"อัจฉริยะ"ยื่นหนังสือ ให้ ปปป. ตรวจสอบ" บิ๊กโจ๊ก " พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ประกาศสงครามครั้งสุดท้ายขอแฉเหมือนซีรีส์ "คดีแตงโม-ชมพู่"
เวลา 10.00 น.อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมา กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.ให้สอบเรื่องการจ่ายค่าไฟของบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร.ที่อ้างว่า ให้ลูกน้องไปจ่าย แต่ปรากฏว่าในการตรวจสอบเส้นทางการเงินเรื่องของค่าไฟนั้นพบว่าเป็นเงินของผู้ต้องหายาเสพติด โดยใช้บัญชีเว็บพนันของมินนี่เป็นคนจ่ายค่าไฟ โดยตนจะให้ ปปป.ตรวจสอบ
สำหรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่ามีมรดกเป็นพันล้าน แต่คนที่มีเงินขนาดนี้ทำไมถึงไม่ซื้อบ้านเอง ส่วนเฮียแต๋มนั้นตนเองรู้จักดี ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกับบิ๊กโจ๊กแน่นอน โดยในอดีตเฮียแต๋มทำธุรกิจเกี่ยวกับคาราโอเกะด้วย
ส่วนเงินที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่ามีเงินมาลับจากราชการเพื่อสนับสนุนการทำคดีนั้น ก็ต้องไปถามกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ว่ามีการมอบเงินบัญชีลับให้กับชุดสืบสวนสอบสวนหรือไม่ ซึ่งถ้าจำไม่ผิดตนเองทราบว่าเดือนละประมาณ 600,000 บาท
ขณะนี้ตนเองมีข้อมูลเป็นจำนวนมาก และก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยเตือน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แล้วว่าตนเองรู้เรื่องทุกอย่างว่าทำอะไรมาบ้าง และที่บิ๊กโจ๊กขู่มาว่ามีความลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าเปิดเผยจะพังทั้งองค์กร และตนก็มีข้อมูลลับของบิ๊กโจ๊กเช่นกันในการเก็บสะสมมาตลอดสองปี
ถ้าตนเองเปิดก็คงไม่มีแผ่นดินจะอยู่เหมือนกัน นี่คือสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างตนเองกับบิ๊กโจ๊กไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ใด ตอนนี้สังคมต้องสะอาดบ้านเมืองต้องสะอาดฟ้าได้มีการเปลี่ยนสีแล้ว โดยเฉพาะสโมสรตำรวจเป็นขบวนการที่มีการรับฟอกเงิน หลังจากนี้จะแฉให้เหมือนซีรีส์คดีแตงโมและคดีน้องชมพู่
นอกจากนี้นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงนักข่าวจำนวน 10 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่านักข่าวทั้ง 10 คนนี้จะมีหน้าที่รับจ้างเขียนข่าวโจมตีฝั่งตรงข้ามและเขียนข่าวสนับสนุนฝ่ายตนเอง โดยมีสามรูปแบบคือ
1.เช่นสมมติว่ามีสื่อหนึ่งช่องรับเงินจากบัญชีของมินนี่ โดยมาเขียนข่าวสนับสนุนหรือได้ความลับจากสำนวนออกมาเปิดเผยก่อนช่องอื่น จะมีการจ่ายเป็นรายเดือน
2. นักข่าวคนใดถามคำถามให้สังเกตว่าคนนั้นจะไม่มีการรับเงิน เช่นนักข่าวที่ชื่อนายสุวรรณ ตนการันตีว่าคนนี้ไม่มีการรับเงินเพราะนายสุวรรณจะชอบเป็นคนที่ตั้งคำถามมาโดยตลอด เป็นการที่ถามตรงไปตรงมา แต่มีบางคนไม่ได้ตั้งคำถามแต่กลับไปเขียนข่าวเชียร์ก็ต้องไปดูก่อนว่าเป็นใคร
3. นักข่าวที่รับจ้างเขียนโจมตีอาทิ เช่น คดีตู้ห่าวถ้าหากอยากให้มีการโจมตี นาย ก.ก็จะมีคนรับหน้าเสื่อว่าวันนี้มีสื่อมา 20 ช่องจะให้เขียนเรื่องเดียวกัน โดยรับไปคนละ 5,000 บาท ก็จะใช้เงินจำนวน 100,000 ที่โอนมาจากบัญชีมินนี่ให้กับผู้ร่วมขบวนการและราคาก็ขึ้นอยู่กับความสำคัญของข่าว แต่ต่ำสุด 5 พัน ไปจนถึงหลักหมื่น.
