กลับไม่ถึงบ้าน! เมียคนขับเรือหางยาว เหยื่อเจ็ตสกีมรณะเผยสามีดับสลดหน้าบ้าน ลั่นดำเนินการถึงที่สุด พ่อสาว 29 ปีขอให้เป็นเคสสุดท้าย
28 ต.ค.2566 ที่สภ.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ นายสมพงษ์ สงวนนามสกุล อายุ 61 ปี พ่อของ น.สวริศรา สงวนนามสกุล อายุ 29 ปี เป็น 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเจ็ตสกี เสียการควบคุม ไปชนเข้ากับเรือหางยาวที่มีคนและผู้โดยสารรวม 3 คน แล่นสวนมา กำลังจะเลี้ยวเข้าบ้าน โดยผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย คือ นายสราวุฒิ สงวนนามสกุล อายุ 28 ปี และนายกฤษฎา สงวนนามสกุล อายุ 30 ปี
นายสมพงษ์ เผยว่าตนเสียใจ เพราะตนมีลูกสาวคนเดียว ส่วนการขับขี่เรือคนขับ ต้องระวัง ไม่ใช่ขับกันตามอำเภอใจ หากเกิดการสูญเสียมันไม่คุ้มกันเลย เงิน 200,000-300,000 บาท ใช้พักเดียวก็หมด ลูกสาวตนอายุเพียง 29 ปี ยังมีอนาคตอีกไกล อยากถามคนขับเรือว่าคึกคะนองหรือมึนเมาสุราหรือเปล่า นึกถึงความปลอดภัยไหม เกิดเหตุขึ้นมาครอบครัวฝ่ายสูญเสียจะรู้สึกอย่างไร ส่วนอีกทางฝ่ายคงไม่รู้สึกเพราะไม่ได้เกิดกับคุณ ขอให้เคสแบบนี้เคสลูกสาวของตนเป็นเคสสุดท้าย
นางสาวสุนันทา สงวนนามสกุล อายุ 34 ปี แฟนคนขับเรือที่เสียชีวิต บอกว่า ตนกับแฟนไปร่วมงานรับบัวที่วัดบางพลีใหญ่ในมา โดยนั่งเรือกันมาคนละลำ แฟนของตนกับเพื่อนอีก 2 คน ที่เสียชีวิตขับกลับมาก่อน ซึ่งจุดเกิดเหตุนั้นก็เป็นบริเวณหน้าบ้านแล้ว กำลังจะเอาเรือเข้าจอด แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน ตอนนี้ตนเสียใจมาก พูดอะไรไม่ออก ส่วนเรื่องคดีตนก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นายกบิน ชุมพร อายุ 31 ปี คนขับเจ็ตสกี ข้อหากระทำการโดยประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า เจ็บหน้าอกเลยต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่เจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ เตรียมเรียกสอบคนขับเจ็ตสกี จ่อแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนของกรมเจ้าท่า
1.ไม่มีอนุญาตใช้เรือปรับ 10,000 บาท
2.ไม่มีใบควบคุมเรือ หรือใบขับขี่เรือปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน
