กู้ภัย ระดมค้นหาลุงวัย 69 ปี หายออกจากบ้าน นาน 11 วัน พบเพิ่งขายที่ได้เงิน 1 ล้านและปล่อย เงินกู้ เก็บดอกเบี้ยกิน ก่อนมาพบจักรยานจอดคว่ำอยู่ในป่าหญ้า
พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เดินทางไปตรวจสอบบริเวณป่าหญ้าทึบด้านหลังปั๊มน้ำมันบางจาก ริมถนนสุวินทวงศ์ม.8 ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมตำรวจพฐ. และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราเพื่อทำการค้นหาผู้สูญหาย คือ นายสมยศ บัวประเสริฐ หรือ ลุงจิ้ม อายุ 69 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.สุดาวรรณ ทรัพย์เจริญ อายุ 38 ปี หลานสาวของผู้สูญหายได้มาแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมาพบรถจักรยานยนต์ของผู้สูญหายจอดล้มอยู่ในป่าหญ้าหลังปั๊มน้ำมันบางจากอย่างน่าสงสัย
โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทราได้เดินเท้าเข้าไปสำรวจในป่าหญ้าด้านหลังปั๊มน้ำมัน อีกส่วนได้เดินบริเวณคลองข้างป่าและใช้โดรนในการบินค้นหามุมสูงบริเวณจุดสุดท้ายที่พบรถจักรยานยนต์จอดรถคว่ำอยู่ ใช้เวลาค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบร่องรอย
นายสุชาติ ศรีนวล น้องเขยผู้สูญหาย เปิดเผยว่าผู้ตายเพิ่งจะขายที่ได้เงินมา 1 ล้านบาทเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ก่อนจะมาอยู่กับน้องสาวของผู้สูญหาย โดยนายสมยศ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กทร 962 นครนายก ออกมาจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา และไม่ได้กลับมาบ้าน จนญาติๆต้องพากันไปแจ้งความคนหายไว้
ทีแรกก็คิดว่านายสมยศอาจจะไปไหนไม่ไกล เพราะอาการหลงลืมจากโรคเบาหวาน และไปหาพระที่เป็นหมอดูก็บอกว่านายสมยศ ไปไหนไม่ไกล อีก 2-3วัน ก็กลับมา พวกตนก็ยังไม่ได้ออกตามหา กระทั่งวันที่ 11 ตุลาคม 2566 มีคนพบรถจักรยานยนต์ของนายสมยศ จอดคว่ำอยู่ในคูน้ำป่าหญ้าหลังปั๊มน้ำมัน แต่ไม่มีกุญแจรถคาอยู่ ญาติๆจึงได้ออกเดินตามหาในบริเวณนั้น แต่ก็ไม่พบ ประกอบกับคำหมอดูว่าเดี๋ยวนายสมยศก็กลับมา
กระทั่งเวลาผ่านไป 11 วัน ไม่มีทีท่าว่านายสมยศจะกลับมา จึงแจ้งร้องขอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทราเข้ามาช่วยค้นหา
น.ส.สุดาวรรณ หลานสาวของผู้สูญหาย เปิดเผยว่า ผู้สูญหายหลังขายที่ได้ก็มาอยู่กับแม่ของตน ผู้สูญหายไม่ได้ทำงานแล้ว เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายโรค จึงนำเงินที่ขายที่ได้มาบางส่วนมาปล่อยเงินกู้เก็บดอก เอามาใช้สอย เช้าวันเกิดเหตุผู้สูญหายมีเงินติดตัวออกมาประมาณ 500 บาท ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาแล้วก็ไม่กลับเข้ามาอีกเลย เป็นเวลา 11 วันแล้ว
พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะให้ชุดสืบสวนตามไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดว่าใครเป็นผู้นำรถมายังจุดนี้ ซึ่งไม่ใช่ทางหลักที่จะมีรถเข้ามาและให้เจ้าหน้าที่พฐ.ตรวจสอบลายนิ้วมือบนรถจักรยานยนต์ของนายสมยศ ว่ามีลายนิ้วมืออื่นแปลกปลอมหรือไม่ นอกจากนี้จะได้ทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้สูญหายว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่ หากมีการเคลื่อนไหวใครเป็นผู้นำเงินไป น่าจะทำการสืบสวนจากพี่น้องของผู้สูญหายทั้งหมด เพื่อติดตามตัวนายสมยศต่อไป.
