“บิ๊กแจ๊ส” ลั่น รับไม่ได้กับตำรวจที่อยู่ในงานบ้านกำนันนกในคืนนั้น ขาดจิตวิญญาณของตำรวจ ปล่อยให้คนร้ายทำลายหลักฐาน หนำซ้ำปล่อยให้เพื่อนตำรวจระดับสารวัตรโดนยิงต่อหน้า และคุมพื้นที่ไม่ได้ ชี้ วงจรปิด 2 ตัวจุดสำคัญ กู้ไม่ได้ มีผลต่อการมัดตัวคนร้ายแน่นอน
ผู้สื่อข่าวอมรินทร์เดินทางพูดคุยกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง (บิ๊กแจ๊ส) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ถึงกรณีคดีลูกน้อง กำนันนก ยิงสารวัตรศิวกร
โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า คดีนี้ตนเองรับไม่ได้กับหลายสิ่งหลายอย่าง เพราะเหตุที่เกิดวันที่ 6 กันยายน เกิดต่อหน้าเพื่อนตำรวจ 20 กว่าคน แต่ไม่มีใครที่จะสามารถจับผู้ร้ายได้เลย ไม่มีใครยิงต่อสู้ ซึ่งไม่ได้อยู่กันไกล ปล่อยให้ตำรวจที่เป็นรุ่นน้อง ถูกยิงต่อหน้าต่อตา ซึ่งมีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก แต่ไม่มีจิตวิญญาณในการเป็นตำรวจ ด้วยเหตุเกิดตอน 21:00 น ด้วยเหตุตั้งเกิดตอน 21:00 น ไม่มีผู้บัญชาการภาค 7 ผู้การนครปฐม ผู้กำกับเมือง รวมถึง ตัวผู้กำกับสืบสวน ที่อยู่ในพื้นที่แถวนั้นทำไมถึงไม่คุมที่เกิดเหตุ ไม่ให้ความสำคัญกับเหตุที่เกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ตำรวจ ระดับ สารวัตร โดนยิงทั้งคน ซึ่งตนเองรับไม่ได้ที่เกิดเหตุโดนทำลายไปทั้งหมด โดยตำรวจที่อยู่ในงานทั้งหมด ตนเองมองว่าไม่ควรให้อยู่ในตำแหน่ง ที่ต้องดูแลประชาชน เพราะเพื่อนตำรวจด้วยกัน ยังดูแลไม่ได้จะไปดูแลประชาชนได้อย่างไร
โดยสิ่งที่ตนเองอยากให้ทำต่อ คือการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของกำนันนก ว่าได้มาอย่างไร ส่วนการฮั้วประมูล ก็ต้องมีการดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังไป ว่ามีกี่งานที่ได้งานมา ซึ่งมูลความผิดฮั้วประมูลนั้น สามารถยึดทรัพย์ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ตนเองเชื่อว่าขณะนี้ทั้งรองโจ๊ก และรองต่อ ก็ได้มีการสั่งการให้ขยายผลต่อไปแล้วและจะนำไปสู่การยึดทรัพย์
ส่วนกรณีที่ กล้องวงจรปิดอีก 2 ตัว ที่ยังไม่สามารถกู้ไฟล์ได้ ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดจุดสำคัญที่เห็นบรรยากาศบริเวณงานเลี้ยง ตนเองมองว่ามีผลต่อพยานหลักฐาน ในการมัดตัวกำนันนกอย่างแน่นอน เพราะกล้อง 2 ตัวนั้นเป็นจุดสำคัญ ซึ่งถ้ากล้องวงจรปิด เห็นชัดเจนสามารถไปเสริมคำให้การของพยานได้เลย และสามารถมัดตัวผู้กระทำผิดได้ แต่ในขณะเดียวกันที่กล้อง 2ตัวนี้ ยังไม่สามารถกู้ได้ ก็จะเสียหลักฐานสำคัญในการที่จะมัดตัวผู้กระทำความผิดไป ซึ่งก็ต้องอาศัยพยานหลักฐานแวดล้อมต่างๆต่อไป แต่ตนเองเชื่อมั่นว่า ทางผู้บังคับบัญชาและทางกองปราบจะทำงานกันอย่างเต็มที่
