เปิดใจ ตำรวจชุดคลี่คลาย คดีน้องชมพู่ ยันทำคดีนี้ด้วยความมุ่งมั่น

20 ธ.ค. 66

 

เปิดใจ ตำรวจชุดคลี่คลาย คดีน้องชมพู่ ยืนยันทำคดีนี้ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ รวบรวมพยานหลักฐาน จนนำมาสู่วันตัดสินของศาลว่า ลุงพล มีความผิด 

วันที่ 20 ธ.ค. 66 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็น 1 ในคณะทำงานชุดคลี่คลาย คดีน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหารที่ตัดสินด้วยความเป็นธรรม และขอยกเครดิตให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ที่ระดมกำลังชุดสืบสวนจากทั่วประเทศมากฝีมือมาอยู่ที่บ้านกกกอก 

ยืนยันว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมากระบวนการทำงานของตำรวจชุดสืบสวนนั้น ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่บุคคลบุคคลใดบุคคลหนึ่งว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่ยึดจากพยานหลักฐานที่พบเจอ ทำให้ทราบว่าคนร้ายคือใคร จนนำไปสู่การออกหมายจับต่อศาล 

โดยตลอดระยะเวลาที่ลงพื้นที่ติดตามคดีมานานกว่า 3 ปีพบว่า เส้นทางบนภูเหล็กไฟ ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่ มีเนินชันมากกว่า 60 องศา น้องชมพู่ไม่สามารถปีนได้อย่างแน่นอน ชาวบ้านยืนยันว่าเด็ก 3 ขวบ จะปีนไปถึงได้แค่ชั้นที่ 2 ของภูเหล็กไฟเท่านั้น กุมารแพทย์ ยืนยืนว่าพัฒนาการของเด็กอายุ 3 ขวบ ไม่สามารถที่จะเดินขึ้นไปเองได้ พลังงานอาหารมื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่รับประทานไปไม่เพียงพอต่อการเดินไปบนจุดพบศพ และชาวบ้านกกตูมยืนยันว่าหากคนหายสามารถหาได้เจอภายในคืนเดียว 

สภาพศพที่พบในลักษณะเปลือยกาย พ่อและแม่ของน้องชมพู่ ยืนยันว่าน้องชมพู่ ไม่สามารถถอดเสื้อเองได้ และที่เกิดเหตุตรวจพบเส้นผมน้องชมพู่ถูกตัดด้วยมีด เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของคนร้ายที่พาน้องชมพู่ไป ซึ่งคนที่ใกล้ชิดน้องชมพู่มีเพียง 14 คน โดย 13 มีหลักฐานชัดเจนว่าอยู่สถานที่ใด ยกเว้นลุงพล เพียงคนเดียวที่ไม่สามารถยืนยันได้ และลุงพลโกหกเรื่องการรับแจ้งเหตุว่าน้องชมพู่หายไปตอนไหน หลังลุงพลอ้างว่าได้รับโทรศัพท์จากป้าแต๋นว่าหลานหาย แต่แท้จริงแล้วโทรศัพท์มีเพียงเครื่องเดียว และอยู่กับป้าแต๋น 

ยืนยันว่าทีมงานชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีทำคดีนี้ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ  ทั้งการสืบสวน สอบสวน และการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน จนนำมาสู่วันตัดสินของศาลว่าลุงพล มีความผิด คลายความสงสัยให้กับคนไทยทั้งประเทศ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส