แม่สุดทนยืมเงินดอกร้อยละ 20 ประกันตัวลูกทาสยาออกจากสถานพินิจ แต่ไม่สำนึกหวนกลับไปเสพคุ้มคลั่งหนัก จนต้องแจ้งตำรวจจับ
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา11.30 น.ขณะที่ ร.ต.อ.วิฆเนตร ซื่อตรง รองสวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังสายตรวจ 191 ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งเหตุชายคุ้มคลั่งอาละวาดที่ชุมชนผาสุก ถนนนเรศวร เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังพร้อมไม้ง่ามรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบนางอนงค์ อายุ 39 ปี ยืนอยู่หน้าบ้านปูน 2 ชั้น เพื่อรอตำรวจ บอกว่า นายศิวะ อายุ 17 ปีลูกชายอาละวาดขอเงินแม่และขังตัวเองอยู่บนห้องนอนชั้น 2 ตำรวจได้เรียกให้นายศิวะ เปิดประตูห้องลงมา แต่นายศิวะ ไม่ยอมเปิดประตูห้อง ตำรวจเกลี้ยกล่อมอยู่ประมาณ 20 นาที จึงตัดสินใจพังประตูห้องเข้าไปควบคุมตัว นายศิวะ ไปโรงพักดำเนินคดี
นายศิวะอ้างว่า ตนไม่ได้อาละวาด แค่พูดเล่นกับแม่ ร้องเรียกแม่เฉยๆ แต่เสียงดัง ซึ่งตนขอเงินแม่ไปใช้จ่ายและเล่นกับเพื่อน เงินเหลือก็เก็บไว้ ตนยอมรับว่าเสพยาบ้าวันละ 1-2 เม็ด ล่าสุดเสพเมื่อ 3 วันที่แล้ว ส่วนยาบ้าไม่ได้ซื้อไปขอเสพเพื่อน
นางอนงค์ เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน สามีไปทำงานรับจ้าง ส่วนตนขายน้ำที่บ้าน สาเหตุที่แจ้งตำรวจเพราะลูกชายคลุ้มคลั่งอาละวาดบนห้องนอนชั้นสองเพราะเสพยา ซึ่งลูกชายไม่ยอมไปโรงเรียน ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.2 ไปมั่วสุมเสพยาเคยถูกจับส่งสถานพินิจ ข้อหาครอบครองยาบ้า 18 เม็ด เมื่อเดือนกันยายน 2566 ตนได้ไปกู้ยืมเงินนอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 20 มาประกันตัวลูกออกมา เพราะหวังว่าลูกจะดีขึ้น ออกมาจากสถานพินิจแรกๆก็ดี แต่พอนานไปก็หวนกลับไปเป็นเหมือนเดิม ไม่ไปรายงานตัวอีกเลย ตื่นเช้าก็กินข้าวขอเงิน พอได้เงินก็หายไป ซักพักก็กลับมาขออีกวันละเป็น 100 บาท
“ขอทุกวันจนไม่มีเงินจะลงทุนซื้อของมาขาย ถ้าไม่ให้ก็จะโวยวายใส่ หนักเข้าก็อาละวาด แต่ถ้าพ่ออยู่จะไม่กล้า วันนี้กลับมาจากทำธุระได้ยินเสียงอาละวาดในห้องนอนไม่กล้าเข้าบ้าน จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจจับ อยากบอกลูกว่าให้เลิก คิดให้ได้รู้ว่าเป็นแหล่งมั่วสุม แต่ก็ขึ้นอยู่ที่คน เพราะคนอื่นก็ไม่ยุ่งเกี่ยว ลูกเป็นวัยรุ่นเพื่อนก็มีส่วน แต่จะไม่ไปประกันตัวลูกอีกแล้ว”
ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะนายศิวะพบว่าเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหา“เสพยาเสพติดประเภท1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป.
