เปิดวงจรปิด พลายโตโต้ ตกใจเสียงแตรรถหน้าศาลเทพารักษ์ วิ่งชนควาญดับ

25 ม.ค. 67

ควาญช้างจูง พลายโตโต้ เร่ขายอ้อยข้างถนน แต่ตกใจเสียงแตรวิ่งชนควาญดับสลด

วันที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 19.45 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุช้างทำร้ายคนดูแลได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าศาลเทพารักษ์ ถนนศุภกิจจรรยา เขตเทศบาลนครอุดรธานีอาสากู้ภัยส่งเสริมธรรมรุดไปตรวจสอบ

พบผู้บาดเจ็บนอนอยู่ฟุตปาธ มีอาการเจ็บหน้าอกและปวดหลัง ทราบชื่อนายนาค สีสันงาม อายุ 59 ปี ชาวตำบลชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่เสียชีวิตในเวลา 06.00 น.วันที่ 25 มกราคม 2567

โดยมี พ.ต.ท.พีระ ราศี สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รุดไปชันสูตรพลิกศพ พบกระดูกหน้าอกยุบ ตกเลือดในช่องปอด โดยมีกล้องวงจรปิดเทศบาลนครอุดรธานี บันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ โดยมีนายสนอง พานิชเกียรติ อายุ 62 ปี พ่อค้าขายพวงมาลัยและเครื่องสักการะศาลเทพารักษ์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ไปชี้จุดเกิดเหตุตอนช้างชนผู้ตาย

นายฉัตรชัย เปรียบสม อายุ 32 ปี เจ้าของช้างและญาติผู้ตาย เดินทางมาติดต่อขอรับศพที่นิติเวชโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เล่าว่าผู้ตายเป็นลุง มีอาชีพเป็นคาวญช้าง และมาอยู่กับตนได้ 5 ปี ซึ่งผู้ตายดูแลช้างเพศผู้ชื่อ “พลายโตโต้” อายุ 9 ปี ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 2 วันก่อนพวกตน 3 คนนำพลายโตโต้ ขึ้นรถบรรทุกผ่านมาทาง จ.อุดรธานี จึงหยุดพักและนำพลายโตโต้เดินขายอ้อยในเขตเทศบาลนครอุดรธานีและหยุดขายอาหารที่บริเวณหน้าศาลเทพารักษ์

“ขณะยืนอยู่หน้าศาลเทพารักษ์พลายโตโต้ตกใจเสียงแตรรถยนต์ที่ขับผ่านศาลเทพารักษ์ทำให้พลายโตโต้วิ่งชนผู้ตายได้รับบาดเจ็บจึงแจ้งเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลต่อมาลุงเสียชีวิต ซึ่งตนได้นำพลายโตโต้ขึ้นรถกลับบ้านแล้ว ส่วนตนได้มาติดต่อขอรับศพลุงกลับบ้านไปเพ็ญกุศลตามประเพณี เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง”

นายสนอง พานิชเกียรติ อายุ 62 ปี ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ตนกำลังจะปิดร้านพอดีพบช้างและควาญช้างเดินมาขายอาหาร ไม่นานก็เห็นช้างชนควาญช้าง โดยใช้สีข้างดันควาญช้างลงฟุตปาธจนควาญช้างได้รับบาดเจ็บนอนแน่นิ่ง พอฟื้นขึ้นมาควาญช้างบอกว่าเจ็บหลังจึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมานำส่งโรงพยาบาล

“พวกตนไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะกลัวว่าช้างจะตกมันแล้วทำร้าย หลังทำร้ายควาญช้างแล้วช้างก็ส่งเสียงร้องดังมาก ควาญช้างที่มาด้วยกันได้ใช้ตะขอสับช้าง 3-4 ครั้งช้างจึงสงบลง และนำช้างไปไว้ข้างรั้วสำนักงานเกษตรจังหวัดอุดรธานี ซึ่งตนไม่เคยเห็นช้างเชือกนี้มาก่อน เพิ่งเห็นเมื่อคืนนี้ ปกติควาญช้างจะนำช้างมาผูกไว้ที่สนามร่มบินบ้านเลื่อมและหลังวัดป่าสามกษัตริย์ เขตเทศบาลเมืองหนองสำโรง”

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส