นายกรัฐมนตรีฝากความห่วงใยถึงแม่ค้าถูกลิงทำร้าย ขณะที่กรมอุทยานฯ จ่อทบทวนเกณฑ์ช่วยเหลือกรณีลิงทำร้ายคน
ความคืบหน้ากรณี นางสาวอริย์กันตา กาญจนสินเมธา หรือ อ้อม อายุ 37 ปี ชาวบ้านตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรี ที่มาขายของตลาดนัดคนเดินสวนราชานุสรณ์ ถูกลิงทำร้ายช่วงค่ำของวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บเข่าหลุดและสะโพกช้ำนั้น
โดยเมื่อบ่ายวันนี้ นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี ได้เดินทางไปที่บ้านของนางสาวอริย์กันตา ผู้ที่ถูกลิงแย่งอาหารได้รับบาดเจ็บ พร้อมกันนี้ได้นำความห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ทางเลขาฯนายกรัฐมนตรี แจ้งผ่านตนมารวมทั้งได้สอบถามถึงอาการของผู้ที่ได้รรับบาดเจ็บและยังได้มอบกระเช้าและเงินสดให้เป็นกำลังใจ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามถึงความคืบหน้าของการดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงสวนลิงลพบุรี ซึ่งจะได้มีนโยบายนำลิงไปทำหมันและควบคุมประชากรลิงด้วย
ทั้งนี้นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรีฟันธงว่าจะต้องแก้กฎหมายเท่านั้น และต้องให้ทางท้องถิ่นเข้าไปกำเนินการได้ หากต้องรอเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ก็คงจะแก้ลำบาก ทั้งนี้เพราะมีเจ้าหน้าที่จำนวนน้อย งบประมาณที่จำกัดถ้าท้องถิ่นดำเนินการได้ก็จะสามารถตั้งงบประมาณเข้ามาแก้ปัญหาได้เร็ว ขณะที่ในจุดที่เกิดเหตุวันนี้ทางสำนักงานเทศบาลเมืองลพบุรีก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าไปดูเรื่องไฟส่องสว่างแล้ว
ขณะที่ นายเผด็จ ลายทอง ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า การช่วยเหลือเยียวยาจากสัตว์ป่าถูกทำร้าย กรมอุทยานฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้เฉพาะช้างป่ากับกระทิงเท่านั้น ซึ่งลิงยังไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในหลักเกณฑ์การช่วยเหลือดังกล่าว แต่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และมีแนวคิดที่จะนำลิงอยู่ในหลักเกณฑ์การช่วยเหลือด้วย นายเผด็จ กล่าวต่อว่า การทำหลักเกณฑ์ของลิงจะแตกต่างกับช้างป่าและกระทิงค่อนข้างมาก เนื่องจากปัจจุบันลิงแสม ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองได้ออกมาจากธรรมชาติและมาอาศัยอยู่ในตัวเมือง สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนได้ตลอดเวลา ดังนั้นการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ช่วยเหลือในแต่ละกรณีจะค่อนข้างยาก เช่น หากโดนลิงทำร้ายร่างกายจะต้องมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด หรือคลิปวิดีโอ และไม่เป็นการไปยั่วยุ รังแกลิงก่อน คือ ไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับสัตว์ป่า
ที่ผ่านมามีการร้องเรียนเรื่องลิงที่สร้างความปั่นป่วนมาตลอด กรมอุทยานฯ ได้พยายามแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมจำนวนประชากรลิง แต่การปลดลิงออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา หากปลดลิงออกจากการคุ้มครองแล้ว คนจะทำอะไรกับลิงบ้าง อาจจะทำร้ายลิงจนถึงขั้นตาย ปัจจุบันมีการลักลอบลิงส่งออกต่างประเทศ เพื่อเป็นสัตว์ทดลอง หรือแม้กระทั่งนำไปบริโภคตามความเชื่อต่างๆ ดังนั้นการปลดลิงออกจากสัตว์ป่าคุ้มครองจะมีมูลค่าความสูญเสียของลิงที่ประเมินไม่ได้ สิ่งสำคัญคือความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานฯ และท้องถิ่น ในการหาแนวร่วมในทิศทางเดียว การจับทำหมันเพื่อควบคุมประชากรลิง
จากการสำรวจประชากรลิงในพื้นที่ จ.ลพบุรี เมื่อปี 2561 พบมีประชากรลิงทั้งหมด 9,324 ตัว และในปี 2566 มีจำนวนลดลงเหลือ 5,709 ตัว โดยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองลพบุรี มีประมาณ 2,206 ตัว ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้ดำเนินโครงการทำหมันลิงทั้งเพศผู้และเพศเมียอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถทำหมันลิงในพื้นที่จังหวัดลพบุรีได้ทั้งหมด 5,135 ตัว โดยเป็นลิงในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี 2,757 ตัว ซึ่งจะมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอันเกิดจากลิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนประชากรลิงในอนาคต.
