เสี่ยฟาร์มไก่เครียดหนัก หนี้สินรุมเร้ากว่าสิบล้านบาท ตัดสินใจคิดสั้น ใช้ลูกซองระเบิดสมองจบชีวิตคาเตียงนอน
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. 66 พ.ต.ต.หญิงสุภาภรณ์ ดวงกันยา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุคนยิงตัวตาย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ไพทูล พรหมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้บังคับบัญชาทราบไปที่เกิดเหตุ
พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศักดา จำปาทอง รองผกก.สส. พ.ต.ท.ภาวริศ ชาลือ รองผกก.ป.ตำรวจชุดสืบสวนพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยสว่างประจวบธรรม ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เป็นบ้านพักอาศัย 3 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนประจวบศิริ เขตเทศบาลเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
บนห้องนอนชั้นสองของอาคารดังกล่าวพบร่าง นายเอกรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 43 ปี เจ้าของฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ใน ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาดำลายขวาง มีผ้าห่มคลุมร่างถึงช่วงอก สภาพศพนอนหงายในมือกำอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ตกอยู่บนหน้าอก มีปลอกกระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 ค้างอยู่ในรังเพลิง มีลูกปรายตกห่างจากลำตัวเมตรเศษหลายเม็ด รอยกระสุนจากขมับขวาทะลุซ้าย เลือดกระจายติดผนัง และยังพบยาคลายเครียดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุอีกด้วย
เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเริ่มต้นธุรกิจเลี้ยงไก่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน โดยลงทุนซื้อพื้นที่โรงเรือนเลี้ยงไก่ จำนวน 14 ล้านบาทที่ ต.ห้วยทราย และทยอยลงทุนเรื่อยมาอีก16ล้านบาท กระทั่งช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจขาดทุนตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยแต่ละรอบของการเลี้ยงไก่ขาดทุนประมาณ 1 ล้านบาท และมียอดหนี้สะสมเรื่อยมา
ทรัพย์สินที่ได้มาก่อนหน้านี้จึงต้องทำการรีไฟแนนซ์ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในระบบมีอาคารที่พักอาศัยมูลค่า 3 ล้านบาท ซึ่งผ่อนชำระธนาคารเดือนละ 27,000 บาท รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูซีรีส์ 7รุ่น730LI จอดคาไว้หน้าประตูบ้าน พร้อมติดป้าย “ขายถูกๆ”
คาดว่ามูลเหตุหลักน่าจะมาจากการหมุนเงินในธุรกิจไม่ทัน เนื่องจากเป็นฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ เลี้ยงไก่ครั้งละแสนตัว มีค่าใช้จ่าย ทั้งอาหาร ยาและอื่นๆ โดย 3 เดือนหลังสุดค้างชำระค่าไฟจำนวน 8 แสนบาท
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบถามบุคคลภายในบ้านทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีคนได้ยินเสียงดัง แต่เข้าใจว่าเป็นเสียงลมพัดประตูไม่ได้เอะใจอะไร เพราะช่วงนี้สภาพอากาศหนาวและลมแรง กระทั่งช่วงเย็นภรรยาโทรหา แต่ไม่มีคนรับสาย ลูกชายคนโตจึงเดินขึ้นไปตามที่ชั้นสอง ปรากฎภาพนายเอกรินทร์เสียชีวิตแล้ว
นางณชกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ภรรยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สามีบ่นเครียด ไม่คาดว่าจะคิดสั้น แต่เคยบ่นท้อแท้ บ่นว่าจะอยู่อย่างไร แต่ไม่เคยพูดว่าจะฆ่าตัวตาย จะยิงตัวตาย แล้วถ้าไม่มีเงินเราจะอยู่อย่างไร ได้แต่ให้กำลังใจเขาไปว่าไม่เป็นไร เรายังมีกินอยู่ เราไม่ได้หมดตัวแบบไม่มีกิน เรายังได้กินได้อยู่ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก็ดีเอง หากสามีท้อแท้เยอะก็จะพูดว่าเป็นผู้ชายอะไรทำไมไม่สู้เลย
อย่างไรก็ตามญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่นำร่างส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ ก่อนมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
