พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ได้เห็นชอบในประกาศเจตนารมณ์
“กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรชั้นนำ ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นลดการใช้พลาสติกและโฟม โดยให้หน่วยงานกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ปลอดขยะพลาสติกและโฟม” ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้ทุกหน่วยงานช่วยกันลด ละ เลิกการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ภายในวันที่ 1 ม.ค.63 โดยเปลี่ยนไปใช้ถุงผ้าแทน
พร้อมกำหนดมาตรการสำคัญ 5 มาตรการด้วย อาทิ ขอความร่วมมือบุคลากรกรุงเทพมหานครทุกคน ไม่นำถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟมเข้าอาคารสำนักงานของกรุงเทพมหานครทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 เป็น ต้นไป, ให้หน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่งกำหนดมาตรการสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ฯ โดยให้หน่วยงานกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปลอดขยะพลาสติกและโฟม, ให้หน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง กำหนดให้ร้านอาหารที่นำของเข้ามาขายในหน่วยงานลดงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟม รวมถึง ขอความร่วมมือให้บุคลากรของกรุงเทพมหานครทุกคน ให้คำแนะนำบุคคลภายนอกที่มาติดต่อราชการ ห้ามนำถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟมเข้ามาในอาคาร
ซึ่งจากการกำหนดให้หน่วยงานกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปลอดขยะพลาสติกและโฟม ปรากฎว่า กลับมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์
นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ชี้แจงว่า มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า กทม. ห้ามประชาชนที่มาติดต่อราชการนำพลาสติกและโฟมเข้ามาในอาคารที่ทำการของ กทม. ทุกแห่งนั้น ไม่ใช่ เป็นเพียงแต่แนะนำ และเชิญชวน ไม่ได้บังคับหรือห้ามเด็ดขาด
ขณะที่ กทม.ได้จัดโครงการ
ปักชื่อ ถือถุง มุ่งรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยให้บริการ ปักชื่อ นามสกุล บนถุงผ้าฟรี! ที่โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร 7 แห่ง อาทิ โรงเรียนฝึกอาชีพฯ ดินแดง 2 โรงเรียนฝึกอาชีพฯ บางรัก และโรงเรียนฝึกอาชีพฯ ม้วนบำรุงศิลป์ ผู้ที่สนใจปักชื่อบนถุงผ้า ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริงหรือชื่อเล่น สามารถใช้บริการได้ฟรี ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 63 เป็นต้นไป
