ญาติที่อยู่บ้านติดกัน เข้าใจผิดว่าตัวเองไปทำร้ายแม่เขา หลอนยาคลั่งบุกฟันยับ ต้องเย็บ 100 เข็ม ผ่านไป 2 เดือนคดีไม่คืบหน้า
ภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา บันทึกภาพตอนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายหายคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ถูกนายอภิวัฒน์ หรือไก่ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นญาติกันบุกเข้ามาในบ้านพร้อมอาวุธมีด ขณะที่นายทิพย์ กำลังหันหลังให้ ก่อนจะปรี่เข้ามาฟันไม่ยั้ง จนคนเจ็บต้องวิ่งหนีเข้ามาในบ้าน แต่ก็ถูกตามเข้ามากระหน่ำฟันใส่อีกหลายครั้ง โดยตัวของคนเจ็บพยายามยกมือขึ้นมาป้องกันตัว โดยเฉพาะบริเวณช่วงหัว จนคนในบ้านต้องเข้ามาช่วยกันห้าม และพยายามล็อคตัวคนก่อเหตุเอาไว้ แต่ตัวของคนก่อเหตุก็วิ่งหนีออกไป
หลังจากเกิดเหตุทางคนเจ็บก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ท่าเรือ และได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนซ้ายจนนิ้วก้อยด้านซ้ายขาด ต้องนำมาเย็บต่อใหม่ รวมถึงแผลบริเวณแขนซ้ายต้องเย็บกว่า 100 เข็ม ซ้ำร้ายตั้งแต่แจ้งความจนถึงวันนี้เวลาผ่านไปสองเดือนแล้ว ตำรวจยังไม่ออกหมายจับคนร้ายทั้งที่ภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน จึงนำหลักฐานมาร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง
นายเอ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่ตนเองและครอบครัวของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นญาติกัน อาศัยอยู่ในบ้านใกล้กัน แต่ทางฝั่งผู้ก่อเหตุจะขอมาอยู่ที่ห้องของตนโดยจะให้ตนย้ายไปอยู่ที่อื่น จึงเริ่มมีปากเสียงกันเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงกันเรื่องของที่จอดรถ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ยอมรับว่าหงุดหงิดจนไปเตะเก้าอี้ และกะละมังที่หน้าบ้านของตัวเอง แต่กลับมีคนไปแต่งเรื่องให้กับผู้ก่อเหตุฟังว่า ตนเองไปทะเลาะกับแม่ของผู้ก่อเหตุถึงขั้นเกือบมีการทำร้ายร่างกาย
ส่วนในวันก่อเหตุตนเองก็ทำธุระอยู่หน้าบ้านตามปกติโดยหันหลังให้กับประตูรั้วหน้าบ้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้านก่อนจะเดินลงมาพร้อมกับอาวุธมีดแล้วตะโกนว่า “มึงตบแม่กูเหรอ” ก่อนจะวิ่งหนีเข้ามาพร้อมอาวุธมีดกระหน่ำฟันตนเองทันที ซึ่งตอนนั้นตนเองทำได้แต่ป้องกันตัวเองด้วยการใช้มือซ้ายบังเข้าที่หัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุพยายามจะใช้มีดฟันเข้าที่ศรีษะ เพื่อต้องการเอาชีวิตของตน ซึ่งตอนนั้นตนเองก็พยายามเอาชีวิตรอดด้วยการพุ่งเข้าไปล็อกตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ จนผู้ก่อเหตุล้มลงไปกับพื้นแล้วมีดตกไปพร้อมกัน ก่อนที่จะมีคนในบ้านเข้ามาช่วยเอาไว้ ตัวของผู้ก่อเหตุจึงอาศัยจังหวะช่วงชุลมุนแล้ววิ่งหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตนเองได้รับบาดเจ็บหนักมากโดยเฉพาะบริเวณแขนซ้ายที่นิ้วก้อยด้านซ้ายถึงขั้นขาด จนหมอต้องทำการเย็บนิ้วเพื่อมาต่อใหม่ ส่วนบริเวณแผลที่แขนซ้ายต้องเย็บกว่า 100 เข็ม และตนเองก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนของ สน.ท่าเรือ พร้อมกับนำหลักฐานโดยเฉพาะกล้องวงจรปิดไปให้กับตำรวจด้วย แต่จนถึงตอนนี้เวลาผ่านมาแล้วกว่าสองเดือน ตำรวจเองยังไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้ โดยอ้างว่าให้รอผลจากการชันสูตรของแพทย์ก่อน จนทำให้หลังจากเกิดเหตุจนถึงวันนี้ตนเองต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เนื่องจากตัวของผู้ก่อเหตุเองก็ยังวนไปวนมาอยู่บ้านของตน และทราบมาอีกว่าตัวของผู้ก่อเหตุเองก็มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนเองเข้ามาร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือให้จับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางด้านเอกภพ ระบุว่า ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงบอกตามตรงว่าผู้ก่อเหตุคงไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลอะไรมาก น่าจะจับตัวมาดำเนินคดีได้ไม่ยาก เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่มีความผิดชัดเจน และหลักฐานโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ก็สามารถระบุตัวตนของผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากฝากไปถึงทางผู้กำกับการของ สน.ท่าเรือ ขอให้เร่งรัดดำเนินการกับผู้กระทำความผิดโดยเร็วที่สุด
