รักไม่สมหวัง สาวน้อยหนีตามคนรักจะไปเริ่มชีวิตใหม่ รถชนดับระหว่างทาง

6 ม.ค. 67

สุดสลดรักไม่สมหวัง...สาวน้อยเมียนมาวัย 17 ปี หนีตามคนรัก รถเสียหลักชนต้นไม้เสียชีวิตระหว่างเดินทาง

เมื่อเวลา 05:00 น. วันที่ 6 ม.ค. 67 ร.ต.อ.หญิงรัตนาภรณ์ ทองจีน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีเกิดอุบัติเหตุรถกระบะตกร่องกลางถนนชนกับต้นไม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายเหตุเกิดบริเวณถนนเพชรเกษม หน้าโรงงานสับปะรดทิปโก้ หลักกิโลเมตรที่ 302+800 หมู่ 4 บ้านบึง ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อIsuzu สีขาว ทะเบียนภูเก็ต ตกอยู่ในร่องกลางถนนบริเวณหน้าโรงงานสับปะรดทิปโก้ สภาพด้านข้างกระบะรถด้านขวาได้รับความเสียหายพังยับเยิน กันชนหน้าซ้ายแตกห่างออกมาประมาณ 100 เมตร พบต้นสะเดาขนาดความสูงประมาณ 20 เมตร มีร่องรอยของการถูกเฉี่ยวชนจนเปลือกไม้ถลอก มีร่องรอยการไถลของล้อรถเป็นทางยาว มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 รายและได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น และทำ CPR ช่วยชีวิตผู้ที่มีอาการสาหัส แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงสาวชาวเมียนมาอายุ 17 ปีไม่ทราบชื่อ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์เพื่อให้แพทย์ดำเนินการรักษาและชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง

จากการสอบถามนายสิงห์ ผู้ขับขี่ซึ่งเป็นชาวมอญเล่าว่าตนเองรับจ้างกรีดยางอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีบัตรถูกต้องและตนได้รับจ้าง รับ-ส่ง ชาวเมียนมาร์ที่ต้องการเดินทางหรือย้ายบ้านเป็นอาชีพเสริม ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนถูกว่าจ้างให้พาชาวเมียนมาทั้งหมด 4 คน จากสุราษฎร์ธานีไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยได้โดยสารมาทั้งหมด 5 คน และนั่งมาในบริเวณหน้ารถ 3 คน ส่วนผู้เสียชีวิตพร้อมคนรักมีอาการเมารถจึงขอย้ายไปนั่งท้ายกระบะรถ เมื่อใกล้ถึงจุดเกิดเหตุรถของตนได้จอดแวะนอนพักผ่อนที่บริเวณปั๊มน้ำมันมาก่อนแล้วหลังจากนั้นออกเดินทางมาถึงบริเวณหน้าโรงงานทิปโก้ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ รถได้เสียหลักตกร่องกลางถนนเฉี่ยวชนกับต้นไม้ ทำให้รถเกิดสะบัดผู้โดยสารที่นั่งมาท้ายรถได้กระเด็นตกจากรถและเสียชีวิต 1 รายในเวลาต่อมา ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่ได้วูบหลับใน


นายสิงห์ผู้ขับขี่เล่าเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและคู่รักที่นั่งท้ายกระบะมาด้วยกันได้ว่าจ้างให้ตนพาไปส่งที่กรุงเทพฯ จากนั้นจะเดินทางต่อไปจังหวัดกาญจนบุรีเนื่องจากได้หนีพ่อแม่มาด้วยกันเพราะถูกกีดกันห้ามไม่ให้รักชอบพอกันระหว่างผู้หญิงด้วยกัน แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน

โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าชาวเมียนมาทั้งหมดมีพาสปอร์ตและมีหลักฐานการขอเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ส่วนของผู้เสียชีวิตอายุ 17 ปี ยังหาเอกสารไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ขับขี่ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพักอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากสภาพของผิวถนนบริเวณหน้าโรงงานยังมีความสมบูรณ์ตามปกติ

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส