ผัวขี้คุกหึงโหดกระหน่ำแทงเมียดับคามือ ลากศพทิ้งริม เขื่อนลำปาว

13 มี.ค. 67

 

หนุ่มตกปลาตะลึง! พบศพสาวใหญ่ถูกฆ่าทิ้งริม เขื่อนลำปาว เชือกผูกคอลากศพลอยอืด วิ่งเตลิดให้ชาวบ้านช่วย ตำรวจล่าตัวผัวขี้คุก หึงโหดกระหน่ำแทงเมีย 

วันที่ 13 มี.ค. 67 ร.ต.อ.สำเริง แก้วเสน่ห์ใน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุ มีคนพบศพถูกแทงเสียชีวิต ทิ้งศพลอยอยู่ริมเขื่อนลำปาว ห่างจากฝั่งประมาณ 30-50 เมตร 

เหตุเกิดที่ห่างจากจุดโรงสูบน้ำ เขื่อนลำปาวล็อก 17 บ้านโนนศาลา หมู่ 13 ต.ภูดิน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ประมาณ 200 เมตร จึงพร้อมด้วยเจ้าสมาคมกู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์ จุดบริการสหัสขันธ์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณกระต๊อบ 3 หลังริม เขื่อนลำปาว พบคราบเลือดติดอยู่บริเวณกระต๊อบหลังขวามือสุด บริเวณพื้นดินมีร่องรอยลากศพแ ละรอยเลือดเป็นทางยาวลงไปที่ริมเขื่อน ก่อนจะพบศพลอยอยู่ในน้ำ เขื่อนลำปาว ห่างจากฝั่งประมาณ 30-50 เมตร เจ้าหน้าที่จึงนำศพขึ้นฝั่ง เพื่อตรวจสอบพบว่าผู้ตายเป็นหญิง มีร่องรอยถูกแทงตามลำตัว 7 แผล และที่ลำคอมีร่องรอยถูกเชือกรัด เพื่อลากศพไปทิ้งในน้ำ เขื่อนลำปาว 

ผัวขี้คุกหึงโหดกระหน่ำแทงเมียดับคามือ ลากศพทิ้งริม เขื่อนลำปาว

ต่อมาทราบชื่อผู้ตายจากชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์คือ นาง สมพิศ เสนากิจ อายุ 52 ปีอยู่ชาวบ้าน ต.ภูดิน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นสามีใหม่ของผู้ตายคือ นายสำราญ สิงสุวรรณ์ อายุ 59 ปี 

ผัวขี้คุกหึงโหดกระหน่ำแทงเมียดับคามือ ลากศพทิ้งริม เขื่อนลำปาว

นายอาทิตย์ โทนะพันธ์ อายุ 24 ปี และ น.ส.รัตนา แสงห้าว อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ต.พิมูล อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ต่างคนต่างเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนได้เดินทางมาตกปลาที่บริเวณดังกล่าว ระหว่างนั้น น.ส.รัตนาได้มองเห็นคราบเลือดที่บริเวณกระต๊อบ และศพลอยอยู่ในน้ำ จึงเรียกให้นายอาทิตย์มาช่วยดู เมื่อทราบแน่ชัดแล้วว่าเป็นศพ จึงได้พากันวิ่งเตลิดไปขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านมาช่วยตรวจสอบ 

ผัวขี้คุกหึงโหดกระหน่ำแทงเมียดับคามือ ลากศพทิ้งริม เขื่อนลำปาว

นอกจากนี้นายอาทิตย์ ยังบอกอีกว่า ก่อนจะมาเจอศพ ยังได้เห็นชายคนหนึ่งไม่สวมเสื้อ เดินไปล้างมือริมตลิ่ง เขื่อนลำปาว อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยเห็นว่าเป็นการล้างคราบเลือดที่ติดมือ จากนั้นจึงขี่รถจักรยายนต์หลบหนีไป แต่ตนไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ จึงไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุทำอย่างไร แต่เมื่อวาน (12 มี.ค. 67) ตนได้มาตกปลาที่บริเวณดังกล่าว คนตายมาเลี้ยงควายกับผู้ก่อเหตุ ทั้งสองคนมีปากเสียงทะเลาะกันประมาณว่าเป็นเรื่องหึงหวง แต่ก็ไม่นานทั้งสองฝ่ายก็หยุดทะเลาะกัน จนกระทั่งวันนี้ตนจึงมาพบว่าผู้ตายถูกแทงตายไปก่อนหน้าที่ตนจะเดินทางมาตกปลาที่บริเวณดังกล่าว 

ขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันของผู้ตายและผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ผู้ตายเคยมีสามีและมีบุตรชาย 2 คน ต่อมาสามีผู้ตายได้เสียชีวิตไป และได้มาอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายสำราญ (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งอดีตเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าสามีคนอื่น ถูกจองจำอยู่ประมาณ 25 ปี และได้ออกจากคุกมาได้ประมาณ 3 ปี ก่อนมาคบกับผู้ตาย และอยู่กินกันมาได้ประมาณ 1 ปี 

1710332902593

โดยผู้ตาย เป็นคนที่มีอุปนิสัยชอบดื่มเที่ยวสนุกไปกับกลุ่มเพื่อนๆ นักดื่มในหมู่บ้านด้วยกัน จึงอาจเป็นฉนวนเหตุให้นายสำราญ สามีใหม่เกิดคนระแวง และหึงหวงกลัวว่าผู้ตายจะไปมีชายอื่นในวงเหล้า โดยจะมีปัญหาระแวงสงสัยมาโดยตลอด กระทั่งมาก่อเหตุสะเทือนใจขึ้น ซึ่งชาวบ้านและญาติๆ ผู้ตายต่างพากันพูดกันเสียงเดียวว่า หากจับได้ ขอให้ประหารชีวิตสถานเดียว เนื่องจากนายสำราญเป็นบุคคลอันตราย 

ด้าน พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ภายใน 7 วันสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ เพราะทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เชื่อว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุเป็นการฆ่า เพราะความหึงหวง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส