ฉายาสภาฯ ปี 66 ได้มง “สภาลวงละคร” ขณะที่วุฒิสภา “แตก ป. รอ retire”

27 ธ.ค. 66

ฉายาสภาฯ ปี 66 ได้มง “สภาลวงละคร” ขณะที่วุฒิสภา “แตก ป. รอ retire” ไม่มีดาวเด่น-คู่กัดแห่งปี ยังไร้คนดีศรีสภาฯอีกปี 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้ร่วมกันลงความเห็นตั้งฉายาของรัฐสภาในปีนี้ โดยการตั้งฉายาการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ หรือ สส. และ สว. เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาทุกปี ในฐานะที่ติดตามการทำหน้าที่ของ สส. และ สว.อย่างใกล้ชิด เพื่อสะท้อนความคิดเห็นการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา 

สำหรับ ฉายารัฐสภา ประจำปี 2566 ได้แก่ 

  • ฉายาสภาผู้แทนราษฎร คือ สภาลวงละคร 

สภาที่มีการชิงไหวชิงพริบ เพื่อเป็นเจ้าของอำนาจ มีการเจรจาจับมือกันหลายฝ่าย โดยในครั้งแรกพรรคเพื่อไทยเล่นตามบทเป็นมวยรอง แต่สุดท้ายใช้สารพัดวิธีพลิกกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีแต่การหักเหลี่ยมเฉือนคม ตั้งแต่การเลือกนายกรัฐมนตรี จนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร 

แม้กระทั่งการหักหลังฝ่ายเดียวกันเองระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลที่เคยเป็นฝ่ายเดียวจับมือต่อสู้กันมาก่อน จนถึงขั้นฉีกเอมโอยู ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยเล่นตามบทของพรรคอันดับรอง จับมือกอดคอกันอย่างหวานเจี๊ยบ เปรียบเสมือนโรงละครโรงใหญ่ ที่มีแต่ฉากการหลอกลวง

  • ฉายาวุฒิสภา คือ แตก ป. รอ retire 

ล้อมาจากฉายาของวุฒิสภาในปี 2565 คือ ตรา ป. ที่ สว.ทำหน้าที่รักษามรดกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อประโยชน์ของ 2 ป. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ ป.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หรือ ป.ประวิตร แบบไม่มีแตกแถว 

แต่ในปีนี้ทั้ง 2 ป. ได้แยกทางกัน ซึ่งในการลงมติเลือกนายรัฐมนตรีที่ผ่านมาสว.ฝ่ายป.ประยุทธ์ ได้ลงมติยอมสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน สวนทางกับป.ประวิตร ที่งดออกเสียง และสว.กำลังจะหมดอำนาจหน้าที่ในเดือนพ.ค. 2567 จึงเป็นเสมือนการรอเวลาเกษียณ หมดเวลาการทำหน้าที่สว.

  • ฉายาประธานสภาผู้แทนราษฎร คือ (วัน)นอ-มินี 

เนื่องจาก ตำแหน่งนี้เป็นที่แย่งชิงของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมาก่อน ก่อนที่จะเห็นร่วมกันว่า ใช้โควตาคนนอก พรรคเพื่อไทย จึงได้เสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติในขณะนั้น เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ยอมรับ 

ดังนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ จึงเป็นเสมือนนอมินีของการแย่งชิงครั้งนี้ ทั้งที่จำนวนเสียง สส.ที่มีก็ไม่ได้เพียงพอต่อการชิงตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ก็ถือเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ที่พรรคพร้อมให้การสนับสนุน ทั้งยังเคยเป็นคนของพรรคเพื่อไทยมาก่อนด้วย

  • ฉายาประธานวุฒิสภา คือ แจ๋วหลบ จบแล้ว 

คำว่าแจ๋ว เปรียบเสมือนบทบาทของผู้รับใช้ ซึ่งเกือบ 10 ปีที่ผ่าน นายพรเพชร ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่า เป็นผู้รับใช้คสช. แต่เมื่อเข้าสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในยุคปัจจุบัน บทบาทของนายพรเพชร ในฐานะประธานวุฒิสภา พยายามหลบแรงปะทะ ไม่แสดงความเห็นที่เสี่ยงต่อการสร้างความขัดแย้งมากนัก รวมถึงไม่ออกสื่อ เพื่อรอเวลาวุฒิสภาหมดวาระในการทำหน้าที่สว. 6 ปี ในเดือน พ.ค.2567

  • ดาวดับปี66 คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 

นายพิธา มีความโดดเด่นในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จนกระทั่งรู้ผลเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลได้จำนวนส.ส.มากที่สุด เดินสายขอบคุณประชาชน พบหน่วยงานต่างๆ ประหนึ่งว่าเป็นนายรัฐมนตรีแล้ว พลอยให้บรรดาด้อมส้มเรียก นายกฯพิธา ทำให้เกิดกระแส พิธาฟีเวอร์ แต่สุดท้ายกลับไปไม่ถึงดวงดาว สภาไม่ได้เหยียบ ทำเนียบไม่ได้เข้า เนื่องจากศาลรับธรรมนูญสั่งแขวน ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จากคดีหุ้นไอทีวีที่ยังลูกผีลูกคน จึงเป็นดาวที่เคยจรัสแสง แต่ตอนนี้ได้ดับลงแล้ว 

  • วาทะแห่งปี 66

คือ เหตุการณ์ที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 ส.ค. 2566 ระบุว่า 

”เราเห็นด้วยอย่างยิ่งที่พรรคก้าวไกลเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเราเป็นพรรคอันดับสองมีความยินดีร่วมมือจัดตั้งรัฐบาล และถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พรรคเพื่อไทยไม่มีทางจับมือกับพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เราเป็นพรรคอันดับสองสามารถที่จะแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลได้ ถ้ากลไกการเมือง และรัฐธรรมนูญมันปกติ แต่ด้วยสภาพบังคับของรัฐธรรมนูญแบบนี้เราไม่ร่วมมือกันไม่ได้ แต่เราก็คิดผิดเพราะว่ายิ่งเราจับมือกันยิ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้“ 

  • เหตุการณ์แห่งปี คือกรณีการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จำนวน 3 รอบ 

ขณะที่ฉายา ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตำแหน่งดาวเด่น ตำแหน่งคู่กัดแห่งปี และตำแหน่งคนดีศรีสภาฯนั้น ปีนี้ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาได้งดตั้งฉายา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส