ปราบเจ้าสำนัก AI รับสอน ตัดต่อภาพลามก ศิลปินดาราสาวหลายราย

2 มี.ค. 67

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปราบเจ้าสำนัก AI รับสอน ตัดต่อภาพลามก ศิลปินสาววง PiXXiE และดาราสาวหลายรายเสียหาย 

วันที่ 2 มี.ค. 67 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. 

ร่วมตรวจค้น บ้านพักของนายกษมา บุคคลที่มีการสอนและรับตัดต่อภาพลามกอนาจาร ในพื้นที่ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามหมายค้นศาลจังหวัดสงขลา ที่ ค.40/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ. 67 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน กรณีเรื่องที่มีบุคคลมาเเจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า มีกลุ่มเครือข่ายนักตัดต่อภาพลามกอนาจารด้วยเครื่องมือ Generative AI ซึ่งสามารถแปลงภาพของบุคคลแบบปกติ ให้กลายเป็นรูปภาพลักษณะลามกอนาจาร และนำไปเพยเเพร่ในสื่อโซเชียล จนทำให้ได้รับความเสียหาย 

โดยจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าว จะมีการจัดคอร์สสอนการใช้งาน Image Generative AI พร้อมทั้งจำหน่ายสคริปต์ (ชุดคำสั่ง) และเอไอโมเดล โดยจะมีนายกษมา เป็นผู้สอนคอร์สดังกล่าว ซึ่งในคอร์สสอนตัดต่อภาพนี้จะมีการปรับแต่งพารามิเตอร์ให้ได้ผลลัพธ์ของการตัดต่อที่มีความแม่นยำและมีคุณภาพสูง โดยจากการตรวจสอบพบว่า นายกษมา มีการเปิดสอนเเละเก็บเงินค่าสอนผ่านกลุ่มลับที่มีสมาชิกกว่า 400 ราย อีกทั้งนายกษมา ยังรับตัดต่อภาพเองด้วยเครื่องมือข้างต้นอีกด้วย 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสงขลา ที่ ค.40/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ.  67 เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายกษมา พบนายกษมา แสดงตนเป็นผู้อาศัยสถานที่ดังกล่าว และผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดสิ่งของไว้เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น จากการสอบปากคำนายกษมา ให้การว่า ตนเองจบการศึกษาด้านสารสนเทศ มีความสามารถในการใช้เครื่องมือ AI จึงรับสอนและรับตัดต่อรูปภาพของผู้เสียหายและดาราหลายราย โดยตนจะใช้เครื่องมือแบบ Image Generative AI ซึ่งตนเองได้มีการทำ Pre-Trained Model และปรับแต่งพารามิเตอร์จนภาพที่ได้มีคุณภาพดี และแนบเนียน 

ทั้งนี้การกระทำของนายกษมา ซึ่งได้เปิดสอนการใช้เครื่องมือในลักษณะดังกล่าว เป็นต้นเหตุที่ทำให้มีการกระทำความผิดในลักษณะตัดต่อภาพลามกอนาจารมีความแนบเนียนสูงขึ้น และยังทำให้เกิดการแพร่หลายของพฤติกรรมลักษณะข้างต้น 

การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็น “การกระทำเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (4) 

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส