หลานชายอากู๋ ยันไม่มีไกล่เกลี่ย ตำรวจนำตัว 5 ผู้ต้องหาส่งอัยการ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา บุกรุก ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์
จากกรณีเจ้าของบ้านปล่อยบ้านร้าง ย่านรามอินทราซอย 58 มานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านเข้าไปยึดทำเป็นร้านอาหาร จนเกิดเป็นการฟ้องร้องกัน ก่อนที่คู่กรณีจะขนย้ายของออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และกลับเข้ามาอ้างสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ เปิดร้านขายไก่ทอด ทำให้เจ้าของบ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดูบ้าน ปลดป้าย ล็อกกุญแจ และประกาศความเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง
ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจนำตัว 5 ผู้ต้องหาที่บุกรุกบ้านมาส่งอัยการ พร้อมแจ้งเอาผิด 3 ข้อหา ได้แก่ ฐานบุกรุก ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ ขณะเดียวกัน "นายซัน" หลานชายอากู๋เจ้าของบ้านตัวจริง ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการ ที่สำนักงานอัยการมีนบุรี พร้อมระบุว่า ตอนนี้คู่กรณีไม่ได้ติดต่อเข้ามา ส่วนที่เขาบอกว่าหากได้พูดคุยกันก่อนพูดกันดีๆ ก็จะคืนบ้านให้ ตนมองว่ามันแปลกตั้งแต่คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านคนอื่นแล้ว มันไม่ปกติ ไม่ควรเป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้น หากคุยเองก็ไม่รู้จะส่งผลเสียต่อตัวเองยังไง ก็ต้องปรึกษาทนายดีกว่า ยืนยันจะไม่ขอไกล่เกลี่ย เพราะคู่กรณีแอบมาฟ้องแพ่ง หวังครอบครองปรปักษ์ก่อน ตอนนี้คงไกล่เกลี่ยไม่ได้แล้ว เพราะอีกฝ่ายดูไม่เกรงกลัวกฎหมาย
นายซัน เผยอีกว่าส่วนเรื่องที่พยานมายืนยันว่าคู่กรณีอยู่บ้านนี้มาเกิน 10 ปีนั้น หากศาลตัดสินว่าเป็นพยานเท็จ ตนก็คงต้อวฟ้องกลับพยานทั้งหมดเพราะตนก็มีหลักฐานว่าเขาอยู่ไม่ถึง 10 ปี หลังเกิดเรื่องตนยังไม่ได้เข้าไปนอนที่บ้านหลังดังกล่าว เพราะครอบครัวเป็นห่วง อีกฝ่ายเองเขาก็มีพรรคพวกมาก ซึ่งตอนนี้มีคนติดต่อมาขอเช่าบ้านแล้ว หลังคดีจบคิดไว้ว่าจะปล่อยบ้านให้เช่าหรือขายบ้านหลังนี้เลย แต่ต้องรอถามอากู๋อีกครั้ง ตอนนี้มั่นใจในส่วนของคดีความที่จะเอาผิดอีกฝ่ายเพราะมีหลักฐานชัดเจน
ผู้สื่อข่าาวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจาก 5 ผู้ต้องหาบุกรุกบ้านเดินทางมายังสำนักงานอัยการมีนบุรี ทุกคนใส่แว่น สวมหมวกและหน้ากากอนามัยอำพรางใบหน้า หลังจากเข้าพบอัยการมีนบุรีเป็นเวลา 30 นาที ผู้ต้องหาทั้งหมดได้แอบลงทางประตูหลังของสำนักงานอัยการมีนบุรี แล้วรีบขึ้นรถหลบสื่อมวลชนในทันที
