เจ้าของร้านอาหาร ร้อง สายไหมต้องรอด ถูก กต.ตร. เมากร่าง รุมทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส แจ้งความแต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ
วันที่ 23 พ.ย.66 เวลา 09.30 น.ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม น้องชายเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพตสายไหมต้องรอด เนื่องจากพี่ชายถูก กต.ตร.โรงพักแห่งหนึ่งเมากร่างยกพวกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองบวมไม่ได้สติ
สาเหตุเกิดจาก กต.ตร.รายนี้มานั่งกินเหล้าที่ร้านจนร้านปิดก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน เมียน้อยจึงโทรศัพท์มาตามแต่ก็ไม่ยอมกลับ เมียน้อยจึงบุกมาตามที่ร้านและมีปากเสียงกัน ภรรยาพี่ชายจึงพยายามห้ามปราม แต่เมียน้อย กต.ตร.นึกว่าภรรยาพี่ชายเป็นพนักงานที่ร้านและผัวตัวเองมาติด จึงเกิดการโต้เถียงกัน จากนั้น เมียน้อย กต.ตร. จึงตามการ์ดมาอีก 2 คน และได้เข้ามารุมทำร้ายพี่สะใภ้ พี่ชายเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปห้ามปราม กลับถูก กต.ตร. เมากร่าง และพวกรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย.66 เวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา
พอสายตรวจมาถึงก็ถึงทราบว่า คนก่อเหตุเป็น กต.ตร.ของสน.จรเข้น้อย ตอนนี้ ผู้บาดเจ็บอยู่ รพ.ลาดกระบัง มีอาการสมองบวม ไม่รู้สึกตัวโคม่าเลยส่งต่อไปอีก รพ.ตอนนี้เป็นตายเท่ากัน จะกลับมาปกติหรือไม่ ยังไม่ทราบ พอไปเเจ้งความ ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ก็ไม่รับเเจ้งความ
เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ตำรวจเเค่ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ตัวเอง วันนี้จะให้ผู้เสียหายพาไปเเจ้งความดำเนินคดีอีกครั้ง เเละสอบปากคำ จะรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นไม่ได้ ถ้าหากเขาตาย หมายความผู้ต้องหา จะลอยนวลไม่ถูกดำเนินคดีหรือ
ด้านนางสาวนวล ภรรยาของ นายปุณณภพ หรือ แอ๊ด อายุ 50 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่าตัวเองเปิดร้านอาหาร อยู่ฝั่งตรงข้าม สน.ลาดกระบัง เป็นร้านอาหารเล็กๆ ซึ่งตนและสามีช่วยกันเปิดเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน โดยในตอนนั้นนางสาวกานต์ อายุประมาณ 27 ถึง 28 ปีแฟนสาวของนายวิทยา อายุ 50 ปี กต.ตร. คนก่อเหตุ ก็เคยมาทำงานอยู่ที่ร้านของตน เป็นพนักงานเสิร์ฟทำได้ประมาณสองอาทิตย์ก็ลาออกไป เพราะได้คบหากับนายวิทยาที่เป็นลูกค้าของร้าน ซึ่งตอนนั้นนางสาวกานต์ก็เป็นคนนิสัยดี แต่หลังจากที่เขาลาออกไปตนก็ไม่ได้เจอกับเขาอีก ทราบมาว่านางสาวการทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งในย่านลาดกระบัง ส่วนนายวิทยาเปิดร้านอาหารชื่อร้านฟองเบียร์อยู่แถวจรเข้น้อย และทำงานรับเหมาก่อสร้าง
ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา มีนายวิทยา เพียงลำพังที่จะมานั่งดื่มกินที่ร้านของตนในช่วงเวลาหลังร้านปิด เพราะเขาต้องการมานั่งรอนางสาวกานต์เลิกงาน โดยเวลาที่นายวิทยามานั่งที่ร้านตนและสามีก็จะเข้าไปนั่งพูดคุยด้วย ทำให้รู้จักกันพอประมาณ แต่ไม่ได้ถึงขั้นสนิทกัน ตนจึงไม่ทราบมาก่อนว่านายวิทยา มีตำเเหน่งเป็น กต.ตร.ของสน.จรเข้น้อย และที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายวิทยามาก่อน
เมื่อคืนนี้ ตนไปเเจ้งความที่ สน.ลาดกระบัง ตำรวจพนักงานสอบสวนไม่รับเเจ้งความ เพราะอ้างว่า คู่กรณีมาเเจ้งความไว้เเล้ว รับเรื่องมาเเล้ว เป็นเรื่องเดียวกัน บอกว่าค่อยมาคุยไกล่เกลี่ยกัน ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเลยพากันกลับบ้าน
ตอนนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ตนไม่อยากไกล่เกลี่ย เพราะสามีตนตอนนี้อาการหนักมาก เป็นตายเท่ากัน ใส่ท่อช่วยหายใจ อยู่ห้องไอซียู รักษาอยู่ หมอบอกรอดูอาการ เพราะมีเลือดคั่งในสมอง ตอนนี้ตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ได้ยินมาว่าเขารู้จักตำรวจในพื้นที่
ตอนนี้หลังจากเกิดเหตุ ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา เเละไม่มีการข่มขู่ ฝ่ายตำรวจก็เงียบ ไม่มีการโทรมาคุยเเต่อย่างใด.
