กรมควบคุมโรค เตรียมชง "บัตรทอง" เบิก ยากันยุง ได้ฟรี

23 ธ.ค. 66

กรมควบคุมโรค เตรียมชง "บัตรทอง" เบิก ยากันยุง ได้ฟรี หวังควบคุม ป้องกัน ลดการระบาด โรคไข้เลือดออก 

วันที่ 23 ธ.ค. 66 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำพยากรณ์โรค และภัยสุขภาพของประเทศไทยในปี 67 ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติในสัปดาห์หน้า และจะเสนอให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข พิจารณาลงนามออกประกาศต่อไปว่า สถานการณ์โรคของปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และปีหน้าคาดการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป 

เบื้องต้นเท่าที่เราติดตามดูสถานการณ์โรคติดต่อของปีนี้ ถือว่าเป็นไปตามการพยากรณ์โรคเอาไว้ อย่างที่ปลายปี 55 เราบอกว่า ปี 66 จะมีการระบาดของ “โรคไข้เลือดออก” ก็มีการระบาดในปีนี้ ที่พบแนวโน้มสูงขึ้นมาอย่างมาก แต่จากที่เรามีการพยากรณ์และคาดการณ์ไว้ จึงมีการเตรียมพร้อมมาตรการเพื่อควบคุมโรค ซึ่งจากมาตรการควบคุมโรคต่างๆ ก็ทำให้เราสามารถควบคุมโรคได้ค่อนข้างดี 

เรามีการเพิ่มหลายๆ เรื่อง อย่างวันนี้เราก็เริ่มคุยกันว่า โรคไข้เลือดออก อยากให้ยาทากันยุงเป็นเวชภัณฑ์ในการป้องกันตัวหนึ่ง เพราะพวกเราไม่ได้ทายากันยุงกัน เวลารักษาโรคไข้เลือดออก ส่วนใหญ่ไม่ได้นอนในโรงพยาบาลทั้งหมด 80% กลับไปนอนรักษาที่บ้าน แล้วไม่ได้ทายากันยุงในคนป่วย แม้จะมีการพ่นยาฆ่ายุงตัวแก่ไปแล้ว แต่ถ้าสมมติมีลูกน้ำขึ้นมาเป็นยุงใหม่ เมื่อยุงมากัดคนที่มีเชื้อรักษาที่บ้าน ก็มีโอกาสไปกัดคนอื่นแล้วแพร่เชื้อต่อได้ ปลายปี 66 นี้เราเริ่มรณรงค์ให้ใช้ยาทากันยุง เหมือนที่เรารณรงค์ เรื่องของการป้องกันตัวไรอ่อน เมื่อเวลาไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว และมักไปนอนกางเต็นท์ ซึ่งไรอ่อนจะทำให้เกิดโรคไข้รากสาดน้อย ถ้าไปนอนแล้วทายากันยุงพวกนี้ก็จะป้องกันแมลงพวกนี้มากัดได้ 

เมื่อถามว่า ที่จะให้ยาทากันยุงเป็นเวชภัณฑ์ หมายถึงเมื่อป่วยไข้เลือดออกแล้วจะให้ รพ.จ่ายยาทากันยุงกลับไปทาป้องกันใช่หรือไม่ นพ.ธงชัย กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังรณรงค์เรื่องนี้ แต่เนื่องจากยากันยุงยังไม่สามารถเบิกได้ ยังไม่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ก็ต้องไปขับเคลื่อนให้เข้าไปอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองก่อน ทางกรมควบคุมโรคจะนำเสนอข้อมูลทางวิชาการไปให้ทางบัตรทองพิจารณาเข้าสู่สิทธิประโยชน์ เพื่อเบิกจ่ายได้ต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส