พริตตี้สาวร้อง ถูกหนุ่มชาวจีนหนีแต่งงาน หลังตั้งท้องได้ลูกสาว

21 ธ.ค. 66

 

พริตตี้สาวร้อง ถูกหนุ่มชาวจีนหนีแต่งงาน หลังตั้งท้องได้ลูกสาว เชื่อเป็นขบวนการหลอกหาหญิงไทยแต่งงาน เพื่อล่าลูกชาย  

วันที่ 21 ธ.ค. 66 น.ส.เนย พริตตี้สาววัย 36 ปี เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังถูกหนุ่มจีนหลอกแต่งงาน 

น.ส.เนย เล่าว่า ตนรู้จักกับฝ่ายชายผ่านแม่สื่อที่เป็นคนจีนและเป็นเพื่อนบ้านอาศัยอยู่คอนโดเดียวกัน ซึ่งแม่สื่อมาทำธุรกิจปล่อยเช่าคอนโดในประเทศไทยได้ 3-4 ปี และ ได้แนะนำนักธุรกิจชาวจีนวัย 42 ปี ให้เธอรู้จัก โดยแม่สื่ออ้างว่าเป็นญาติกับฝ่ายชาย  เธอจึงไว้ใจแม่สื่อและลองคุยกับฝ่ายชาย โดยเริ่มคุยกันตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รู้สึกเข้ากันได้ดี จึงนัดฝ่ายชายมาเจอในเดือนมิ.ย. ซึ่งตอนนั้นเป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองคน 

พริตตี้สาวร้อง ถูกหนุ่มชาวจีนหนีแต่งงาน หลังตั้งท้องได้ลูกสาว

หลังจากนั้นก็คบหากันตามปกติ ไปกินข้าวไปเที่ยว ด้วยกันใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ฝ่ายชายก็กลับไปทำงานที่ประเทศจีน แต่ก็คุยกันผ่าน WeChat มาตลอดเป็นปกติทุกอย่าง จนฝ่ายชายเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อจะมาสู่ขอฝ่ายหญิง โดยพาญาติเดินทางมาจากประเทศจีนด้วย และมีแม่สื่อคนจีนที่เป็นเพื่อนบ้านมาเป็นพยานในงาน 

ตลอดเวลาที่คบกันฝ่ายชายบอกเธอตลอดว่าอยากมีครอบครัวอยากมีลูก 2-3 คน เป็นเพศอะไรก็ได้ จึงรู้สึกมั่นใจว่าฝ่ายชายอยากสร้างครอบครัว หลังจากนั้นเธอตั้งท้อง ฝ่ายชายก็ดีใจและดูแลเธอดีทุกอย่าง จนวางแผนเรื่องแต่งงานกัน ไปถ่ายพรีเวดดิ้ง เตรียมของชำร่วยในงานดูฤกษ์งานแต่ง เป็นวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งงานแต่งถูกเตรียมไปแล้วประมาณ 70% และเธอก็เป็นฝ่ายสำรองเงินค่าใช้จ่ายงานแต่งทั้งหมดเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งฝ่ายชายอ้างว่าจะนำมาคืนให้หลังเสร็จงานแต่ง 

หลังจากนั้นฝ่ายชายเดินทางกลับประเทศจีนอีกครั้ง เป็นช่วงที่หมอนัดตรวจสุขภาพเด็กในท้อง ซึ่งหมอได้ตรวจเพศลูกให้ด้วย และพบว่าเป็นลูกสาว จึงได้แจ้งฝ่ายชายไป หลังจากนั้นฝ่ายชายก็ขอให้เลื่อนงานแต่งไปเป็นช่วงเดือน ต.ค. อ้างว่ายังไม่พร้อม หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฝ่ายชายเริ่มไม่ตอบแชต เธอจึงเดินทางไปหาที่ประเทศจีน แต่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมมาเจอ และขาดการติดต่อไปเลย 

เธอจึงไปหาแม่สื่อให้ช่วยติดต่อฝ่ายชายให้ แต่แม่สื่อปฏิเสธและบอกว่ากับคนอื่นที่เธอเป็นแม่สื่อให้ก็ได้ลูกชายทั้งนั้น เธอจึงมั่นใจว่าเป็นขบวนการล่าลูกชาย จากนั้นแม่สื่อก็ไม่ยอมติดต่อฝ่ายชายให้ และไม่คุยกับครอบครัวเธออีกเลย เธอจึงมาขอให้ทีมสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ เพราะสงสารลูกในท้องต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังไม่ลืมตาเกิดมา และอยากฝากเตือนหญิงไทยคนอื่นๆ ไม่อยากให้ถูกหลอกเหมือนเธอ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส