บัวแก้ว แจงยิบเคลียร์ปม ทำไม เครื่องบินทหารต้องบินอ้อม

17 ต.ค. 66

 

บัวแก้ว แจงยิบเคลียร์ปม ทำไม เครื่องบินทหารต้องบินอ้อม ผ่านน่านฟ้า ซาอุดีอาระเบียไม่ได้ ย้ำ คนไทยใน อิสราเอลไม่ได้รอแม้แต่นาทีเดียว 

วันที่ 17 ต.ค. 66 นาย วรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงกรณีที่ เครื่องบินกองทัพอากาศของไทยต้องบินอ้อม ไม่สามารถบินตรงถึงประเทศอิสราเอลได้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการบินนานถึง 12 ชั่วโมง 40 นาที เพราะบินผ่านน่านฟ้ากลุ่มประเทศอาหรับไม่ได้ ในขณะที่เครื่องบินชาติอื่นสามารถบินตรงไป อิสราเอลได้เลยนั้นว่า 

คำถามนี้เป็นคำถามที่ทำให้ตนอึดอัด เพราะสะท้อนให้เห็นว่าเรามีความสัมพันธ์กับประเทศตะวันออกกลางค่อนข้างน้อย เนื่องจาก 100% เป็นประเทศมุสลิม เพื่อแสดงเป็นเอกภาพน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาติมุสลิม เขาก็ระงับการมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นตอนนี้ 

และการระงับความสัมพันธ์ทางการทูตที่เกิดผลทันที คือไม่ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถบินผ่านน่านฟ้าของประเทศตะวันออกกลางไป อิสราเอลได้ นี่คือสาเหตุหลัก แต่ถ้าจะให้นับจำนวนว่ามีกี่ประเทศนั้นนับยาก เพราะมีหลายประเทศ ซึ่งประเทศที่อนุญาตมีแค่ 2 ประเทศที่อนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้าไป อิสราเอล คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และ บาห์เรน ดังนั้นเราตระหนักดีว่า เส้นทางการบินที่สั้นที่สุดคือ การบินผ่านตะวันออกกลางและ ซาอุดีอาระเบีย แต่ข้อจำกัดนี้ ทำให้เราต้องเลือกเส้นทางการบินสำรอง ที่คิดว่ามีความเป็นไปได้ จึงเป็นเหตุผลที่ต้องบินขึ้นไปทางเหนือ และใช้เวลานานกว่า หากเราจะขอ ซาอุดีอาระเบียเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เราขอได้ แต่เราไม่รู้ว่าการพิจารณาจะใช้เวลาเท่าไหร่ อาจจะ 3 วัน 5 วัน 7 วัน หรือ 1 เดือน 

อีกทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เราคิดว่ารอไม่ได้ มีความเร่งด่วน เราจึงตัดสินใจอย่างง่ายดายว่าเสียเวลาเพิ่ม 3-4 ชม. เพื่อไปช่วยคนไทย ดีกว่าเสียเวลา 3 วัน 5 วัน 7 วัน หรือ 1 เดือน เราไม่รู้ว่าผลการพิจารณาจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต ด้วยเหตุผลเรื่องความเร่งด่วน ทำให้เราตัดสินใจเลือกเสียเวลาเพิ่มดีกว่าไม่กี่ ชม.ดีกว่า 

เมื่อถามว่า ด้วยปัญหาการเมืองในภูมิภาคนั้น ทำให้ประเทศมุสลิมเขามีเงื่อนไข ใครจะบินเข้า อิสราเอล จะไม่ให้บินผ่านประเทศเขา นี่คือปัญหาพื้นฐานใช่หรือไม่ นาย วรวุฒิ กล่าวว่า มันไม่ใช่ปัญหา แต่คือสภาพความเป็นจริง มาตรการนี้ไม่ได้เพิ่งเกิด แต่เกิดมานานมากแล้ว ก่อนหน้านี้เราก็มีเครื่องบินที่ต้องบินไปทำภารกิจสำคัญไม่น้อยกว่าครั้งนี้ เราก็ขอบินผ่าน ซาอุดีอาระเบีย เราก็ได้คำตอบนี้ว่า เขาไม่มีความสัมพันธ์กับ อิสราเอล จึงไม่อนุญาตให้บินผ่าน 

เมื่อถามว่า ทำไมเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินแห่งชาติ อิสราเอลจึงสามารถบินผ่านอินเดีย หรือบางประเทศในตะวันออกลางเพื่อเข้าไป อิสราเอลได้ เขาผ่านกลุ่มประเทศมุสลิมได้อย่างไร นาย วรวุฒิ กล่าวว่า นี่ก็คืออีกข้อเท็จจริงหนึ่ง เดิมก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 ปี บินผ่านไม่ได้ หากจำได้จะมีช่วงหนึ่งที่นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปเยือน ซาอุดีอาระเบีย และได้เจรจามีผลสำเร็จคือการอนุญาตเป็นกรณีเฉพาะ ให้เฉพาะเครื่องบินพาณิชย์โดยสารประจำทางของอิสราเอลสามารถบินผ่านน่านฟ้า ซาอุดีอาระเบียได้ 

เมื่อถามว่า แล้วเหตุใดเครื่องบินทหารของเกาหลีใต้สามารถผ่านประเทศอาหรับได้ นาย วรวุฒิ กล่าวว่า เราทราบก่อนหน้านี้ และคิดว่าไม่ใช่เรื่องปกติวิสัย หากติดตามข่าวจะทราบว่า เครื่องบินทหารของเกาหลีใต้ได้บินผ่านประเทศไทยด้วย และเราก็ทราบว่าเส้นทางการบินของเขาจะผ่านประเทศใดบ้าง เราก็เห็นแล้วว่ามีซาอุดีอาระเบียอยู่ในนั้น แต่ก็ไม่แปลกใจ 

เพราะเรารู้สึกว่าเกาหลีใต้โชคดีที่อาจจะมีข้อตกลงพิเศษกับซาอุดีอาระเบียในการสนับสนุนซึ่งกันและกันในภารกิจด้านการทหาร ซึ่งในวงการกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติที่บางประเทศอาจมีข้อตกลงบางพิเศษกับบางประเทศ ส่วนเราก็มีเหมือนกัน เช่น  ตุรกีที่เราสามารถบินผ่านน่านฟ้าได้โดยไม่ต้องขออนุญาตสำหรับภารกิจด้านการทหารเพียงแต่แจ้งให้เขาทราบ 

“เป็นเรื่องปกติ แล้วถามว่าทำไมเราไม่มีกับ ซาอุดีอาระเบีย อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของเราหยุดชะงักไป 32 ปี เวลาที่หายไปมีความหมาย เพราะความร่วมมือต่างๆ เราไม่สามารถทำร่วมกันได้ ซึ่งช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญเรื่องการค้า การลงทุนเป็นส่วนใหญ่ เพราฉะนั้นเรื่องการทหารเป็นอีกเรื่องที่เราต้องกลับมาคิดว่าอาจจะมีความจำเป็น หากมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต” 

เมื่อถามว่า ตอนนี้ไทยกับซาอุดีอาระเบียยังอยู่ในช่วงฮันนีมูน และทางการไทยสามารถต่อสายตรงหา มงกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียได้ ทำไมไม่มีการต่อสายตรงไปหาในเรื่องนี้ นาย วรวุฒิ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC Summit) ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 16-21 ต.ค. 66 ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ตนเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่จะได้มีการปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้ 

เมื่อถามย้ำว่า ทำไมต้องรอวันไปประชุมที่ซาอุดีอาระเบีย ทำไมไม่โทรศัพท์สายตรงถึงซาอุดีอาระเบีย นาย วรวุฒิ กล่าวว่า มันทำได้ แต่ต้องเข้าใจว่าการทูตมีหลายระดับ การที่นายกฯไม่ได้โทรศัพท์คุยไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีการสื่อสารกับซาอุดีอาระเบียเลย แต่ในระดับเจ้าหน้าที่คุยกับซาอุดีอาระเบียตลอดเวลา ประสานงานกันในเรื่องต่างๆ รวมถึงเรื่องนี้ด้วย เพื่อปูพื้นฐานต่างๆ ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เมื่อนายกฯได้คุยกับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจของซาอุดีอาระเบีย ก็จะมีคำตอบในการรับทราบท่าทีและความต้องการของเรา เพราะปกติระดับสูงคุยกันจะใช้เวลาไม่นานเท่ากับระดับเจ้าหน้าที่  เราไม่ได้ละเลย เราพยายามทุกช่องทาง 

เมื่อถามว่า แล้วเราได้ประสานกับกลุ่มประเทศอาหรับอื่นหรือไม่ว่าจะขอบินผ่าน นาย วรวุฒิ กล่าวว่า ประเทศที่เป็นอุปสรรคในการบินตรง ไม่ได้มี ซาอุดีอาระเบียประเทศเดียว แต่มี 4 ประเทศที่เป็นอุปสรรคได้แก่  ปากีสถาน กาตาร์ คูเวต ซาอุดีอาระเบีย แต่ต่อมา กาตาร์ได้มีนโยบายให้เราสามารถบินผ่านได้ ในภารกิจการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมใน อิสราเอล ทั้งนี้เราได้สอบถามประเทศที่เหลือแล้วว่าเปลี่ยนโยบายเหมือน กาตาร์ให้บินผ่านหรือไม่ เพื่อปรับแผนการบินต่อไปในอนาคต 

“เรามองหาออฟชั่นที่ดีที่สุด เร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้มากที่สุด เร็วที่สุด ปลอดภัยที่สุด ยืนยันว่าการที่เครื่องบินกองทัพอากาศไปรับคนไทยนั้น คนไทยที่นั้นไม่ต้องรอแม้แต่นาทีเดียว เมื่อเรารู้ว่าเครื่องบินใช้เวลาบินเพิ่มขึ้น เราก็ออกเดินทางไวขึ้น 4 ชม. เพื่อไปถึงอิสราเอลให้ตรงเวลาที่นัดหมายไว้” นาย วรวุฒิ กล่าว 

เมื่อถามว่า กระทรวงต่างประเทศได้รับการประสานเรื่องที่นาย วันมูหะมัดนอร์ มะทาประธานรัฐสภา ส่งตัวแทนชีอะห์ประเทศไทยไปเจรจากับ กลุ่มฮามาส ที่กรุงเตหะราน นาย วรวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเป็นข่าวที่ไม่ได้กรอง ไม่สามารถให้ความเห็นได้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส