เศร้า!แม่พิการร่ำไห้วอนนักข่าวช่วยเลี้ยงลูกชายวัย12ปี หลังตัวเองติดคุก

6 ก.ย. 66

น้ำตาท่วม!แม่พิการร่ำไห้วอนนักข่าวช่วยเลี้ยงลูกชายวัย 12 ปี หลังตัวเองติดคุก ช้ำไปอีกเมื่อรู้ความจริงว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เก็บมาเลี้ยงเพราะสงสาร ถูกพ่อแม่วัยรุ่นคลอดทิ้งไว้

 

ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า เมื่อเช้าวานนี้ได้รับโทรศัพท์จากหญิงคนหนึ่ง บอกว่า เธอกำลังถูกศาลจังหวัดทุ่งสง สั่งจำคุก 2 ปี ในคดีบุกรุก และลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยไม่รอลงอาญา

ซึ่งเธอเอง อายุ 52ปี พิการตาบอด 1ข้าง อีกข้างมองเห็นเลือนลาง มือเท้าเหน็บชา เดินต้องใช้ไม้เท้าพยุงและยังป่วยเป็นโรคหัวใจความดันและไตวายในระยะรุนแรง

จึงอยากวิงวอนให้มาช่วยรับลูกชาย วัย 12 ปี ไปเลี้ยง จนจบ ป. 6 จากนั้นให้นำไปฝากเจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง เนื่องจากเคยมีเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เธอพูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วยเพราะสงสารลูกชาย จนสุดท้ายผู้สื่อข่าวรับปาก ก่อนเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปยังศาลจังหวัดทุ่งสงทันที

 

เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทราบเรื่องที่จะมารับเด็ก โดยเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าทราบดีว่า 2 แม่ลูกคู่นี้ มีฐานะยากจน ก่อนพาไปพบแม่ลูกคู่นี้ ซึ่งกำลังนั่งร้องไห้ กอด อำลากันอยู่ใต้ถุนศาล แต่ก็ดีใจเมื่อเห็น นายไพฑูรย์ มารับลูกชาย ตามที่รับปากไว้ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ศาลลงมาเป็นพยานในการที่มอบหมายฝากให้นายไพฑูรย์ช่วยดูแลบุตรแทน

 

แม่เด็ก เปิดเผยว่าคู่กรณีเป็นญาติฝ่ายแม่ และยังเป็นทนายความอีก แต่ก็ต่อสู้มาจนถึงฏีฏา เมื่อคำตัดสินของศาลเป็นเช่นนี้ก็ยอมรับ ใช้เวรใช้กรรมในคุก ตามคำพิพากษา 2 ปี แต่เรื่องเดียวที่กังวล คือ เป็นห่วงลูกชาย ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากวิงวอนผู้สื่อข่าวที่ติดตามข่าวมาตลอด ช่วยดูแลลูกแทนไปก่อน

 

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พาเด็กชายวัย 12 ปี กลับมายังบ้านเช่า เพื่อเก็บของ และได้พูดคุยกับกับผู้อำนวยการโรงเรียนที่น้องศึกษาอยู่ เนื่องจากต้องย้ายโรงเรียนกะทันหัน

จากการตรวจสอบทราบว่าเด็กชาย อายุ 12 ปี ไม่ได้เป็นลูกแท้ ๆ ของหญิงคนดังกล่าว เป็นเพียงลูกบุญธรรม เนื่องจากพ่อ-แม่ที่แท้จริงเด็ก เป็นวัยรุ่นที่เคยมาเช่าบ้านอยู่ข้างกัน และพอคลอดน้องออกมาก็ได้ทิ้งไว้ ก่อนหลบหนีไป หญิงคนนี้จึงเลี้ยงน้องมาด้วยความยากลำบาก ส่วนที่ผ่านมาพยายามหาตัวพ่อแม่ที่แท้จริงมาดูแลลูก แต่ก็ทราบภายหลังว่าทั้งคู่ติดยาเสพติดหนัก สุดท้ายหญิงตาบอดก็จำยอมพาน้องไปจดทะเบียนรับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมเรื่อยมา

 

ล่าสุดผู้อำนวยการบ้านพักเด็กและครอบครัวเตรียมเข้าเยี่ยม พร้อมจะช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยต่อไป รวมถึงการเรียนด้วย.

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส