หมอดูเต็มตัว "เกริก ชิลเลอร์" แม่นจัดทักเพื่อนถึงฆาต เจอดีเจ้ากรรมนายเวรหวิดเดินไม่ได้ 2 ปี

16 ม.ค. 67

หมอดูเต็มตัว เกริก ชิลเลอร์ แม่นจัดทักเพื่อนถึงฆาต ย้อนเล่าเหตุการณ์น่าขนลุก เจอดีเจ้ากรรมนายเวรหวิดเดินไม่ได้ 2 ปี

 

นักแสดงรุ่นใหญ่ เกริก ชิลเลอร์ ที่วันนี้จะมาเปิดบทบาทใหม่กับการเป็นหมอดู เผยจุดเริ่มต้นของการเป็นหมอดู เพราะอยากเช็คดวงตัวเองช่วงลำบาก ? ย้อนเล่าเหตุการณ์น่าขนลุก !! เจอเจ้ากรรมนายเวรเล่นงาน เดินไม่ได้ร่วม 2 ปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow

เกริก ชิลเลอร์ 

เพิ่งเคยรู้ว่าพี่เป็นหมอดูเปิดไพ่?
เกริก ชิลเลอร์ : แทบจะเป็นหมอผีอยู่แล้วทุกวันนี้

ดูไพ่มาตั้งแต่อายุ 23?
เกริก ชิลเลอร์ : จุดกำเนิดการดูไพ่ทาโร่ของผมคือ ตั้งแต่ตอนอายุ 23 กลับมาจากอเมริกา กลับมาไม่มีเงิน ถังแตกกลับมา เอ๊ะ…ชะตาชีวิตเรามันจะเป็นยังไง ตามสไตล์คนที่ดวงตกแล้วเมื่อไหร่ดวงจะขึ้น เราก็อยากรู้ แต่จะไปหาหมอดู หมอดูมั่วหรือเปล่า เราไม่มั่นใจ พอดีอาจารย์ขุนทอง อัศนี เขากำลังดัง แล้วเขาทำเป็นหนังสือพร้อมกับไพ่ขาย เราก็ไปซื้อมา พอชำนาญเสร็จปุ๊บ ถึงเวลาที่จะต้องดูดวงตัวเองแล้วว่าจะเป็นยังไง จะอยู่แบบนี้อีกนานไหม อดมื้อ กินมื้อเนี่ย เปิดมา 3 ใบ อดีต ปัจจุบัน อนาคต อนาคตเป็นซุปเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศเลยเหรอ คือสภาพช่วงตอนนั้นพี่ เศษบุหรี่ยังต้องเก็บดูดเลย เช่าบ้านเขาอยู่มาโดยตลอด

เกริก ชิลเลอร์

เปิดตอนนั้นเชื่อไหม?
เกริก ชิลเลอร์ : ขนลุกครับ เพราะไพ่ที่ผมเปิดมา คือ ไพ่เดอะฟู หมายถึงการเป็นอิสระ ไพ่เดอะซัน ขึ้นมา หมายถึงการกำเนิดใหม่ และไพ่เดอะสตาร์ขึ้นมา หมายถึงจะให้ผลดีกับนักร้อง นักแสดง จะทำให้มีชื่อเสียง และมีความสุขไปเรื่อยๆ

การที่จะดูดวงใคร หรือเป็นซินแส คือต้องเป็นนักปฏิบัติ ตอนนั้นพี่ก็เป็นนักปฏิบัติหรือว่าแค่อ่านหนังสือแล้วเปิดเลย?
เกริก ชิลเลอร์ : พี่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติในสิ่งที่มันควรปฏิบัติ แล้วยุ่งกับเรื่องชาวบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่อาจจะเป็นเพราะคุณแม่พี่ก็เป็นหมอดูมาก่อน แล้วไม่ใช่หมอดูไพ่หรืออะไร เป็นหมอดูพลังจิต ถามว่าดังขนาดไหน ไปอยู่ไมอามี่ คุณแม่ได้ลงหนังสือพิมพ์ที่นั่นมาแล้ว กลับมาเมืองไทย ลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หน้า1 มาแล้วในยุคสมัยนั้น พี่ยังจำได้เลย มหาเศรษฐีในเมืองไทย ปัจจุบันนี้ สมัยก่อนเขาก็มาที่บ้านพี่ให้แม่พี่ดู

เกริก ชิลเลอร์

แสดงว่าจุดเริ่มต้นคือคุณแม่มาทางด้านนี้?
เกริก ชิลเลอร์ : มันน่าจะมาจากการเห็น การสัมผัส แล้วสิ่งที่แม่พูดทุกสิ่ง ทุกอย่างมันเข้ามา

พี่เห็นแล้วอยากจะเป็นแบบคุณแม่ตั้งแต่ตอนแรกไหม?
เกริก ชิลเลอร์ : ดูว่ามันมหัศจรรย์ดี คุณแม่ทำไมเก่งจังเลย ทำไมคุณแม่ทำให้คนที่ยกแขนไม่ได้ ยกได้เลย อะไรอย่างนี้ คือมันเกิดอะไรขึ้น แล้วอยู่ๆ วันนึง คุณแม่ก็ไม่สามารถที่จะดูได้ ไม่สามารถที่จะรักษาใครแบบนั้นได้อีก เพราะมันมีช่วงระยะเวลาของมัน

ย้อนกลับไปนิดนึง ตอนนั้นถ้าเราไม่มีเงิน ทำไมเราไม่คิดว่ากลับไปอเมริกาไหม?
เกริก ชิลเลอร์ : พี่วางแผนกลับไปอเมริกาแล้ว เพราะตอนนั้นพี่ยังอายุไม่ถึง 25 เดี๋ยวเราจะต้องกลับไปเกณฑ์ทหารที่อเมริกา เพราะว่าผม 2 สัญชาติ แล้วไปอยู่ที่นู้น หาทางเรียนหนังสือ พอเสร็จแล้วผมจะเป็นทหารต่อไหม ผมก็ชอบนะ เพราะว่าพ่อผมก็เป็นทหาร หรือว่าผมอยากเป็นตำรวจ ผมก็อาจจะไปสอบเป็นตำรวจต่อ ผมก็วางแผนบันไดชีวิตไว้ แต่ในระหว่างนั้นหาเงินก่อน เพราะไปที่สถานฑูตแล้วเขาไม่มีโครงการที่จะออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ เราก็เลยมาแคสโฆษณา แล้วพอได้เงินก้อนนึงมาประมาณแสนกว่าบาท ตั้งตัวได้เลย เอาแม่มาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน

เกริก ชิลเลอร์

ตอนที่พี่เปิดไพ่ตอนนั้น พี่แทบจะไม่มีเงินติดตัวเลย พูดแบบนี้ได้ไหม?
เกริก ชิลเลอร์ : ไม่มี

เอาง่ายๆ ที่เราดูดวงตัวเอง เพราะไม่มีเงินไปดูกับเขา?
เกริก ชิลเลอร์ : ใช่ ใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยหัวใจและความหวังอย่างเดียว

ตอนที่พี่เปิดว่าเป็นซุปตาร์ ตอนนั้นมีเงินอยู่เท่าไหร?
เกริก ชิลเลอร์ : ตอนนั้นสลึงนึงยังไม่มีเลย โทรศัพท์ไปหาหลาน ขอยืมเงิน 5,000 มี 2,000 เอาไปก่อน ก็ยังมีเงินกินข้าว แล้วเชื่อไหมว่ามันไม่มีขนาด มาม่าห่อนึงผมต้องแบ่งกิน 2 มื้อ เช้า-เย็น แต่ช่วงนั้นหุ่นดีมากเลย กล้ามท้องมา

เกริก ชิลเลอร์

หลังจากเปิดไพ่ว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ใช้เวลานานไหมกว่าจะดังชั่วข้ามคืน?
เกริก ชิลเลอร์ : ประมาณ 5-6 เดือน พอหลังจากนั้น 1-2 อาทิตย์ก็มีโฆษณาตัวนี้ติดต่อมา แล้วเราไปแคส เขาหาคนมาเป็น 100 แล้วไม่ถูกใจ เขาก็เลยลองเอาเราไปแคสเป็นตัวแถม แล้วเขาก็เอา พอหลังจากถ่ายโฆษณาเสร็จปุ๊บอีกไม่กี่เดือนโฆษณาก็ออก ตอนนั้นจำได้ว่านอนดูทีวีอยู่กับแม่ที่บ้าน โฆษณามาตอนประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง หลังละครจบแล้ว แม่นั่งดูอยู่บอกว่าแจ็คไม่ต้องไปอเมริกาแล้วลูก อยู่นี่แหละ ดังแล้วลูก

โฆษณานี่ดังมาก?
เกริก ชิลเลอร์ : ดังจริง แล้วได้รับรางวัลทั่วโลกเลย

หลังจากโฆษณานี้พี่เกริกก็มีชื่อเสียง?
เกริก ชิลเลอร์ : ใช่ แล้วมาเล่นละคร

เกริก ชิลเลอร์

พี่ดังขนาดไหนกับโฆษณาตัวนี้?
เกริก ชิลเลอร์ : มาก ออกจากบ้านมีคนรู้จัก

หลังจากนั้นก็มาเล่นละครเลย?
เกริก ชิลเลอร์ : ใช่ ไปเล่นละครเวที แล้วก็มาเล่นละคร

พี่ควรจะไปเปิดไพ่นะ เพราะดูตรงมาก?
เกริก ชิลเลอร์ : ตอนนั้นไม่มีใครสนใจว่าเราต้องไปดูดวง ไม่มีใครรู้ แล้วตอนนั้นเนี่ย เรื่องของหมอดู คนดูดวงยังไม่เป็นที่ยอมรับ ยังมีน้อยอยู่

แล้วหลังจากนั้นได้กลับมาดูดวงตัวเองอีกไหม?
เกริก ชิลเลอร์ : ไม่ๆ คือไม่กล้าด้วย แล้วช่วงนั้นเราทำงานเยอะ ถ่ายละครเป็นอุตสาหกรรม อาทิตย์นึง 5-6-7 เรื่อง ปีนึง 12-15 เรื่อง ก็ทำอยู่ 20 ปีกว่าๆ ชีวิตเราก็จะอยู่ตามต่างจังหวัด อยู่บ้านร้างแถวป่าช้า เราไม่ได้อยู่ในเมืองที่มันเจริญหู เจริญตา เวลาเจ้าเมืองที หูยยย..มันเจริญอะไรขนาดนี้ เราเลยไม่มีเวลามานั่งยุ่งเรื่องพวกนี้ แล้วเวลาไปออกรายการ เขาก็ไม่มีหรอกพี่เกริกวันนี้มาดูดวงหน่อย ไม่มี มีแต่พี่เกริกมาเล่าเรื่องผีหน่อย มาทำตลกหน่อย มาเล่นเกมหน่อย

ทำไมต้องเล่าเรื่องผี?
เกริก ชิลเลอร์ : เขาชอบให้พี่เล่าเรื่องผี

ก่อนที่พี่พูดว่าพี่ไม่ดูดวงให้ใคร พี่ดูดวงให้เพื่อน แล้วพี่ก็ไม่ดูอีกแล้ว?
เกริก ชิลเลอร์ : ใช่ หลังจากที่พี่ฝึกดูดวง แล้วดูตัวเองเสร็จ พี่ก็เข้าไปในกลุ่มเพื่อนพี่เลย พวกที่เป็นนักร้องทั้งหลาย แล้วพี่มีเพื่อนอยู่คนนึง ชื่อ โรเบิร์ต พี่ก็เปิดไพ่ให้เขา 3 ใบ แต่ออกมาไม่ดี ออกมาว่าเขาจะต้องเสีย ผมหาทางออกไม่เป็นเลย ตอนนั้นอายุ 23 ปี ผมคงจะพูดไม่เป็นหรอกว่าช่วงนี้ให้ระวังตัว มั่นทำบุญกรวดน้ำ ผมไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย ผมเลยบอกเขาว่า ดี ดัง ดัง ดัง ตามสไตล์เด็กวัยรุ่น ให้เขาสบายใจ แล้วมันทำให้ผมรู้สึกผิดมาจนถึงวันนี้ว่าทำไมเราไม่พูด มันด้วยสติปัญญา ณ ขนาดนั้น

แล้วถ้าสมมติพี่พูดไป มันจะเป็นยังไง?
เกริก ชิลเลอร์ : อาจจะทำให้เขาระวังตัว

หรือพี่อาจจะคิดอีกมถมไหม ถึงฆาตเขาแล้ว?
เกริก ชิลเลอร์ : ณ ช่วงเวลานั้นคิดไม่ได้ เห็นอย่างเดียวก็คือตาย หลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปรถทับเสียชีวิต

เกริก ชิลเลอร์

เหตุการณ์นั้นมันทำให้พี่?
เกริก ชิลเลอร์ : กลัว กลัวไพ่ทาโร่ แล้วไม่กล้าเปิดให้ใครอีกแล้ว เพราะว่ากลัวเขาจะตาย มันคือเรื่องที่ยากที่สุดแล้วสำหรับนักทำนาย เมื่อเห็นดวงชะตานี่เกิดขึ้น แล้วเราไม่รู้ว่าจะต้องไปแก้มันยังไงด้วย จนมาช่วงหลังๆ เรารู้แล้วการตายคือปลายเหตุของมัน เราสามารถที่จะยืดผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ เราก็ไปที่ต้นเหตุ เราต้องรู้ให้ได้ว่าต้นเหตุมันคืออะไร

เท่าที่ฟังพี่มีซิกเซ้นส์ด้วย?
เกริก ชิลเลอร์ : เขาเรียกว่าซิกเซ้นส์มั้งครับ

เท่าที่รู้มาเขาไม่ได้แค่เปิดไพ่ แล้วแค่อ่านไพ่ เขามองลึกเข้าไปในคนคนนั้น แล้วสามารถคุยกับเจ้ากรรม นายเวรของเขา?
เกริก ชิลเลอร์ : ใช่ เราต้องคุยได้ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าเขามา ซึ่งเมื่อเขามาก็แสดงว่าเขาพร้อมจะสื่อสารกับเรา แต่มันก็จะมีอีกกรณีที่เปิดไพ่มาแล้วไม่ตรงคำถาม อันนี้รู้แล้วว่าเขาไม่คุยด้วย มันเป็นเรื่องของตัวเขาและเจ้าชะตา เกริกไม่เกี่ยว

ด้วยความแม่นยำก็โดนบางอย่างทำกลับมาเหมือนกัน?
เกริก ชิลเลอร์ : มีเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมดูไพ่ให้กับลูกค้าตัดผมของผม ผมประมาทไปนิดนึง มาน้องมา เดี๋ยวพี่ดูไพ่ให้ พอดีซื้อไพ่สำรับใหม่มา พอหลังจากนั้นอีกวันผมปวดหลัง 4 วันผมต้องนอนอยู่บนโซฟา อีก 3 วันถึงจะลุกขึ้นมาได้ แล้วมันเป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 2 ปี จนไม่ไหว ท้อ มีอยู่ช่วงนึงบอกว่าพี่ไม่เล่นละครแล้ว ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวขับรถเพราะพี่ปวดหลังมาก เล่นพี่อยู่ 2 ปีกว่า

ปวดหลังไปหาคุณหมอไหม?
เกริก ชิลเลอร์ : ไปหาครับ คุณหมอบอกกล้ามเนื้ออักเสบ เป็นอยู่ 2 ปีกว่า ผมมาสืบตอนช่วงหลัง ผมเป็นสมาชิกโขนแห่งประเทศไทย ผมก็ถามเพื่อนๆ ครูบาอาจารย์ เขาก็บอกอาการนี้แหละพี่เกริก คนโดนของ โดนเจ้าที่เล่น จะเป็นอาการนี้เป็นหลัก

เกริก ชิลเลอร์

เลยทำให้พี่รู้?
เกริก ชิลเลอร์ : ถูกต้อง เพราะฉะนั้นเวลาพี่จะดูใครแต่ละที ต้องไหว้แล้ว ไหว้อีก เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง

แล้วเหตุการณ์นี้แก้ยังไง?
เกริก ชิลเลอร์ : แก้อะไรไม่ได้เลยครับ รอจนกว่าจะหนำใจเขา คือเจ้ากรรม นายเวรของคนอื่นใช่ไหม เขามาเล่นคนนี้ในระยะเวลา 2 ปี ในเมื่อเราไปทักเขา แล้วให้เขาแก้ พอเขาแก้เสร็จ เราต้องรับผิดชอบ

พี่ไปทักอะไรเขาโกรธขนาดนั้น?
เกริก ชิลเลอร์ : ผมจำไม่ได้ แต่น่าจะเป็นเรื่องของระวังไม่สบาย ระวังอุบัติเหตุ

อย่างนี้เราสวดมนต์ให้ได้ไหม เพราะเราสวดมนต์อุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรม นายเวร?
เกริก ชิลเลอร์ : ทุกคนต้องใช้กรรม กรรมเป็นเรื่องแก้ไม่ได้ คุณทำได้แค่ขอผ่อนหนักเป็นเบาได้ไหม ช่วยเมตตาหน่อย เพราะพี่เองก็ต้องใช้กรรม

พอ 2 ปีที่พี่ได้ใช้กรรมไป มันทำให้พี่ตั้งกฎเลยว่าจะไม่ดูดวงให้กับคนอื่นที่ไม่ได้ขอ?
เกริก ชิลเลอร์ : ใช่ ถ้าเขาไม่ขอให้พี่ดู ถ้าพี่ไม่ขออนุญาตเขา พี่ดูไม่ได้

เห็นว่าพอดูดวงก็จะมีเรื่องของวิญญาณเด็กน้อย คืออะไร?
เกริก ชิลเลอร์ : วิญญาณเหรอมาหาพี่ทุกวันเลย เมื่อเช้าก่อนมาอัดรายการก็มาคนนึง

แต่มันมีเคสของนางพยาบาล?
เกริก ชิลเลอร์ : มันมีเคสแปลกๆ เยอะมากเลย พี่เป็นคนถูกกับเด็กมาก ทำไมเด็กชอบมาหาพี่ก็ไม่รู้ ยกตัวอย่างเด็กที่ไม่ใช่วิญญาณ น้องอยู่ที่ชิคาโก้ อยู่กัน 2 คนผัวเมีย นั่งคุยไลฟ์กับพี่ ไพ่เด็กมากวน ซึ่งน้องคนนี้อายุยังน้อย ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เด็กคนนั้นมาหาพี่ พี่เลยถาม น้องมีกุมารไหม เราก็แย้งตัวเอง อยู่ชิคาโก้จะไปมีกุมารได้ยังไง แล้วเด็ก 2 คนก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ แล้วคนที่เป็นแฟนผู้ชายบอกว่าไม่มีครับพี่ คือพี่มี แสดงว่ามันต้องมีไง ตอนกลับมาเมืองไทยได้มีการขนหรือเอาอะไรกลับไหม ไม่มีนะพี่ แต่เดี๋ยวผมเข้าไปดูในห้องทำงานแป๊บนึง มันมีถุงเลี่ยมพาสติกมา คือพวกนี้ที่มาหาพี่เขาอยากให้ย้ายที่เขา ไปเอาเขาวางรวมกับพระไม่ได้ เพราะเขาไม่มีแรง

นั่งเทศน์ให้วิญญาณฟัง?
เกริก ชิลเลอร์ : เรื่องการคุยกับผี ปกติผมเป็นคนชอบคุยอยู่แล้ว บ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้ผมเดินไปทั่วบ้านแล้วผมก็คุยด้วย ผมเดินผ่านเจ้าที่ก็สวัสดีครับ ฝากช่วยดูแลบ้านด้วยนะครับ 

เกริก ชิลเลอร์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส