"ษา วรรณษา" - "อาท รณชัย" รับแตกคอ "แคนดี้ รากแก่น" พ้อโดนตราหน้าหลอกได้แม้กับเพื่อนรัก

ษา วรรณษา และ อาท รณชัย รับแตกคอ แคนดี้ รากแก่น ตอบชัดไม่เคยขายรถย้อมแมว พ้อโดนตราหน้าหลอกได้แม้กับเพื่อนรัก

ทำเอาต่อมหลายคนสงสัยไปตามๆกัน หลัง แคนดี้ รากแก่น ได้ออกแฉว่าโดนคนใกล้ตัวหลอกขายรถย้อมแมวให้ ซึ่งทางโซเชี่ยลก็พุ่งเป้าไปที่เพื่อนสนิทอย่าง ษา วรรณ และ อาท รณชัย ที่ก่อนหน้านี้เห็นทั้งสามคนอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่ช่วงนี้กลับไปเห็นเลย ทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวีของเราก็ได้ไปพูดคุยถึงเรื่องนี้

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ไปพูดคุยกับทาง ษา วรรณ และ อาท รณชัย หลัง แคนดี้ รากแก่น ได้ออกมาแฉโดนคนใกล้ตัวขายรถย้อมแมวให้ ซึ่งหลายคนพุ่งเป้ามาที่ด้าน”พี่ษา”และ ”พี่อาท” โดยวันนี้ทั้งคู่ได้ชี้แจงว่า “อาท” บอก ตนทำธุระกิจมาหลาย และหนึ่งในนั้นคือซื้อขายรถมือสอง และต้องบอกว่าถ้าตนขายรถไม่ดีจริง หรือขายรถพังให้คนอื่นจริง ตนทำไม่ได้มาถึงทุกวันนี้หรอก เราขายรถออกไปเป็นร้อยคันแล้ว ไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้ บอกกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ตอนแรกตนก็ไม่ได้เห็นข่าวอะไร จนมีคนส่งเข้ามาถามเยอะมาก จนไม่เป็นอันทำงานเลย ก็เลยคุยกันสองคนว่าเรามีข่าวอะไรหรือเปล่า เพราะจริงๆเรื่องที่เรามีคือเรื่องโกงเงินน้ำพริกที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้เท่านั้น ไม่น่าจะมีปัญหากับใครอีกแล้ว ก็เลยตัดสินใจเข้าไปดูข่าว ก็ยังไม่ได้เอ๊ะใจอะไร เพราะมั่นใจว่าไม่เคยหลอกขายอะไรให้ใคร แต่ที่ต้องออกมาพูดชี้แจงวันนี้คือมีการพาดพิงถึง”ษา” และมันมีผลกระทบมาถึงตัวเราทั้งสองคน ย้ำเรามีหลักฐานทั้งหมดเวลาจะทำอะไรเลยไม่ได้คิดว่ามีปัญหาอะไร “ษา”บอก ตนมีเรื่องกับคนน้อยมาก พอมาแบบนี้ตนก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่ถ้าต้องการความจริงเราก็มีให้

พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า “อาท”บอก รถคันที่เป็นประเด็นคือษาเขาตั้งใจจะซื้อมาให้ตนเนื่องในวันเกิด เป็นรถเบนซ์ ราคา650,000บาท ก็มีรถเอามาส่งถึงหน้าบ้านเลย เป็นเหมือนของที่มีคุณค่าทางใจสำหรับตน ตนก็ขับเอามาใช้งานปกติ จนวันหนึ่งตนกับษาก็ขับรถคันนี้ไปทำงานที่บ้านเขาตามปกติเลย จนฝั่งเขาเห็นรถก็รู้สึกถูกใจเลยขอไปลองขับ ให้ทั้งแฟนทั้งแม่ไปลองขับ จนลองเสร็จแล้วเขาก็เดินเข้ามาบอกว่าขอซื้อคันนี้นะ แล้วโยนกุญแจคันเก่ามาให้ แล้วเอากุญแจคันนี้ไปเลย ษาเขาไลฟ์อยู่ก็ตกใจ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะไลฟ์ออกกล้องอยู่ บวกกับเขาบอกว่าอยากซื้อให้คุณแม่ด้วย ตนก็ถามอีกว่าคิดให้ดีก่อนจะซื้อคันนี้จริงเหรอ เพราะมันเป็นรถแต่ง และจะซื้อให้คุณแม่ใช้เหรอ เขาก็บอกซื้อขับชิลๆ

จนสุดท้ายด้วยความเป็นเพื่อนก็เลยตัดสินใจขายให้ไป โอนกรรมสิทธิ์กันไป ย้ำมันเป็นรถที่ษาซื้อเซอร์ไพรส์วันเกิดตน แล้วษาจะเอารถสภาพไม่ดีมาให้ตนเหรอ กลับมาตนกับษาก็ทะเลาะกันหนักเลย เพราะเป็นรถที่ษาเขาตั้งใจซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด จนตนบอกว่าไม่เป็นไรค่อยหาคันอื่นก็ได้ ซึ่งรถคันนั้นที่ขายเป็นคันเดียวในไทยที่แต่งแบบนี้ ผ่านไปไม่มีอะไร เขาก็ใช้รถปกติ เราก็มั่นใจว่าทำถูกต้องไม่เคยหลอกใคร

ถามต่อ ตอนเกิดเรื่องขึ้นเป็นยังไง
“อาท”บอก น่าจะไม่ถึงเดือนหลังซื้อไป จู่ๆเขาก็ส่งรูปมาว่ารถกันชนหลุด ตนก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นภาพก็ใจหายเลย เขาก็บอกมาว่ารถไปลุยน้ำหน้าบ้านมา ซึ่งเราก็รู้มาว่าวันนั้นที่ฝนตกหนัก ตรงบ้านเขาน้ำจะท่วมถึงขั้นครึ่งคันรถเลย ตนก็เห็นสภาพรถที่เขาส่งมาก็รู้เลยว่าถ้ารถลุยน้ำปกติไม่แรงขนาดนั้นกันชนไม่หลุด แต่นี่หลุดออกมาหมดเลย ตนเลยแซวไปว่านี่มันชนน้ำแล้ว

ซึ่งตนก็บอกไปว่าใช้กาวน์ซิลิโคนติดได้เลย เพราะรถแต่งเขาทำแบบนี้ กลายเป็นว่าความปกติของเราไม่ใช่ความปกติของเขาเพราะรถเริ่มมีปัญหาเรื่องระบบไฟ รวน ช็อต ดับ เพราะทุกคนรู้รถรุ่นนี้กล้องฟิวส์มันอยู่ใต้เบาะหลัง ซึ่งแน่นอนว่าขับรถลุยน้ำสูงขนาดนั้นต้องโดนน้ำแน่นอน ตนก็อยากถามว่าเราผิดตรงไหน รถอยู่กับเราไม่เคยขับรถลุยน้ำ รถปกติทุกอย่าง บอกพอเห็นรถมีปัญหาตนก็รับผิดชอบช่วยเงินรับผิดชอบไปด้วย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะเพื่อนกัน จนสุดท้ายก็มีโพสต์ประจานออกมา เราก็ตกใจ เป็นรถรูปเรา และรถโดนรื้อหนักมาก และบอกว่าเราขายรถเน่าๆให้ “ษา”บอก ต้องบอกว่าอาทเขาเป็นคนละเอียด ที่ตนซื้อรถคันนี้ให้เขาเพราะเห็นเขาดูหลายรอบแล้ว เขาดูทุกจุด

ผ่านมาจนสุดท้ายเขาก็จะขายคืน เขาให้คนของเขาเอาไปเร่ขายแต่ตนอยากบอกว่ารถไปลุยน้ำมาขนาดนั้นใครจะรับซื้อ แล้วเขาลงโพสต์ประจานรถไปแล้วด้วย จนเขามาบอกว่าไปขายที่ไหนก็ได้แค่แสนกว่าบาท ไม่เกินสามแสนบาท สุดท้ายตนก็ตัดสินใจซื้อรถคืนมาไว้เอง และบอกเขาไปว่ามีเงินให้แค่นี้โอเคไหม คือ 150,000บาท เขาก็โอเคแล้วจบไป รถก็กลับมาเป็นของเรา ตนก็ต้องมาออกเงินค่าซ้อมรถเองอีกด้วยซ้ำ ไม่ได้ติดใจอะไร แล้วเขาติดใจอะไรถึงออกมาพูด

และต้องบอกว่าสิ่งที่เสียใจคือสิ่งที่เราได้ยินมากับความเป็นจริงมันคนละเรื่อง เราไม่เคยไปขอให้ใครมาช่วยเหลือเรื่องการเงินเรา แล้วถ้าเรามีปัญหาเรื่องเงินเราจะไปซื้อรถเงินสดมาได้เหรอ แต่กลับไปบอกว่าการที่ซื้อรถเพราะต้องการจะช่วยเรานะ เราเป็นเจ้าของร้านทอง เราเล่นหุ้นทองปกติ มันมีขึ้นมีลงอยู่แล้ว “ษา”บอก การที่ติดดอยไม่ได้หมายความว่าขาดทุน ทันคือเงินเราอยู่ในทอง ตนว่าเขาน่าจะไม่เข้าใจในเรื่องของการเล่นหุ้น หรือการเล่นรถ บอกสำหรับตนเรื่องทุกอย่างมันจบไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว และไม่รู้ว่ามันวนกลับมาใหม่ได้ไง และครั้งนี้เราโดนโจมตี โดนหาว่าหลอกขายรถเพื่อน เราเสียหายมาก มันมีการแซะเราบ้างเราก็ไม่ได้สนใจ “ษา” บอก ตนอยู่วงการมานานก็มีคนรู้จักอยู่บ้าง และเผอิญว่าเขาไปได้ยินมา แล้วมาบอกตน ตนก็บอกไปว่าคบกันมาคิดว่าเป็นคนแบบนั้นเหรอ เรานิ่งมาตลอด ไม่เคยออกมาพูด

ถามต่อ โพสต์ของแคนดี้มีข้อความบอกว่า อยากเอาพลังลบตรงนี้ออกไป เลิกยุ่งเกี่ยวกัน
“ษา”บอก คงไม่ใช่เราสองคน เพราะเร่ไม่เคยไปยุ่งกับเขา “อาท”บอก เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว ไม่ต้องไปนั่งดูชีวิตกัน และเราไม่เคยโพสต์อะไรถึงคุณ เราแค่ตามหนี้ที่คนมายักยอกกัน และที่เราไปออกรายการก็ไม่มีอะไรพูดพาดพิงถึงเขา “ษา”บอก ตนว่าเขาต้องเคลียร์ตัวเองก่อนไหม เพราะยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอยู่ “อาท”บอก มันถึงขั้นมีคนส่งรูปมาให้เราดูว่าคนที่ยักยอกเงินเรา ไปถ่ายรูปร่วมกับทางเขา ทำธุรกิจร่วมกัน เราก็เฉยๆเลย “ษา”บอก ถึงแม้เป็นคนที่ยักยอกเงินเรา

แต่ถ้าเขาไปทำธุรกิจด้วยกันแล้ว ได้งานได้เงิน ตนก็บอกว่าดีด้วยซ้ำเขาจะได้เอาเงินมาคืนเรา และข้อความที่บอกว่าระวังเรื่องอื่นจะถูกเปิดโปงตามมา ตนก็งงว่าหยุดอะไร ไม่ได้มีเรื่องอะไร เราไม่สนใจว่าคุณจะโพสต์แซะอะไร คุณต้องไปนับศัตรูก่อน “อาท” ย้ำสำหรับตนเรื่องรถมันจบแล้ว และความจริงคือความจริง ถ้าไม่มีใครเอาชื่อษาไปโยงเราไม่สนใจด้วยซ้ำ “ษา”บอกถ้าความจริงที่คุณพูดมันไม่ใช่ก็เสียหายนะ อย่าเลยดีกว่า และไม่อยากให้เรื่องไปถึงศาลหรือฟ้องร้องอะไรทั้งนั้น

ในส่วนของความสัมพันธ์ “อาท”บอก ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง ตนไม่มีประเด็นอะไรกับเขา มันจบแล้วและผ่านมาแล้ว เราจะเอาเรื่องปีที่แล้วมาใส่ใจอีกทำไม เขาก็อยู่ส่วนเขาทำมาหากินไป ไม่น่ามีอะไรที่จะต้องก้ามก่ายกันอีก “ษา”บอก ความเป็นเพื่อน เราต้องรู้นิสัยกัน ถ้ามีเรื่องอะไรก็ควรพูดจากกันหน่อย อย่างใช้สื่อทำร้ายจิตใจกัน เพื่อนเขาพร้อมอธิบายตลอด พอมาทำแบบนี้อาจจะด้วยความที่ใจร้อนหรืออะไร มันก็ทำให้ความสัมพันธ์มันห่างและไม่เหมือนเดิม “อาท”บอก ถ้าเขาอยากเคลียร์หรืออะไร ตนว่าคำว่าเข้าใจตรงกันคือต้องเลิกแซะเรา เลิกพูดอะไรที่มันจะมาเกี่ยวข้องกับเรา เรากับคุณจบแล้ว ไม่ก้าวก่ายกันและกัน วันนี้เราแค่อยากอธิบายและชี้แจง ย้ำเราไม่มีทางไปหลอกขายใครให้เสื่อมเสียชื่อเสียง คุณจะทำอะไรหรือเล่นอะไรทำไป แค่อยากเอาเราเข้าไปเกี่ยว ต่างคนต่างใช้ชีวิตให้ดี

ถามต่อ ยังเรียกเพื่อนกันได้อยู่ไหม
“อาท”บอก เขาคิดว่าเราเป็นเพื่อนไหม? เราไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างเพื่อน ถ้าเราคิดว่าเขาไม่ใช่เพื่อนแล้ว ตนคงตอบโต้อะไรที่มันไม่เห็นแก่หน้าเขา แต่นี่ตนเลือกที่จะนิ่ง สิ่งที่คนตราหน้าเราว่าหลอกเพื่อน (พูดไม่ออก) ตอนนี้คือคนตราหน้าเราว่าอย่าไปซื้ออะไรกับอาทเพราะขนาดเพื่อนรักมันยังทำได้ลง ตนอยากถามว่าตนผิดอะไร ทั้งที่ความจริงไม่ได้แบบนั้น “ษา”บอก สำหรับตนคำว่าเพื่อน และเป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน เจอกันแทบทุกวัน เอาเป็นว่าเขาเป็นเพื่อนอาท แต่สำหรับตนห่างกันสักพักดีกว่า ไม่เห็น ไม่เจอ ไม่คุย จะดีกว่า เจ็บนี้อีกนาน