ระทึก! แม่ลูกจูงมือ นอนขวางถนน หวังปลิดชีพคู่

27 พ.ย. 66

 

ระทึก! แม่จูงมือลูกสาว 10 ขวบ นอนขวางถนน หวังปลิดชีพคู่ เครียดจัดโดนเบี้ยวซื้อรถยนต์ในเฟซบุ๊ก โอนเงินแสนห้าแต่ไม่ได้รถ แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ 

วันที่ 27 พ.ย. 66 ที่จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระทึกขวัญ เมื่อหญิงวัยกลางคน จูงมือเด็กหญิงอายุประมาณ 9 ถึง10 ขวบ เดินไปนอนขวางถนน หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองชัยภูมิ ขณะที่มีรถยนต์จำนวนมากวิ่งผ่านไปมาจนรถยนต์ต้องหลบหลีกกันพันละวัน สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้ขับขี่รถยนต์และชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณ ทำให้ชาวบ้านพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้าไปช่วยกันรถ พยุงตัวหญิงวัยกลางคน และลูกสาวไปสงบสติอารมณ์ ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองชัยภูมิ 

ทราบชื่อต่อมาคือนางนิสารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) ชาว ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยนางนิสารัตน์เล่าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ลักษณะหมดอาลัยในชีวิตว่า ตนพร้อมกับลูกสาววัย 10 ขวบ ตัดสินใจชวนกันมานอนขวางถนนบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากตนได้ทำการโอนเงิน 150,000 บาท เพื่อติดต่อซื้อรถยนต์กับบริษัทจำหน่ายรถยนต์แห่งหนึ่งที่ประกาศขายรถยนต์ในเพจ หลังจากโอนเงินโอนเงินเรียบร้อย ปรากฏว่าเจ้าของเพจไม่นำรถมาให้ตน จึงเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา จนขณะนี้ปรากฏว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ตนรู้สึกเครียดจัดจนไม่มีจิตใจที่จะทำอะไร และกลายเป็นโรคซึมเศร้า วันนี้จึงชวนลูกสาวมาฆ่าตัวตาย โดยตัดสินใจนอนขวางถนนหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้รถทับตาย 

ด.ต.นาวิน ศรีไตรรัตน์ เล่าว่า ขณะตนเข้าเวรได้สังเกตเห็นชาวบ้านกำลังมองดูอะไรบางอย่างบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองชัยภูมิ จึงรีบออกไปดู และพบว่ามีหญิงวัยกลางคนและเด็กหญิงกำลังนอนขวางถนนอยู่ ครั้งแรกนึกว่าเป็นการเกิดอุบัติเหตุ แต่หลังจากได้เข้าไปสอบถามจึงทราบว่าทั้งสองคนได้นัดหมายกันมานอนขวางถนนให้รถยนต์ทับ เพราะสาเหตุมาจากถูกหลอกให้โอนเงินซื้อรถยนต์ในเพจดัง 

แต่ปรากฏว่าหลังจากโอนเงินแล้วไม่รับรถยนต์ตามที่นัดหมาย ซึ่งหญิงวัยกลางคนและเด็กหญิงอ้างว่าได้แจ้งความไว้กับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมินานแล้ว ตนจึงรีบเข้ามาทำการช่วยเหลือ และนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก พร้อมปลอบใจ เพื่อให้คลายความเครียดลง ส่วนรายละเอียดเรื่องของความคืบหน้าคดีความนั้น ตนได้แนะนำให้ไปติดต่อสอบถามกับร้อยเวรเจ้าของคดีอีกครั้ง หากยังไม่ได้ดำเนินการแจ้งความก็แนะนำให้แจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับเพจดังกล่าวเพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส