พ่อ-แม่ นศ.ชั้น ปี 1 มอดังคาใจลูกตกตึกดับ

28 ธ.ค. 66

พ่อ-แม่ นศ.ชั้น ปี 1 มอดังคาใจลูกตกตึกดับ พนักงานสอบสวนกลับอ้างว่าป่วยซึมเศร้า แต่ไร้หลักฐาน ผ่านมา 5 เดือนคดีไม่คืบหน้า 

วันที่ 28 ธ.ค. 66 ที่ศูนย์ปฏิบัติการเพจสายไหมต้องรอด (ซอยสายไหม 38) นายเพชร บุษราคัมมณี อายุ 70 ปี และนางกิ่ว บุษราคัมมณี อายุ 48 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.กรกช นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาล มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด 

กรณีลูกสาวพลัดตกตึกหอพักภายในมหาวิทยาลัยอย่างมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ก.ค.66 ผ่านมา 5 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าจะคล้ายกับกรณีนักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พลัดตกแมนชั่น ที่มีคนมาทำให้หวาดกลัวจนต้องหลบหนีหรือไม่ 

นายเพชร พ่อของนักศึกษาที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนมีลูกคนเดียว นิสัยส่วนตัวลูกสาวเป็นคนร่าเริง ซึ่งก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ยังไปหาลูกสาวพาไปทานข้าวกัน และในวันเกิดเหตุแม่ยังโทรศัพท์ไปพูดคุยครั้งสุดท้ายตอนเวลา 09.00 น. จนกระทั่งมาเกิดเหตุเวลา 10.00 น. โดยทางมหาวิทยาลัยโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกสาวได้กระโดดตึกหอพักเสียชีวิตแล้ว หลังเกิดเหตุได้ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ได้รับคำตอบจากทางมหาวิทยาลัยว่า หอพัก 11 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุนั้น กล้องวงจรปิดเสียทั้งหมด ขณะที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ยอมมาชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

นายเพชร กล่าวอีกว่า เวลาผ่านไป 5 เดือน ก็ไม่เคยได้รับข้อมูล จากทั้งจากทางมหาวิทยาลัย และพนักงานสอบสวนเลยว่า ลูกสาวเสียชีวิตอย่างไร ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล เจ้าของคดีได้ลงบันทึกไว้ว่า ผู้เสียชีวิตป่วยเป็นซึมเศร้าจึงฆ่าตัวตาย ทั้งที่ไม่มีหลักฐานการเข้ารับการรักษาจากแพทย์เลย อีกทั้งผลการตรวจชันสูตรพลิกศพแพทย์ระบุว่าไม่พบตัวยารักษาอาการซึมเศร้าในร่างกาย และยังไม่รู้แน่ชัดเลยว่าลูกสาวตกจากชั้นอะไร โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้ากับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ไม่รับสาย 

ขณะที่นางกิ่ว แม่ของนักศึกษาที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ทราบเพียงว่าลูกสาวมีปัญหาเรื่องที่ลูกสาวเป็นคณะกรรมการหอพัก แต่จะถอนตัวออก แต่ทางคณะกรรมการคนอื่นไม่ยอม ส่วนเรื่องความขัดแย้งอื่นนั้นไม่มี 

นายเอกภพ เปิดเผยว่า ต้องตรวจสอบให้ปรากฏความจริงว่าในวันเกิดเหตุนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะเหมือนมีความพยายามที่จะปกปิดพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งในส่วนของคดีจะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เพื่อช่วยไปดูคดีนี้ และจะพาไปกระทรวงยุติธรรมเพื่อหาหนทางช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดูว่าจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง รวมถึงหาทนายความเพื่อสู้คดีต่อไป 

ทั้งนี้เวลา 13.00 น. ของวันนี้ (28 ธ.ค.) ทางนายเอกภพ เดินทางพาครอบครัวผู้เสียชีวิต เดินทางไปพบผู้บังคับการตำรวจนครปฐม ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เบอร์ติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส