อากู๋เสียใจอยากให้คดีครอบครองปรปักษ์ไกล่เกลี่ยทางกฎหมาย หลานชายย้ำไม่อยากให้ซ้ำเติมคนตาย

26 ก.พ. 67

ทนายเดชา ควง "ซัน" หลานอากู๋ เปิดใจ หลัง 1 ใน 5 ผู้ต้องหาเครียดจนจบชีวิต ชี้อากู๋เสียใจ อยากให้มีการไกล่เกลี่ยผ่านกระบวนการทางกฎหมาย หลานชายย้ำไม่อยากให้ซ้ำเติมคนตาย

เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมด้วย "นายซัน" หลานชายของอากู๋ รวมถึงทนายกุ้ง ได้ตั้งโต๊ะแถลงหลัง หญิงซึ่งเป็น 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุก ครอบครองปรปักษ์เครียดหนักจนจบชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

นายซัน เผยว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้ ทนายเดชาเผยว่า ทางฝ่ายอากู๋ และหลานชาย ขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอโหสิกรรมให้ ในส่วนของคดีการบุกรุกแรกเรื่องคดีในขณะนี้อยู่ในชั้นของพนักงานอัยการ ที่กำหนดเดิมมีกำหนดส่งฟ้องต่อศาลในวันที่ 6 มีนาคมที่จะถึงนี้ แต่กรณีที่มีหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีเสียชีวิต ต้องมีการจำหน่ายคดีในส่วนของผู้เสียชีวิตออกไป จึงยังไม่ทราบว่า กำหนดการเดิมจะมีการเลื่อนหรือไม่

ทนายเดชาเผยว่า สามีของผู้ตายเคยติดต่อมาที่ตนเพื่อขอโทษ ไกล่เกลี่ยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่บุกรุก และอยากจะเข้าไปกราบขอโทษอากู๋ แต่ก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น ซึ่งคนที่ไปร้องครอบครองปรปักษ์คือพี่สาวของผู้ตาย และผู้ตายยังเคยติดต่อมาที่นายซัน แสดงความจริงใจเพื่อขอให้ยกโทษให้ และส่งข้อความมาว่า อยากให้ช่วยทำบุญให้คนป่วย

นายซันเผยว่าทางคู่กรณีเคยบอกว่าจะถอนการขอสิทธิครอบครองปรปักษ์ แต่ตนก็ไปติดตามเรื่องเรื่อยๆ ก็พบว่ายังไม่มีการถอนคำร้องออกไป ทางนั้นก็พยายามติดต่อมา ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็ยังโกรธอยู่ แต่ตอนนี้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว เรื่องจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที

ส่วนเรื่องที่ทนายฝั่งตรงข้ามบอกว่า เหตุสลดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฝ่ายตนใช้สื่อกดดันจนทนไม่ไหวถึงขั้นคิดสั้น ทนายเดชาเผยว่าไม่เป็นความจริง การร้องเรียนสื่อมวลชนเป็นเรื่องปกติ เป็นการใช้สิทธิโดยชอบ การที่ทนายความมาพูดแบบนี้แสดงว่าไม่มีความรับผิดชอบ ผมอยากถามกลับว่าการที่ลูกความของคุณตาย เป็นเพราะคุณหรือเป็นเพราะสื่อ เรื่องมันจะจบอยู่แล้ว แต่พอเปลี่ยนทนายความใหม่ก็มาเจอเหตุบุกรุกซ้ำสอง ฝากถึงทนายด้วยว่าคุณธรรมต้องนำกฎหมาย การบุกรุกแย่งบ้านคนอื่นไม่ควรทำ

ทนายเดชา เผยอีกว่า เคสนี้มีทั้งหมด 3 คดี เคสผู้ตายเป็นคดีแรกคือการบุกรุก ซึ่งหลังเกิดเรื่องสลด อากู๋เองก็เสียใจและอยากให้มีการไกล่เกลี่ยผ่านกระบวนการทางกฎหมาย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากในอนาคตคู่กรณีอยากให้จบด้วยการซื้อบ้านต่อจะขายให้หรือไม่ นายซันบอกว่าเรื่องนี้ต้องถามครอบครัวและปรึกษาอากู๋ก่อน และไม่อยากให้ใครไปซ้ำเติมครอบครัวผู้เสียชีวิต

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส