ เป็นคนเงียบ ๆ ยอมเมียทุกอย่าง ดูเป็นคนใจเย็น จึงไม่คาดคิดว่า จะกล้าลงมือก่อเหตุฆ่าคนตายได้
ตนเองทราบจากลูกบ้านเมื่อวาน ว่า ช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 มี.ค.67 ได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 4-5 นัด และมีเสียงคนโวยวายทะเลาะกัน ตนเองก็เข้าใจว่าสองผัวเมียนี้ทะเลาะกันอีกแล้ว สักพักจึงมีการเดินทางกลับมาดูที่บ้าน ชะโงกดู ก็เห็นเปิดไฟที่บ้านตามปกติ เลยคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
จนกระทั่งช่วงเช้า คนสวน ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาแจ้งข่าวกับตนเองว่าเจอศพ ทั้ง 3 คน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน สภาพจมกองเลือด แต่เลือดแห้งหมดแล้ว จึงคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมานานแล้ว น่าจะเป็นตอนที่มีคนได้ยินเสียงปืนดังในช่วงหัวค่ำเมื่อวานที่ผ่านมา
ส่วนปมสาเหตุ ไม่มีใครเดาได้ว่าเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมาสองผัวเมียไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง จะบอกว่าเรื่องหนี้สิน คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทางด้านของนางสุธาทิพย์ เป็นคนที่มีเงินทอง และที่ผ่านมาก็น่าจะมีการช่วยเหลือ ร.ต.อ.สมเด็จ ใช้หนี้ที่เคยกู้ยืมตอนสมัยเป็นข้าราชการตำรวจบ้าง อีกทั้งยังเห็นทั้งคู่ รักกันมาก ๆ ถึงไม่คาดคิดจะเกิดเหตุ ตนเองได้พูดคุยกับนางสุธาทิพย์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.67 เคยเชิญให้ไปร่วมงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ในวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของนางสุธาทิพย์ด้วย
