จ่อ ออกหมายจับ เสี่ยแป้ง นาโหนด - ลูกน้องคนสนิทพา แหกคุก สอบสวนเบื้องต้นพบหวังไปพึ่งลูกพี่ใหญ่ที่กระบี่ให้พาหนีข้ามไปพม่า แต่ถูกปฏิเสธ จึงย้อนกลับมาพัทลุง
วันที่ 23 ต.ค.2566 รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด หลบหนี ออกจากการคุมขังของเจ้าหน้าที่ที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ตุลาคม 66 ที่ผ่านมานั้น พบว่าหลังจากปลดพันธนาการลงจากลิฟต์มาได้ก็มีรถมารับพาตัวหลบหนีไป
โดยเมื่อคืนนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนที่มารับเสี่ยแป้ง คือ ลูกน้องคนสนิท ชื่อ นายเฉลิมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี และนายจักรี (สงวนนามสกุล) อายุ 41ปี โดย นายจักรี นั่งรอในรถ ก่อนที่เสี่ยแป้งจะขึ้นรถกระบะสี่ประตูสีขาว ทะเบียน 8กจ3212 กรุงเทพหลบหนีไป โดยส่วนของการหลบหนีนั้นมีรถยนต์ทั้งหมด 3 คัน ประกอบด้วยรถยนต์กระบะยีห้อมิตซูบิชิสีขาว กระบะอีซูซุสีสาว และรถยนต์เก๋งฮอนด้ารุ่นซีวิคสีดำ ตามภาพวงจรปิดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บมาได้
โดยเสี่ยแป้งกับลูกน้องคู่ใจได้ขับมุ่งหน้าเข้า จ.ตรัง และไปที่ จ.กระบี่ เพื่อไปหาลูกพี่ แล้วมุ่งหน้าชายแดนประเทศเมียนมา แต่ถูกปฏิเสธจึงต้องย้อนกลับมาที่ จ.พัทลุง
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ากดดันทางครอบครัวของนายเชาวลิต ให้ประสานพามอบตัวโดยเร็ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งก็อยู่ระหว่างการล่าตัวมารับโทษต่อไป
สำหรับช่วงเวลาก่อนการหลบหนีนั้น ในวันที่ 20 ต.ค.มีอดีตนักการเมืองจาก จ.พัทลุง และตำรวจเดินทางไปเยี่ยม หลังจากนั้นเจ้าตัวได้พบแพทย์เพื่อนัดรักษาทันตกรรม แต่แพทย์ขอเลื่อนจึงแกล้งวูบหมดสติ แล้วนอนรักษาตัวที่ รพ.โดยวันที่ 22 ต.ค. มีกำหนดการออกจาก รพ.แต่ก็มาแหกคุกเสียก่อน
ล่าสุด พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมเร่งรัดสั่งการตามล่าโดยด่วน โดยแต่ละหน่วยได้สรุปผลการดำเนินการในรอบวันที่ผ่านมา ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร สามารถระบุตัวบุคคลที่ให้การช่วยเหลือในการหลบหนีได้ และสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม และเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาที่รู้ตัวเบื้องต้นมี 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง และลูกน้องอีก 2 คน
ล่าสุด นายเฉลิมพงษ์ หรือช่างปุ๊ หนึ่งในผู้ต้องสงสัย ที่เจ้าหน้าที่เปิดเผยข้อมูลเมื่อคืนที่ผ่านมาว่าเป็นคนพาหนี เจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของเสี่ยแป้ง ตกใจหลังจากเห็นข่าวในจอทีวีว่ามีตนเข้าไปเกี่ยวข้องว่าเป็นคนเดินคู่ออกจากตึก จริงๆแล้วไม่ใช่ตนเอง คืนเกิดเหตุตนเองได้เดินทางไปเปลี่ยนยางรถยนต์ให้ลูกค้าบริเวณเขาพับผ้าพื้นที่รอยต่อพัทลุง ตรัง และไม่ทราบเรื่องเลย จนทราบว่ามีข่าวดังกล่าวจริงๆ ตนกับเสี่ยแป้งรู้จักกันเพราะเคยไปทำงานให้ที่อู่ซ่อมรถเสี่ยแป้ง
แต่หลังจากเสี่ยแป้งติดคุกไม่ได้ไปมาหาสู่กัน อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตนเองว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวออกไปไม่ใช่ตน แต่เป็นคนอื่นที่ตนเองรู้จัก แต่ก็ไม่ได้สนิทกัน
ส่วนภรรยานายเฉลิมพงษ์ หรือช่างปุ๊ บอกว่ารู้สึกงงเหมือนกันว่าสามีตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีได้อย่างไร เพราะช่วงเกิดเหตุสามียังเดินทางไปซ่อมรถให้ลูกค้านอกสถานที่ และมีพยานเพื่อนข้างบ้านและเจ้าของรถที่ไปซ่อมพร้อมกับภาพกล้องวงจรปิดว่าสามีตนเองไม่ได้ไปช่วยเหลือเสี่ยแป้งตามที่เป็นข่าว
ขณะที่การติดตามจัว เสี่ยแป้งและผู้ต้องสงสัยที่เหลือ ล่าสุดผู้บังคับการตำรวจนครศรีธรรมราช พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรพัทลุงกำลังครบมือ กำลังเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดพัทลุง เพื่อค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ประกอบด้วยบ้าน นายจีรวุฒิ หรือ บอย ชุมศรี ท้องที่อ.ควนขนุน บ้าน นายจักรี หรือ บิ๊กแป้น น้อยท้อง ที่ อ.เมือง และ น.ส.หมวย พื้นที่ อ.เมือง เช่นกัน ทั้ง 3 มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งพาหลบหนี และพบว่า น.ส.หมวยนั้นเป็นคนโอนเงินดูแลค่าใช้จ่ายในการหลบหนีในครั้งนี้.
