กมธ.การเงินฯ เล็งเชิญ “ลูกหนี้-ศรีสวัสดิ์” ไกล่เกลี่ย ตามมาตรการ ธปท.

8 ก.พ. 67

 

กมธ.การเงินฯ เล็งเชิญ “ลูกหนี้-ศรีสวัสดิ์” ไกล่เกลี่ยตามมาตรการ ธปท. ขณะที่ “ศรีสวัสดิ์” พร้อมร่วมมือ ยันทำธุรกิจตามกฎหมาย โปร่งใส ตรวจสอบได้ 

วันที่ 8 ก.พ. 67 นาย ณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง สถาบันการเงิน และตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณากรณีข้อกล่าวหา บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด การปลอมแปลงและใช้เอกสารสิทธิ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลว่า 

เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติตามที่ถูกกล่าวหา แต่ขณะนี้ต้องรอเอกสารจากผู้ร้องและผู้ถูกร้องยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามายังกมธ. แต่เนื่องจากเอกสารบางรายการยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่ง กมธ. ไม่สามารถก้าวล่วงได้ จึงต้องรอข้อมูลที่ครบถ้วน ก่อนนำมาประกอบการพิจารณาของ กมธ.อีกครั้ง 

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า จากการประชุมนัดแรก เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะมีการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยเฉพาะศรีสวัสดิ์ชี้แจงว่าพร้อมที่จะพูดคุยหาทางออกร่วมกันกับกมธ. หลังกมธ. ได้หยิบยกมาตรการ Responsible Lending (หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  กำหนดว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไป ให้สถาบันการเงินที่อยู่ในกำกับดูแล ก่อนจะดำเนินการฟ้องร้องหรือยึดทรัพย์ ให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ หรือไกล่เกลี่ยลูกหนี้ก่อนอย่างน้อย 1 ครั้ง ซึ่งประเด็นนี้อาจจะมีการพูดคุยกันต่อใน การประชุมนัดถัดไป 

ด้าน น.ส.ธิดา แก้วบุตตา ผอ.กลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) กล่าวว่า เรายินดีที่จะพบ และให้ข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมกับ กมธ. และคู่กรณีอีกครั้งหากมีการเชิญมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงานและฝ่ายกฎหมายได้เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ มาชี้แจงต่อ กมธ. ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่าการดำเนินกิจการของบริษัทเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการ ไม่มีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ไม่ได้มีการปลอมแปลงเอกสารสิทธิตามที่ถูกร้องเรียน เรานำ ภาพถ่ายขณะทำสัญญา คลิปเสียงลูกค้ายืนยันการทำสัญญาดังกล่าวกับบริษัท และ เอกสารหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องไปแสดงกับกรรมาธิการเพื่อยืนยันความโปร่งใส อย่างไรก็ดี เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างกระบวนการศาลยุติธรรม ซึ่งทางฝ่ายกฎหมายของบริษัทกำลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง 

“เรายืนยันในการดำเนินกิจการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ในเมื่อมีการร้องเรียน เราก็พร้อมและยินดีที่จะมาชี้แจง พร้อมแสดงหลักฐานประกอบ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทช่วยเหลือลูกค้าที่มีเหตุจำเป็นและติดขัด ซึ่งติดต่อขอความช่วยเหลือเข้ามาโดยตลอด โดยสามารถติดต่อที่สาขา หรือ ติดต่อผ่าน Call Center ของบริษัท ที่เบอร์ 1652 นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤตโควิท บริษัทร่วมช่วยคนไทยด้วยการร่วมมือกับธนาคารออมสินกดดันราคาโครงสร้างดอกเบี้ยปรับลดโครงสร้างดอกเบี้ยของตลาดประมาณ 8%- 10% ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า“ น.ส.ธิดา กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส