สายไหมต้องรอดร้องสอบผู้บังคับบัญชา ร.ต.อ.ฉาว ขืนใจเด็กแลกค่าปรับ

31 ม.ค. 67

ร้องสอบผู้บังคับบัญชา ร.ต.อ.ฉาวขืนใจเด็กแลกค่าปรับ ชี้มีด่านตรวจ แต่ไม่มีนายตำรวจคนอื่นอยู่ด้วย หรือว่ารู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่

 

วันที่ 31 ม.ค. เวลา 10.00 น. กระทรวงศึกษาธิการ นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางเข้าพบ นายสุรศักดิ์  พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) เพื่อประสานขอความช่วยเหลือกรณีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.5 อายุ 15 ปี ถูกนายตำรวจยศ ร.ต.อ. ข่มขืนเพื่อแลกค่าปรับ 2,000 บาท ในพื้นที่สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

โดยนายเอกภพ เผยว่า หลังจากที่ตัวเองได้รับเรื่องร้องเรียนได้ประสานกับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติจนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และท้ายที่สุดนายตำรวจคนนี้ถูกให้ออกจากราชการและถูกดำเนินคดีตามกฏหมายในหลายข้อหา โดยขณะนี้ได้ถูกฝากขังศาลไม่ให้ประกันตัวเพราะมองว่าเป็นคดีร้ายแรง

ส่วนน้องผู้เสียหาย ทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้รวมถึงทั้งครอบครัวยังติดใจกับพฤติการณ์ของครูบางคน ที่หลังเกิดเหตุมีการทักข้อความสอบถามเด็กในกลุ่มว่าใครถูกกระทำตามที่เป็นข่าว ซึ่งมองว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ไม่เหมาะสมอย่างมาก จึงเข้ามาประสานกับทางกระทรวงศึกษาธิการให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้

นายเอกภพ บอกเพิ่มเติมว่า อาจมีเหยื่อรายอื่นเพิ่มเติมเนื่องจากนายตำรวจคนนี้ มักได้รับมอบหมายให้ไปเป็นวิทยากรสอนนักเรียนเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด การป้องกันเหตุทางเพศ โดยมีข้อมูลว่าพฤติกรรมของนายตำรวจคนนี้ มักเข้าหานักเรียนหน้าตาดี ขอไลน์เด็กนักเรียนและติดต่อไปพูดคุยถึงชู้สาว ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีนักเรียนคนไหนเป็นเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกหรือไม่

ขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบนายตำรวจคนอื่นว่ามีใครมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับ กับตำรวจนายนี้หรือไม่ ขณะเดียวกันตัวเองมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอาผิดแค่ตำรวจผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ควรตรวจสอบผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่าว่าทำไมวันนั้นที่มีการตั้งด่านตรวจ ถึงไม่มีผู้บังคับบัญชาหรือนายตำรวจคนอื่นอยู่ด้วย หรือว่ามีนายตำรวจคนอื่นอยู่ด้วยแล้วรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่

ขณะที่นายสุรศักดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้การช่วยเหลือเยียวยากับครอบครัวของเด็กนักเรียนในเบื้องต้นเรื่องของการเรียน เนื่องจากได้ข้อมูลว่าตอนนี้สภาพจิตใจของเด็กยังไม่สามารถกลับมาเรียนหนังสือได้ตามปกติ จึงต้องไปพูดคุยกับโรงเรียนว่าจะมีวิธีการไหนช่วยเหลือเด็กใดบ้าง เช่นการเรียนออนไลน์หรือให้ทำรายงานส่งเก็บคะแนน รวมถึงจะส่งเจ้าหน้าที่สำนักความปลอดภัยให้ไปดูแลความปลอดภัยของเด็ก

รวมถึงเข้าไปเน้นย้ำเรื่องพฤติกรรมของบุคลากรในโรงเรียน เรื่องของการให้ข่าวกับสื่อมวลชนสื่อมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากอาจจะกระทบจิตใจของเด็กผู้เสียหาย

ส่วนที่มีข้อมูลว่านายตำรวจคนนี้เคยเข้าไปสอนนักเรียนแล้วมีพฤติกรรมทักข้อความหานักเรียนอย่างไม่เหมาะสม ก็ฝากประชาสัมพันธ์ว่าใครที่ถูกนายตำรวจคนนี้ทักไปหาเชิงชู้สาว หรือแม้กระทั่งบุคลากรการศึกษาคนอื่นทักข้อความพูดคุยลักษณะเชิงชู้สาวก็ให้ติดต่อมาที่กระทรวงศึกษาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอาผิดตามกระบวนการต่อไป

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส