กระบะซิ่งขับประกบยิงสนั่นกว่า 10 กม. ทหารหนุ่มดับ หลังแซงกันไปมา แฟนสาวรอดหวุดหวิด เศร้ากำลังท้อง 2 เดือน มีกำหนดแต่งงาน 21 ม.ค. 67
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 พ.ย. 66 ร.ต.ท.กิตติพงษ์ สีหะบุตร พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันที่บริเวณหลัก กม.ที่ 66 ถนนสาย 359 (สระแก้วตัดใหม่) หมู่ที่ 8 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มุ่งหน้า จ.สระแก้ว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมาคือ ส.อ.เอกรัตน์ เสืออ่ำ หรือ ต้า อายุ 22 ปี ชาว อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ทหารสังกัดตอนซ่อมบำรุง สส.น.กกล.บูรพา ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และได้เสียชีวิต เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
จากการสอบถาม น.ส.มนธิชา ปุงปดพาน อายุ 25 ปี แฟนผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนพร้อม ส.อ.เอกรัตน์ ได้ขับรถยนต์ มาจาก จ.สระบุรีเพื่อมุ่งหน้า จ.สระแก้ว โดยใช้เส้นทางถนนสาย 359 (สระแก้วตัดใหม่) ขณะที่กำลังขับรถมาตามเส้นทาง เหมือนตอนแรกคู่กรณีขับรถแซงไป ส.อ.เอกรัตน์ก็ขับเทียบกันไปประมาณครั้งสองครั้ง จนล่าสุดแซงเขาไปอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นคู่กรณีก็ขับรถขึ้นมาเทียบ และยิงเข้ามาผ่านตนไปถูกแขนแฟน ตอนไล่แซงกันช่วงเกิดเหตุมันมืด ตนก็ไม่รู้ว่าช่วงไหน และก็ไม่เคยมาทางนี้ ไล่ยิงกันมาเป็นระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร
“พอขับมาเทียบกันก็ยิงเลย เป็นรถกระบะ จำทะเบียนไม่ได้ ขับเร็วมาก ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร คิดว่าทำไมคันนี้นิสัยเสียจัง บีบแตรใส่กัน มันมืดก็ไม่รู้ตัวว่ามีปัญหากันตั้งแต่ช่วงไหน เพราะมืดและเร็วมากรู้ว่าออกจากแปดริ้วมาสักพักและไม่เคยมีอะไรกัน ถามแฟนว่าโดนเธอไหม ก็ยังมีสติแป๊บนึง ก่อนที่รถจะเสียหลักลงข้างทาง”
น.ส.มนธิชา กล่าวต่อว่า ตนกำลังจะเดินทางไปส่งแฟนเข้าทำงานในวันพรุ่งนี้ และจะลอยกระทงด้วยกัน พร้อมเอาซองงานแต่งงานไปแจก เนื่องจากตนกับ ส.อ.เอกรัตน์ มีกำหนดแต่งงานกันในวันที่ 21 ม.ค. 67 ที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม และในขณะนี้ตนกำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ต้องการให้ตำรวจดำเนินการติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ และต้องการฝากถึงคนที่ฆ่าแฟนว่าการที่ทำแบบนี้มันโหดร้ายเกินไป ไม่ควรทำแบบนี้ ตอนนี้ตนเองต้องอยู่คนเดียว คงไม่มีใครอีกแล้ว
ต่อมานายณรงค์ เสื่ออ่ำ อายุ 59 ปี และนางเอ็มไพร เสื่ออ่ำ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต หลังจากทราบข่าวได้เดินทางไปดูศพลูกชายที่หน้า สภ.ศรีมหาโพธิ เมื่อเดินทางไปถึงพ่อแม่ ถึงกับร้องไห้แทบจะขาดให้ พร้อมพูดกับศพลูกว่าทำไม่ต้องเป็นแบบนี้ พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายเป็นคนดี เป็นทหารมาได้ 3 ปี หลังจากจบชั้น ม. 6 ก็สอบนักเรียนนายสิบได้ก็บรรจุเป็นทหารที่ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และไปช่วยราชการที่กองกำลังบูรพา อ.วัฒนานคร ในวันเสาร์อาทิตย์ก็จะกลับบ้านไปหาแม่ ซึ่งลูกชายกำลังจะแต่งงานในวันที่ 21 ม.ค. 67 ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายมาให้ได้ ส่วนศพลูกชายจะรับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน
