โฆษก ตร. ย้ำ ผบ.ตร.ประชุมแบ่งงาน รอง ผบ.ตร. ตามความเหมาะสม

3 ต.ค. 66

ผบ.ตร. ประชุมแบ่งงาน รอง ผบ.ตร. ชี้พิจารณาตามความเหมาะสม ย้ำ “คดี มินนี่” ยังไม่ชัด มอบใครดูแล แจงภาพชื่นมื่น บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก เป็นเรื่องพี่น้อง 

วันนี้ 3 ต.ค. 66 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานประชุมมอบแนวทางการบริหารงานราชการตำรวจครั้งแรก ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา 

โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการประชุมในวันนี้ว่า พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมมอบแนวทางการบริหารราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วิสัยทัศน์ และแนวทางบริหารราชการ ที่จะขับเคลื่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติในปีงบประมาณ 2567 โดยมีข้าราชการตำรวจทุกหน่วย ได้เข้าร่วมรับฟังการประชุม 

สำหรับการมอบหมายหน้าที่ และการวางงานของ รอง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รับผิดชอบงานกฎหมายและคดี ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รับผิดชอบงานด้านการป้องกันและปราบปราม 

พล.ต.ท.อาชยน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้ให้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทั้ง 3 คน รักษาราชการแทนในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.เพื่อมอบงานในการปฏิบัติให้ทุกท่านได้มีหน้างาน และเพื่อให้การขับเคลื่อนงานสามารถเดินต่อไปโดยไม่สะดุด โดย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รับผิดชอบงานด้านสืบสวนและสอบสวน พล.ต.ท.สราวุธ การพานิช รับผิดชอบงานด้านการบริหาร และพล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง รับผิดชอบงานจเรตำรวจ ซึ่งการมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมดได้มีการพิจารณาและสอบถามสมัครใจแล้ว โดยเป็นความพึงพอใจกันทุกฝ่าย และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมกันนี้ได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ว่า เป็นองค์กรปราบปรามอาชญากรรม และบังคับใช้กฎหมายในระดับมาตรฐานสากลที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา 

ส่วนการกำหนดนโยบายการบริหารราชการ 10 ข้อนั้น เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตำรวจจะต้องปฏิบัติอยู่แล้ว และยังมีนโยบายเน้นหนักที่ให้ความสำคัญเร่งด่วนเพื่อสนองนโยบายรัฐบาลจำนวน 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่องการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกันมากขึ้น การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างเป็นระบบ การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการดูแลสวัสดิการและขวัญกำลังใจของข้าราชการตำรวจ 

ทั้งนี้ยังให้มีแผนดำเนินการเร่งรัด หรือ ควิกวิน ให้เห็นผลได้รวดเร็วและสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เห็นผลชัดเจน ภายใต้แนวคิด Police Home คือเราดูแลคุณ เพื่อให้คุณดูแลประชาชน โดยดำเนินการใน 5 ด้าน คือ การบริหารงานบุคคล ตัดระบบการทำงานที่ซ้ำซ้อนออกไป เสริมสร้างสวัสดิการเสริมสร้างความสามัคคี สร้างความเป็นธรรมการสื่อสารในองค์กรและสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน ซึ่งทั้ง 5 ด้าน มีเนื้องานที่ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในระยะประมาณ 3 เดือน ตลอดทั้งปี 2567 จะมีงานที่เห็นเป็นควิกวินออกมาเป็นระยะ ซึ่งจะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำไปสู่การเป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา ทั้งหมดนี้ ผบ.ตร.ได้ชี้แจงไปยังข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับรอง ผบ.ตร.จนถึงระดับโรงพัก กองกำกับสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าใจและสามารถปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกันตั้งแต่วันนี้ หลังจากนี้จะต้องรอให้มีวาระการแต่งตั้งโยกย้าย ถึงจะมีนโยบายหรือแนวทางปฎิบัติในภาพรวมทั้งประเทศอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า กรณีคดีเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของ น.ส.มินนี่นั้น ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ใครเป็นผู้ดูแลคดีนั้น พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนแล้ว มีทีมทำงานอยู่ แต่ขอไปตรวจสอบก่อนว่าได้มีการมอบหมายข้าราชการตำรวจท่านใดเป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลรับผิดชอบ 

เมื่อถามว่า เดิม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้รับผิดชอบดูแล หลังจากแต่งตั้งให้พล.ต.ท.ธนา ดูแลและทำการสืบสวนสอบสวนแล้ว ดังนั้นมีโอกาสที่จะกำกับดูแลในคดีดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า เรื่องการแต่งตั้งผู้เข้ามากำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวน เป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมาย ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับสายงานก็ได้ ถือว่าเป็นดุลยพินิจของ ผบ.ตร.ที่จะสามารถมอบหมายใครมาดู ก็แล้วแต่ความเหมาะสม 

ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะยังกำกับดูแลเรื่องคดีอยู่หรือไม่นั้น คาดว่า วันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเร่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นคณะทำงานขึ้นมา เพราะในเรื่องของสำนวนการสอบสวนเดิมที่อยู่ในความรับผิดชอบของนครบาลนั้นอาจจะไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลได้อย่างทั่วถึง จึงต้องยกระดับขึ้นมาให้อยู่ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลแทน จะมีความเหมาะสมมากกว่า ส่วนจะให้ท่านใดได้รับมอบหมายนั้นขอไปตรวจสอบก่อนและจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า การมอบหมายนโยบายวันนี้ มีการพูดคุยถึงเรื่องของความขัดแย้งกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น พล.ต.ท.อาชยน ยืนยันว่า บรรยากาศในการประชุมมอบหมายแนวทางในการปฏิบัติหรือบริหารราชการ ได้มีการร่วมรับประทานอาหารก่อนการประชุม เพื่อให้มีการพูดคุยกัน ซึ่งผบ.ตร. ได้เน้นย้ำว่า วันนี้ไม่มีคำว่าผู้บังคับบัญชา มีแต่คำว่าพี่น้อง ซึ่งจากการร่วมรับประทานอาหารกันวันนี้ ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

ส่วนกรณีที่มีภาพคู่ออกมาระหว่าง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์นั้น มองว่า ไม่ได้ต้องการทำให้ใครเชื่อ แต่เราจำเป็นต้องทำให้ทุกอย่างอยู่ในเรื่องความเป็นพี่น้อง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ตร. ดังนั้นหากทุกอย่างมีความเข้าใจกันก็จะสามารถปฏิบัติงานได้ พร้อมยืนยันว่า หลังจากนี้คงจะไม่มีศึกภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกิดขึ้นอีก ทุกคนก็ทำงานกันไปตามลักษณะหน้างานและคิดว่าภายใต้แนวนโยบาย และแนวทางการบริหารราชการ ก็มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าตำรวจต้องพยายามทำงานต่อเนื่อง และต้องพูดคุยสื่อสารกันให้มากที่สุด เพื่อให้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส