กองทัพเรือ ควบคุมเรือประมงเวียดนาม ขณะเข้ามาหาปลิงทะเลในน่านน้ำไทย

16 พ.ย. 66

กองทัพเรือ ภาคที่ 2 แถลงควบคุมเรือประมงเวียดนาม 1 ลำ ที่เข้ามาคาดปลิงทะเลในน่านน้ำไทย พร้อมตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อแล้ว


16 พ.ย. 66 เวลา 07.30 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในเขตน่านน้ำไทยบริเวณแบริ่ง 149 ระยะ 38.6 ไมล์ จากเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายใน

โดยพลเรือโทพิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงเทพาลาดตระเวนพิสูจน์ทราบโดยในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา 14.00 น. เรือหลวงเทพาตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประเภทคาดปลิง จำนวน 1 ลำ มีผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวมจำนวน 5 คน จากบริเวณที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวกำลังลักลอบทำการประมงโดยการคาดปลิงทะเล จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลาทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายในจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา ดังนี้

1.ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558มาตรา10)

2.ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558)

3.ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต(ตามพ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทยพ.ศ.2482)

การปฏิบัติดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลปี 2567 โดยร่วมกับทัพเรือภาคที่ 2 ในการประสานการปฏิบัติตั้งแต่ด้านการข่าว และจัดกำลังทางเรือและอากาศนาวีลาดตระเวนเฝ้าตรวจและคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำการรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือประมงต่างชาติเพื่อเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมายจนประสบความสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้

สำหรับการปรากฏข่าวสารในโซเชียลที่แจ้งว่ามีเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทยจำนวนกว่า100 ลำ เพื่อลักลอบทำการประมงนั้น ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบพบว่าเรือที่ลักลอบไม่ได้มีจำนวนมากตามที่ได้นำเสนอทางสื่อ ตรวจพบเพียงจำนวนน้อยมาก แต่ขณะเข้าจับกุมมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและขัดขืนการจับกุมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

ท้ายนี้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมงที่ให้ความร่วมมือ แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ซึ่งมีพื้นที่กว่า 100,000 ตารางกิโลเมตรนั้น เราจะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทยคงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส