เมียร่ำไห้จุดธูปเรียกวิญญาณผัวกลับบ้านเกิด สังเวยรายที่ 30 ในอิสราเอล

18 ต.ค. 66

กลับบ้านเรานะพี่ เมียหนุ่ม แรงงาน ร่ำไห้จุดธูปเรียก ดวงวิญญาณ ผัวกลับบ้านเกิด หลังทราบข่าวร้ายสังเวยเหตุสู้รบใน อิสราเอล รายที่ 30 เศร้าเงินจัดงานศพยังไม่มี ส่วนภรรยาก็ป่วยเป็นมะเร็งทำงานหนักไม่ได้

วันนี้ (18 ต.ค.66) น.ส.สายชล ชาติกุญชร อายุ 38 ปี พร้อมด้วยนางเอมอร เรียงไข อายุ 59 ปี ภรรยาและแม่ ของนายจักรพันธ์  เดี่ยวไธสง อายุ 37 ปี แรงงานชาว ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติพี่น้องได้จุดธูปเรียกดวงวิญญาณของนายจักรพันธ์   กลับบ้านเกิดทั้งน้ำตา หลังทราบข่าวจากทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ยืนยันว่าสามีได้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบกันที่อิสราเอลรายที่ 30 ของไทยแล้ว และเป็นแรงงานชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่เสียชีวิตเป็นรายแรก จากเหตุการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสกับกองกำลังอิสราเอล   

ซึ่งทางครอบครัวก็ได้เรียกร้องให้ทางการช่วยนำศพนายจักรพันธ์ กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด และขอให้ช่วยเหลือครอบครัวด้วย ลำพังเงินจะจัดงานศพยังไม่มี เพราะนายจักรพันธ์ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว แม่ก็ไม่มีรายได้อะไร ส่วนภรรยาก็ป่วยเป็นมะเร็งทำงานหนักไม่ได้ ก็รอความหวังจากนายจักรพันธ์ ที่ไปทำงานต่างประเทศเท่านั้น 

น.ส.สายชล ภรรยา ได้กอดรูปถ่ายของสามีร้องไห้ตลอดเวลา พร้อมเล่าทั้งน้ำตาว่า ทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีอยู่กินกันมาเกือบ 20 ปีทั้งรักและผูกพัน ที่สามีตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศเพราะอยากมีรายได้มาดูแลครอบครัว เพราะตัวเองก็ป่วยเป็นมะเร็งทำงานหนักไม่ได้ ลูกชายก็กำลังเรียน ส่วนย่าก็อายุมากแล้ว ช่วงที่สามีทำงานที่อิสราเอลก็ไลน์คุยกันทุกวัน กระทั่งขาดการติดต่อช่วงที่เกิดเหตุสู้รบเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 แต่ก็ภาวนาขอให้สามีรอดชีวิต แต่พอได้ยินข่าวร้ายว่าสามีเสียชีวิตแล้วมันทำใจไม่ได้ ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อยังไง ไหนจะภาระหนี้สินอีกหลายแสนบาท แต่ก็บอกกับรูปถ่ายสามีว่าจะเข้มแข็งจะพยายามหางานทำเพื่อดูแลลูกชาย และย่า ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ก็อยากให้ทางการช่วยเหลือนำศพสามีกลับบ้านเกิด เพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนา แต่หากไม่สามารถนำศพกลับมาได้ ก็ขอแค่เถ้ากระดูกมาทำบุญก็ยังดี และอยากให้ช่วยเหลือเยียวยาด้วย 

นางเอมอร เรียงไข ผู้เป็นแม่ บอกว่าหลังจากได้รับการยืนยันจากทางการว่านายจักรพันธ์ ลูกชายเป็นแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุสู้รบที่อิสราเอลเป็นรายล่าสุด ครอบครัวต่างก็ช็อกและทำใจไม่ได้ ก็พากันกอดกันร้องไห้ เพราะก่อนหน้านี้แม่กับภรรยา ก็ได้วิดีโอคอลคุยกับนายจักรพันธ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุขึ้นวันแรก แต่ระหว่างคุยวิดีโอคอลกับลูกชาย ก็บอกกับแม่และภรรยาว่าแค่นี้ก่อนนะ ทหารมาแล้วสายก็ตัดไป ที่ผ่านมาครอบครัวพยายามไลน์ และติดต่อหาลูกชายตลอด แต่ก็ติดต่อไม่ได้ตอนแรกคิดว่าอาจจะแค่ถูกจับเป็นตัวประกัน หรืออาจจะปิดมือถือเพื่อหลบซ่อนตัว จึงภาวนาขอให้ปลอดภัยมาตลอด และที่ผ่านมาแม่ก็ไปดูหมอตามความเชื่อหลายที่ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าลูกชายยังมีชีวิต ทำให้ยังมีความหวังแต่พอวันนี้ได้ทราบข่าวร้ายก็ทำใจไม่ได้.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส