"ชลน่าน"ประกาศลาออกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เหตุจับมือตั้งรัฐบาลกับ พปชร. ไม่ตอบจะกลับมานั่งตำแหน่งหัวหน้าอีกหรือไม่ หากถูกเสนอชื่ออีก
นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคร่วมกันแถลงว่าวันนี้มีประชุมกรรมการบริหารพรรค 14 นาฬิกา หลังเสร็จสิ้นประชุมมาแถลงข่าว
โดยนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า จากผลประชุมถือเป็นจุดสุดท้ายในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่เคยประกาศไว้ว่าหากทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในฐานะกรรมการบริหารพรรคที่ได้รับผิดชอบการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเสร็จ ซึ่งประกาศเมื่อ 28 เมษายน 2566 ถึงประชาชนที่จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น
จึงขอทำตามที่ประกาศไว้ตามที่ลั่นวาจาว่าหากกรรมการบริหารเพื่อไทยมีมติจัดตั้งรัฐบาลร่วมพรรคพลังประชารัฐและพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมลาออก จึงขอประกาศขอลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนับแต่บัดนี้ (30 ส.ค.66)
พร้อมอ้างอิงเหตุผลประกาศอาจล่วงเวลา ด้วยเพราะเหตุจำเป็นในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นการตั้งรัฐบาลในสถานการณ์พิเศษที่พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นและส่วนใหญ่เห็นว่าเพื่อไทยต้องดำเนินการให้ได้ เมื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้และอยู่ระหว่างนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ถือภารกิจสำเร็จลุล่วงแล้ว
นอกจากนี้นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวว่าส่วนตัวคงไม่เป็นผู้เสนอตัวกลับมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก แต่หากมีผู้เสนอชื่อก็จะนำไปพิจารณาก่อนตอบรับหรือไม่ และ ยังย้ำว่าตั้งแต่ที่ได้รับมอบหมายภารกิจ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ได้ทำงานในตำแหน่งนี้ด้วยความสุข และภาคภูมิใจ พยายามทำให้เพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง และได้รับการตอบรับจากสมาชิกพรรค รวมถึงช่วงหาเสียงก็ได้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แม้ผลการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ แต่สิ่งที่ได้รับคือบทเรียน และที่ผ่านมารักและยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยได้เห็นทุกคนทุ่มเทเสียสละเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง
"ดังนั้นข้อโจมตีวาทกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น เห็นว่าเป็นวิกฤตหนึ่งของการเมืองเท่านั้น แต่ทุกคนพยายามทำให้ดีที่สุด และตนเองพร้อมทำตามคำพูดที่เคยกล่าวไว้ โดยไม่รู้สึกเสียใจ หรือโกรธเคือง เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ได้รับ และพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เมื่อทุกอย่างมีข้อจำกัด และมีข้อผูกมัดไว้ก็ต้องทำตาม ยืนยันจะไม่หนีไปไหน ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย และจะทำหน้าที่ สส. และว่าที่รัฐมนตรีของพรรคต่อไป เพราะ2ตำแหน่งนี้ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขที่เคยประกาศไว้" นายแพทย์ชลน่านกล่าว
ด้านนายประเสริฐ กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น นายแพทย์ชลน่าน ได้กล่าวลากรรมการบริหารพรรคทุกคน โดยตามข้อบังคับของพรรคนั้นหากหัวหน้าพรรคแสดงเจตจำนงค์ลาออกจากตำแหน่ง คณะกรรมการบริหารคนอื่นทั้งหมดก็ต้องพ้นสภาพไปโดยปริยาย แต่คนอื่นยังคงรักษาการอยู่ มีเพียงแต่หัวหน้าพรรคคนเดียวที่ไม่ได้ทำหน้าที่รักษาการต่อ
ทั้งนี้ที่ประชุมกรรมการบริหารได้มีมติเลือกให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคทำหน้าที่ต่อ และตามข้อบังคับพรรคในการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ต้องเกิดขึ้นภายใน 60 วัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นวันไหนอย่างไร
ด้านรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ระบุว่าตั้งแต่ร่วมคณะกรรมการบริหารชุดนี้มา นายแพทย์ชลน่าน มีความเสียสละทำงานอย่างดีที่สุด ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อนเล่าว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก และเข้าใจว่ามีหลายเรื่องที่ประชาชนไม่สบายใจ แต่พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจทำเพื่อประชาชน
นายภูมิธรรม บอกต่อว่าเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ เราเคารพกติกา และคณิตศาสตร์ทางการเมืองมีความกระจาย ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความลำบากมากขึ้น พรรคเพื่อไทยพยายามรักษาความเป็นจริงให้ดีที่สุด แต่ก็มีข้อจำกัดด้วยความคิดเห็นที่ต่างกันมี 2 ปีกให้เราเลือกเดิน คือรวมเสียงเดิม 312 เสียง หรืออีกทางคือ 188 เสียง ซึ่งหากเป็นสภาวะรัฐบาลปกติก็คงทำได้อย่างมีเสถียรภาพ แต่พอมีเงื่อนไขก็ลำบาก แต่พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อนำสิ่งที่คิด ที่ฝัน มาตอบสนองให้ประชาชน
ขณะเดียวกันทุกพรรคการเมืองต่างเข้ามาสู่กระบวนการประชาธิปไตยได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนเหมือนกัน แต่เชื่อว่าหลังจากนี้เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ ความฝัน ความหวัง และความตั้งใจของพรรคเพื่อไทย ก่อนย้ำถึงความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้ประชาชนด้วยนโยบายที่ได้หาเสียงไว้
“เราเสียดายหัวหน้า แต่เรายังเป็นพี่น้องกัน ร่วมมือกันทำงานให้ประชาชนต่อไป ขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ทำงานสู่ชัยชนะ นำไปสู่การตั้งรัฐบาลได้” นายภูมิธรรม กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวนายแพทย์ชลน่านยังได้จับมือและกอดกับนายภูมิธรรมและนายประเสริฐด้วย
จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่ารู้สึกโล่งอกที่เราแบกความคาดหวังของประชาชนมาเยอะ หวังว่าประชาชนจะเข้าใจในสิ่งที่เราทำ ทั้งในบทบาทของนักการเมือง ผู้แทนประชาชน เรื่องใดที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ก็จะทำให้ดีที่สุด แม้บางอย่างจะมีข้อจำกัด
นายแพทย์ชลน่านยังมองว่าเรื่องที่ถูกโจมตีเป็นเรื่องธรรมดาในมิติทางการเมือง ที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม และทุกคนเข้าถึงได้ ก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่รับได้หรือไม่ได้ ให้โอกาสได้มากน้อยแค่ไหน ภายใต้การสื่อสารในปัจจุบันจะทำอะไรต้องระมัดระวัง การเสพข้อมูลวิธีคิดจะต้องระมัดระวังมากขึ้น
ส่วนจะฝากอะไรถึงหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายแพทย์ชลน่านระบุว่ายังไม่ได้กำหนดวัน ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคก็อยู่ในกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว ไม่ได้มีความหนักใจอะไร
ส่วนจะฝากอะไรถึงประชาชนที่หมดศรัทธากับตัวเองหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องศรัทธาความเชื่อ เป็นสิทธิส่วนบุคคลบนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริงที่เขาได้รับ ตนหวังเพียงว่าประชาชนที่มีความรู้สึกจะมีความเชื่อความศรัทธาอย่างไร ถ้าได้พิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ไม่ต้องบอกว่าศรัทธาหรือไม่ศรัทธา หากมองเข้าหากันและมองไปที่จุด ที่สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ส่วนกระแสโซเชียลที่ดูเหมือนจะยังไม่พอใจกับการประกาศลาออกในครั้งนี้ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่าตนไม่สามารถตอบสนองความพึงพอใจของคนทุกคนได้ มีเพียงระดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถตอบสนองได้ มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา หน้าที่ของเราคือทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด เป็นผู้แทนของประชาชน เป็นสมาชิกพรรคการเมือง แสดงพฤติกรรมให้เหมาะสมภายใต้สิทธิเสรีภาพ กฎหมาย ก็น่าจะเป็นแนวทางที่เป็นคำตอบสำหรับประชาชน
ส่วนที่ถูกมองว่าการลาออกเป็นเพียงพิธีกรรมและอาจจะถูกเสนอชื่อกลับเข้ามาใหม่นั้น นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะพรรคที่เป็นสถาบันการเมืองและบุคคลจะต้องแยกจากกัน ตนแสดงความรับผิดชอบในฐานะบุคคล ซึ่งไม่ได้เอาพรรคมาเกี่ยวข้อง เพราะตนใช้คำว่าหากพรรคเพื่อไทยมีมติจะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ตนก็ยินดีที่จะทำตามที่ตัวเองพูดไว้และได้ทำแล้ว.
