ประชุมสภาฯเดือด เพื่อไทย-ก้าวไกล ซัดกันนัว แตะคนชั้น 14

11 ม.ค. 67

ประชุมสภาฯเดือด เพื่อไทย-ก้าวไกล ซัดกันนัว แตะคนชั้น 14 “ภูมิธรรม” อัด ก้าวไกลหยุดโยนบาปรัฐบาล ยันเป็นการตัดสินใจของแพทย์

วันที่ 11 ม.ค.67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานที่ประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เรื่องกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ และการสร้างความชอบธรรมเพื่อฟื้นฟูระบบนิติรัฐให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น 

แต่นายกฯ มอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาศึกษาการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นผู้ชี้แจงแทน 

นายชัยธวัช ถามว่า คณะกรรมการศึกษาการทำประชามติฯ ตั้งคำถามประชามติว่า เห็นชอบหรือไม่ที่จะทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่แก้หมวด 1 และ 2 พรรคก้าวไกลมองว่า เป็นคำถามขัดหลักการประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญ 

การห้ามแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แสดงว่าคนเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทั้งฉบับ มีแค่คณะรัฐประหารหรือไม่ การตั้งคำถามเช่นนี้ ทำให้ประชาชบางส่วนรู้สึกถูกกีดกันจากการทำรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นคำถามประชามติที่กังวลมากเกินจำเป็น การล็อกไม่ให้แก้หมวดใด จะสร้างปัญหาได้ 

นอกจากนี้การจัดทำประชามติไม่ได้ระบุให้ทำโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อาจวางยาตัวเอง เมื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้ ส.ส.ร. อาจทำให้สว.ไม่เห็นชอบ อ้างประชามติไม่พูดถึงส.ส.ร.เป็นเงื่อนไขให้ประชามติผ่านยากขึ้น อยากทราบว่า จะทบทวนคำถามประชาชาติหรือไม่ 

ด้านนายภูมิธรรม ชี้แจงว่า เราอยากให้การแก้รัฐธรรมนูญเดินหน้า แต่ต้องดูความจริงว่า ทุกพรรคไม่ให้แก้ไขหมวด 1 และ 2 การแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยและแก้ปัญหาประเทศได้ ถ้าเราไม่กังวลเรื่องนี้ ปล่อยข้ามไป ทางออกจะไปได้ไกลมากขึ้น การพยายามเลี่ยงหมวด 1 และ 2 ที่สังคมติดใจจะหนีจากปัญหาความขัดแย้ง กลุ่มต่างๆ เกือบทั้งหมดไม่ให้แตะหมวด 1 และ 2 แตกต่างจากพรรคก้าวไกล 

“เราไม่อยากแตะเรื่องนี้ ท่านอย่าไปหมกมุ่นกับหมวด 1 และหมวด 2 ทำไมต้องกังวลใจเรื่องนี้มากไป ถ้าละเว้นได้ ปัญหาจะได้รับการแก้ไขมากขึ้น จากการสอบถามทุกกลุ่มไม่มีใครให้แตะ ขอให้ใช้สติและคิดอีกครั้ง มาช่วยให้เกิดประชาธิปไตยดีกว่า” นายภูมิธรรม กล่าว 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ส่วนจะทบทวนคำถามประชามติใหม่หรือไม่ วันนี้เรื่องยังไม่ถึงรัฐบาล ยังเป็นเรื่องของคณะกรรมการฯที่ยึดตามเสียงส่วนใหญ่ไม่แตะหมวด 1และหมวด 2 แต่ก็บันทึกความเห็นต่างลงไป อยู่ระหว่างสำนักนายกรัฐมนตรีสรุป จะพยายามทำให้เสร็จภายในเดือนม.ค.ส่วนเรื่องการตั้งสสร.นั้น ถือเป็นอีกขั้นตอน ยังไม่จำเป็นต้องสร้างความสับสนเรื่องการทำประชามติ 

จากนั้นนายชัยธวัช ถามเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ ยังมีคดีผู้ถูกคุมขังทางการเมืองที่แสดงความเห็นทางการเมืองเพิ่มขึ้นในรัฐบาลชุดใหม่ การคุกคามทางการเมืองก็ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ยังมีคดีการคุกคามทางการเมืองเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 70 กว่ากรณี จากคดีทั้งหมด 203 คดี 

ขณะเดียวกันความรู้สึกเรื่องกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐานรุนแรงขึ้น เพราะมีคนได้รับสิทธิรักษาพยาบาลนอกเรือนจำ อยู่ในโรงพยาบาล ชั้น 14 เทียบเคียงกับนักโทษคนอื่นที่ไม่ได้รับการรักษาตัว 

ทำให้นายไชยวัฒนา ติณวัฒน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงทันที บอกว่านายชัยธวัช ใช้เวลาตั้งกระทู้ถามสดเกินเวลาที่กำหนด 15 นาทีแล้ว แต่นายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยให้นายชัยธวัช พูดต่อได้ เมื่อนายชัยธวัชพยายามจะพูดต่อ ก็ถูกนายไชยวัฒนาขัดจังหวะประท้วงเรื่อยๆ 

ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงว่า คำวินิจฉัยประธานเป็นที่สุด จะดื้อดึงทำไม ชั้น 14 แตะไม่ได้ใช่ไหม เดี๋ยวจะเอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปฝาก 

ทำให้นายไชยวัฒนา ตอบโต้ว่า นายวิโรจน์เลอะเทอะ เป็นบุญคนกรุงเทพฯแล้ว ก่อนที่นายวันมูหะมัดนอร์ จะตัดบทการประท้วงไม่ให้วุ่นวายออกไป โดยให้นายภูมิธรรมชี้แจงตอบกระทู้ถามสดต่อไป 

นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการคุกคามให้เกิดความหวาดกลัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย แต่ถ้ามีกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามอาจผิดมาตรา 157 ดังนั้นอะไรผิดกฎหมายอย่าไปท้าทาย อยากให้จับมือ หาช่องทางคุยกัน หาข้อสรุปลดความขัดแย้ง เราคุยกันได้ ถ้าเป็นปัญหาระดับปฏิบัติ ก็แก้ทางปฏิบัติอะไรไม่ชัดเจน ต้องเอาข้อมูลที่เป็นรูปธรรมมาหาทางออกกัน 

เรื่องความเสมอภาคเท่าเทียมกันที่เกี่ยวกับชั้น 14 นั้น ท่านไม่เข้าใจรายละเอียดของกฎหมาย ถ้าเข้าใจคงไม่รู้สึกแบบนี้ กฎหมายที่ออกมาเพื่อให้เกิดความเสมอภาค ซึ่งเกิดสมัยรัฐบาลที่แล้ว ไม่ใช่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นกฎหมายตามหลักสากล ลดความแออัดในคุก ให้คนป่วยหรือคนใกล้พ้นโทษ ไปใช้ชีวิตข้างนอกได้ ไม่ได้สร้างหลักขึ้นมา เพื่อดูแลใครในชั้น 14 แพทย์ก็ยืนยัน การตัดสินใจแพทย์เป็นที่สุด 

“อย่าเอาเรื่องกระบวนการปกติมาโยนใส่รัฐบาล สร้างความไม่เสมอภาค 2 มาตรฐาน ขอให้ใจกว้าง ใจเย็น ใจเที่ยงธรรม เรื่องนี้ไม่ใช่กระบวนการพิเศษทำเพื่อใคร ขอให้เปิดกว้างไปให้ไกล ถึงประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก อย่าวนเฉพาะชั้น 14” นายภูมิธรรม กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม