มือยิงนักข่าวมอบตัวแล้ว ยอมรับทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ด้านพี่สาวเผยน้องชายก่อนมอบตัว โทรสั่งเสีย คิดฆ่าตัวตายหนีความผิด
ความคืบหน้ากรณี คนร้ายก่อเหตุยิงนักข่าวท้องถิ่นเมืองพัทยา ในช่วงค่ำของวันที่ 13 ธ.ค.66 ศาลจังหวัดพัทยา ได้ออกหมายจับ นายขวัญชัย ปานทอง หรือเป็ก อายุ 32 ปี ชาว ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในฐานความผิด พยายามฆ่าผู้อื่น และ ความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน หมายเลขคดีที่ 654/2566 ซึ่งเป็นมือปืนก่อเหตุ ยิง นายณัฐภัทร บุญชาลี อายุ 28 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ของเมืองพัทยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำลายลูกตาด้านซ้าย จนสูญเสียการมองเห็น
ล่าสุดเวลา 22.30 น.( 13 ธ.ค.66 ) นายขวัญชัย ผู้ต้องหา ได้ติดต่อเข้ามอบตัว โดยทางญาติกลัวจะถูกรุมประชาทัณฑ์ จึงเดินทางมามอบตัว กับตำรวจ ที่ สภ.บางละมุง จากนั้น พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา มีการสั่งการให้ พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง.ผกก.สืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำกำลังชุดสืบสวนไปควบคุมตัวทันที
จากนั้นมีการ พาตัวนายขวัญชัย ไปยึดอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาได้นำไปโยนทิ้งไว้ใน พงหญ้า ริมทางรถไฟ หน้าปากซอยเศรษฐี 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงบริเวณ ก็พบอาวุธปืนลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นควบคุมตัวไป สภ.เมืองพัทยา
นายขวัญชัย ปัจจุบันทำอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้การยอมรับ เป็นคนก่อเหตุยิงนักข่าวจริง และ ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้ง หรือ รู้จักกันมาก่อน ส่วนปมเหตุมาจากเรื่องการขี่รถจักรยานยนต์ ปาดหน้ากัน และ ยังอ้างว่า ถูกฝ่ายคนเจ็บแจกของลับ ด้วยความโมโห จึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาจ่อยิงคนเจ็บ ส่วนเพื่อนอีก 2 คนที่ไปด้วยกันไม่รู้เรื่อง ยอมรับว่าทำคนเดียว ส่วนอาวุธปืน ยอมรับไปซื้อมาจากเพื่อน มาโดยอ้างว่าพกไว้เพื่อป้องกันตัว เพื่อเคยมีเรื่องถูกรุมกระทืบหน้าผับแห่งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
มือปืน ยังพูดในน้ำเสียงสั่นเครือว่า รู้สึกผิดและเสียใจ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษผู้บาดเจ็บรวมถึงครอบครัว และกลุ่มเพื่อนๆคน และ พร้อมรับโทษตามกฎหมาย สิ่งที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
นางสาวปุ๊ก ( นามสมมุติ ) อายุ 42 ปี พี่สาวของผู้ต้องหา เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น้องชาย กลับมาที่บ้านแล้วนั่งร้องไห้ ก่อนจะยอมรับกับตนเองว่า ได้ไปก่อเหตุไปยิงคนมา ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่พอเห็นข่าว จึงรู้ว่าผู้บาดเจ็บเป็น ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นของเมืองพัทยา ส่วนน้องชายก็ติดตามข่าวสาร จนนั่งร้องไห้ตลอดทั้งวัน ต่อมาในช่วงเย็น ( 13 ธ.ค.) น้องชายได้โทรศัพท์มาสั่งเสีย ขอสูบบุหรี่ 1 ตัว ดื่มเบียร์ 1 ขวด จากนั้นจะเดินลงทะเลฆ่าตัวตาย เพื่อหนีความผิด ตนจึงรีบมากล่อมน้องชาย ให้ยอมรับความจริง และ เข้ามอบตัว ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่น้องชายพก คนในบ้านไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ว่าน้องชาย มีอาวุธปืนในความครอบครอง ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางครอบครัวต้องขอโทษผู้บาดเจ็บ รวมไปถึงครอบครัวคนเจ็บ กับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมให้น้องชาย ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย