ช็อก! เชียงใหม่ ขึ้นอันดับ1 ของโลก แย่ทั้งเมืองจมหมอกควัน ฝุ่น PM2.5

7 มี.ค. 67

 

ช็อก! เชียงใหม่ ขึ้นอันดับ1 ของโลก แย่ทั้งเมืองจมหมอกควัน ฝุ่น PM2.5 ผู้ว่าฯ วอนงดเผาทุกชนิด เตือนประชาชนรีบป้องกันตนเองด่วน 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.เชียงใหม่ ครองแชมป์อันดับ 1 ของเมืองที่มีคุณภาพที่แย่ที่สุดในโลก จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์ https://www.iqair.com รายงานคุณภาพอากาศของเมืองที่มีคุณภาพแย่ที่สุดในโลก 

โดย จ.เชียงใหม่ มีดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 192 US AQI เป็นสีแดง มีผลกระทบต่อทุกคน ส่วนการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 134.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 

ขณะที่ข้อมูลคุณภาพอากาศของ กรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มี.ค. พบว่า ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต.ศรีภูมิ อ.เมือง ค่าฝุ่น PM2.5 วัดได้ 116.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้  242 AQI ที่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง ค่าฝุ่น PM2.5 วัดได้ 105.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้  231 AQI ที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ บนดอยสุเทพ ค่าฝุ่น PM2.5 วัดได้ 87.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้  213 AQI และสูงที่สุดของเชียงใหม่ อยู่ที่ ตำบลเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ค่าฝุ่น PM2.5 วัดได้ 140.1ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้  266 AQI 

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ ออกประกาศเตือนประชาชนฉบับที่ 2 ค่าฝุ่นพิษ PM.5 เพิ่มไฟป่าเพิ่ม ภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม/ชม. แนวโน้มการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์อ่อนถึงดี ประกอบกับสภาวะอากาศใกล้ผิวพื้นมีลักษณะปิดตลอดช่วงส่งผลให้การระบายฝุ่นละอองเป็นไปได้อย่างจำกัดและเกิดการสะสม 

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) กรมควบคุมมลพิษ ประกาศ เรื่อง คุณภาพอากาศเกินมาตรฐานบริเวณภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) ฉบับที่ 2 (2/2567) วันที่ 7 มี.ค. 67 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน สถานการณ์คุณภาพอากาศ จากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM23) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยพบปริมาณฝุ่น PM 2.5 ณ เวลา 09.00 น. มีค่าระหว่าง 43.1 - 199.0 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึง มีผลกระทบต่อสุขภาพ" 

จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม/ชม. แนวโน้มการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์อ่อนถึงดี  ประกอบกับสภาวะอากาศใกล้ผิวพื้น มีลักษณะปิดตลอดช่วงส่งผลให้การระบายฝุ่นละอองเป็นไปได้อย่างจำกัด และเกิดการสะสม จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังสุขภาพ  โดยงดกิจกรรมกลางแจ้ง แต่หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรม หรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็ก และคนชรา หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ และควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ หรือสถานที่ที่มีการปรับอากาศ เช่นห้างฯ ร้านกาแฟ ที่ทำงาน ให้เตรียมยาและอุปกรณ์จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด 

ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาทุกชนิด งดใช้รถยนต์ที่มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน เพื่อลดการเกิดฝุ่นควันสะสมในอากาศอันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนประชาชนหรือผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ที่เฟสบุ๊ค "อากาศบ้านเฮา"หรือเว็บไซต์ "air4thai.pcd.go.th" หรือแอพพลิเคชั่น "Air4thai" ประกาศ ณ วันที่ 7 มี.ค. 67 

ด้าน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่าวันนี้เชียงใหม่ค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากควันไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้าน จากสถิติค่าฝุ่นจะพบว่าตามพื้นที่อำเภอชายแดนฝั่งตะวันตกของเรามีค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งเวียงแหง ไชยปราการ ฝาง แม่อาย ไชยปราการ และเชียงดาว 5 อำเภอจะสูงมาก สอดคล้องกับตัวเลขของจังหวัดชายแดนอย่าง จ.แม่ฮ่องสอน ที่รับลมตะวันตกเช่นเดียวกัน ส่วนในตัวเมืองเชียงใหม่จะเป็นจุดที่ค่าฝุ่นต่ำที่สุดของจังหวัด แต่ลักษณะของตัวเมืองเป็นแอ่งทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นควันมากขึ้นต้องอาศัยลมที่แรง ตอนนี้ประสานทางฝนหลวงแก้ไขปัญหาหมอกควันด้วยวิธีก่อกวนอากาศให้เปิดช่องอากาศที่กดทับหมอกควันลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเป็นการช่วยระบายหมอกควันที่สะสมตัวลงได้ระดับหนึ่ง 

นายนิรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เป็นห่วงเรื่องของสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ฝากย้ำไปถึงที่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่เฝ้าระวัง และป้องกันตนเองจากสถานการณ์ฝุ่นควันที่วิกฤติขึ้นในตอนนี้ ไม่จำเป็นไม่ต้องออกจากบ้านหรืออาคาร ลดความเสี่ยง ส่วนเรื่องขอการเผาตอนนี้สั่งการให้งดการเผาทุกพื้นที่แล้ว แต่ยังคงพบว่ามีการลักลอบเผาในบางพื้นที่ก็จะต้องขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาทุกชนิดในช่วงนี้ 

ส่วนบรรยากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ ตอนนี้เหมือนกับจมอยู่ใต้หมอกควันไฟที่หนาทึบมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงบ่ายจะพบว่ามีหมอกควันสีขาว มาพร้อมกับกลิ่นไหม้ที่รุนแรงเข้าปกคลุมทั้งตัวเมืองจนขาวโพลนไปทั่ว ประชาชนต้องหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งต้องเป็นหน้ากากอนามัยชนิดที่ป้องกันPM2.5 ได้ เท่านั้น แต่พบว่าบางส่วนยังใช้เพียงหน้ากากอนามัยธรรมดาอยู่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส