"บัวผัน ทังโส" โดนเม้าท์เป็น "มาเฟียลำซิ่ง" ? พร้อมเคลียร์ดราม่าแซงคิว!

19 ส.ค. 66

เปิดวีรกรรม บัวผัน ทังโส โดนเม้าท์เป็น "มาเฟียลำซิ่ง" เกิดวิกฤตวงหมอลำ จนสูญเงินกว่า 10 ล้าน พร้อมเคลียร์ดราม่า หลัง เน็ตไอดอลโพสต์ ถูกนักร้อง บ. ไล่ลงจากเวที!


ร้อนแรงแซงทุกกระแส กับประเด็นดราม่าของ “บัวผัน ทังโส” หมอลำสาวชื่อดังที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ตัวแม่ลำซิ่ง” เพราะนอกจากจะเป็นประเด็นกับเน็ตไอดอลชื่อดัง เรื่องการแซงคิวขึ้นเวทีที่นอร์เวย์ รวมไปถึงวีรกรรมจนถูกขนานนามว่าเป็น “มาเฟียลำซิ่ง” ซึ่งเจ้าตัวเปิดหมดใจไม่มีกั๊กในรายการ คุยแซ่บShow แม้ภายนอกจะดูสู้คน แต่จริงๆ แล้วคืออ่อนไหว แม้ลูกน้องในวงจะขโมยเงิน ขโมยทองก็ยังให้อภัยไม่ติดใจเอาความ

บัวผัน ทังโส

เคลียร์ดราม่า หลังถูกเน็ตไอดอลโพสต์ถูก นักร้อง บ ไล่ลงเวที?
“ประเด็นไม่ได้ไล่ใครเลย ไปแสดงคอนเสิร์ตที่นอร์เวย์ เราไม่รู้ว่าน้องเป็นนักร้องด้วยซ้ำ และตอนนั้นมัน 4 ทุ่มกว่าแล้ว ปกติเราเป็นคนรักเวลามาก ตอนนั้น 4 ทุ่ม 10 นาทีแล้ว บัวผันเป็นตัวหลักขึ้นตอนสี่ทุ่มตลอดทุกงาน และก็ถามว่านี่ 4 ทุ่มแล้วนะ และใครร้องอยู่เหรอ ก็เลยบอกว่ามันเลยเวลามาแล้วนะ ก็เลยบอกให้ร้องเขาร้องอีก 1 เพลงได้ไหม เพราะเราต้องขึ้นแล้ว และน้องเขาก็ลงมา แฟนคลับก็เยอะ เราก็เดินสวนกัน เราก็ขึ้นไปร้องเพลงต่อก็ถึงเที่ยงคืน

แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้รู้ว่าเขาเป็นนักร้อง เพราะคิดว่าเป็นคนติดตามของนักร้องอีกคน แต่เราไม่ได้ไปพูดเลยว่าทำไมเขาลงช้า ไม่ได้คิดอะไร เพราะจริงๆ ต้องให้เจ้าภาพไปบอกน้องเขาว่ามันถึงคิวเราแล้วนะ ว่าเราต้องขึ้น ซึ่งเราบอกเจ้าภาพว่าถึงคิวเราแล้วนะ 4 ทุ่ม 10 นาทีแล้ว เจ้าภาพไปบอกเขาเอง และเราไปถึงตรงนั้น 3 ทุ่มครึ่ง”

บัวผัน ทังโส

เรารู้ข่าวไหมว่าเขาหมายถึงเรา?
“เราก็รู้ข่าว ก็มีคนมาบอกเรา เราไม่ได้สนใจ มันเป็นมุมมองของเขา เขาไลฟ์สดเพื่อเชิญชวนแฟนคลับมาชม เราไม่ได้ถือสาอะไร ไม่ได้เอามาใส่ใจ ไม่ได้เป็นประเด็น แต่เราก็รู้ว่าเป็นเราและเป็นงานนั้น แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นข่าว เพราะเราอยู่เฉยๆ เป็นตัวแม่ก็คือตัวแม่ ไม่ได้ว่าอะไร”

คอมเมนต์บอกว่าเขาขึ้นอยู่ รอหน่อยไม่ได้เหรอ?
“เราห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้หรอก อันนี้เราคิดว่าอย่าเก็บมาใส่ใจ มันจะเป็นขยะกองในหัวเรา เราอย่าเก็บมาใส่ใจดีกว่า แต่ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้คุยเลย ไม่ได้ติดต่ออะไรเลย เพราะเราอยู่เฉยๆ เราไม่ได้เครียด เราไม่ได้ทำให้มันเป็นประเด็น คิดว่าเราเป็นตัวแม่แล้ว เราจะไม่มาอะไรตรงนี้หรอก แต่ไม่ได้อยากคุย เราเฉยๆ เราไม่อยากมากกว่า เอาเวลาไปทำมาหากิน อยากบอกแฟนคลับแฟนเพลงว่าวงการนี้มันแคบนะ อย่าไปสร้างข่าว อยากให้สร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ไม่อยากให้ไปสร้างประเด็นรบกัน ฝากสื่อทุกคนด้วยว่าศิลปินไม่ได้โหดร้าย เขาเข้าใจกัน แต่สื่อไปอีกแบบนึง คนเลยเข้าใจผิด คนรอเหยียบก็มี

และถ้าจะต้องร่วมงานกันก็ยินดี ยินดีร่วมงานกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอให้เป็นงาน และถ้าเจอน้องก็เข้าไปทัก เข้าคุย จริงๆ เราเป็นคนบ้าถ้าเห็นคนถูกใจเราก็เข้าไปคุยเลย แต่ขอบคุณแฟนคลับที่ให้กำลังใจ บัวผันก็ยังเป็นบัวผัน ไม่สร้างปัญหาให้ใคร ไม่เคยด่าใครก่อน ไม่เคยว่าใครก่อน ถึงจะโกรธจะเกลียดแค่ไหน เราก็อยู่ในมุมของเรา และไม่แตะไม่ไปว่าใครยังอยู่เป็นตัวแม่เหมือนเดิม ไม่ติดอะไรเลย”

บัวผัน ทังโส

เป็นคนตรงไปตรงมา เวลาทำงานยังไง?
“ตรงเวลา ฉะฉานกับการงาน เต็มที่กับงาน จ้าง 5 บาทก็ทำเต็มที่เกิน 10 บาท ใส่ให้มันเต็มที่ เจ้าภาพคือพระเจ้า ถ้าเราทำไม่เต็มที่ อนาคตเราก็พังลง เราขึ้นเวทีเราต้องทำเต็มที่ ส่วนกฎกับลูกน้อง เราก็เรียกไปอบรมทีละคน พูดแต่ละประเด็น คุยกันแบบเงียบ เราจะถามด้วยเหตุผล แต่ถ้าทำงานไม่ถูกต้อง เราจะดุเป็นทีม”

เรื่องลูกน้องขโมยทองไป 10 บาท?
“เราก็บอกว่าทองเราหายนะ ก็พาไปวัด 10 กว่าวัด ก็ให้เขาพูดต่อหน้าพระ พาไปทำบุญ อยากให้เขาคิดได้เอง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครพูด ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาคนนี้แหละเอาไป และอีกเรื่องนึงวันนั้นเงินที่ได้จากพวงมาลัยเป็นกระสอบ ประมาณ 5-6 หมื่น เราก็ไปแจ้งความไว้ ซึ่งตำรวจก็มาดูกล้องวงจรปิด แต่คนๆ นั้นเขาก็ไม่ยอมรับ เราก็ทำกับข้าวให้กินก่อนโดนจับ เพราะเราเห็นจากกล้องแล้วว่าเขานั่นแหละที่เอาไป พอโดนจับไปถึงโรงพัก เขาก็สารภาพว่าเอาไป เขาก็มาขอขมา แต่ก็ไม่เอาเขาติดคุก ให้อภัยเขาไป”

บัวผัน ทังโส

แต่ฉายา “มาเฟียลำซิ่ง” เพราะนุ่งผ้าถุงไปเตะปากมาแล้ว?
“คือเจ้าภาพจ้างเราไป และเขาปิดวิก ซึ่งเขาจะได้เท่าไร เราก็ไม่รู้ แต่เราก็ทำตามค่าจ้างที่เราตกลงเอาไว้ และเขาไม่จ่ายตังค์เรา เพราะเขาขาดทุน อิดอก! บัวผัน ก็ช่างมัน คุณขาดทุนก็แล้วแต่ มึงขาดทุนเกี่ยวอะไรกับกู ก็แก้ผมแล้ว และถกผ้าถุงขึ้นเลย ซึ่งเขาไม่ยอมจ่าย เราก็โกยผ้าถุงเดินไปเตะเลย เขาก็หงายเงิบเลย พอเตะเสร็จก็ได้ตังค์เลย เราพูดด้วยเหตุผลแล้วระหว่างที่เรานั่งแกะผม”

และวีรกรรมไปหน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน?
“วันนั้นปิดวิกเหมือนกัน เขาไปอาศัยพื้นที่วัด พอปิดวิกแสดงเสร็จ มันบอกว่าจ่ายค่าที่หมด จ่ายค่าตำรวจหมด อีห่า... และเราก็ถามว่าจ่ายไหม เขาบอกว่าขอเลื่อนได้ไหม เราก็บอกว่ามึงจะเลื่อนเพื่ออะไร เพราะก่อนขึ้นเวทีบอกให้จ่ายก่อนนะ ก็ไม่จ่าย เราก็อนุโลมแล้ว เธอบอกว่าจบงาน ก็จะจ่ายก็ไม่จ่าย เอารายละเอียดมาให้ดู ก็บอกว่ากูไม่ได้ลงทุนกับมึง เอามาให้กูดูทำไม ก็พาไปบ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อลงลายเซ็น ผู้ใหญ่บ้านให้เอาเครื่องเสียง รถมามัดจำให้ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเอาเงินมาจ้างเราก่อน แต่ไม่ได้มีลงมือเลย”

บัวผัน ทังโส

และวีรกรรมบนเวทีที่เอาขวดตีหัวคนดูล่ะ?
“คือเราใส่แหวน กำลังร้องเพลงและเอามือจับแฟนคลับหน้าเวที คนข้างล่างก็รูดดึงแหวนออกไปจากมือ จนเลือดออก ก็เลยเอาก้นไมค์ฟาดไปที่หัวเลย เพราะเขาดึงแหวน เราก็ดึงกันไปมา ก็เลยเอาเท้าใส่ไปที่หน้าคนนั้นเลย เพราะเราเป็นนักร้องที่ไม่เคยมีการ์ดดูแล ถามว่ากลัวคนอื่นเข้าใจผิดในพฤติกรรมเราไหม เราก็บอกว่าคนนี้เป็นคนทำ และถ้าจะตีกันก็ไปตีกันข้างนอก ข้างในเขาจะสนุกกัน แต่เราก็พยายามระมัดระวังตัวเองให้ดีที่สุด”

วิกฤตของวง ตอนปี 59 และโควิด?
“ตอนนั้นเราลงทุนไปกว่า 5 ล้านกว่า กับการตัดชุด ไม่ได้ใช้เลย 3 เดือน และมาเจอโควิดรอบแรก 3.8 ล้าน เราเป็นวงใหญ่ด้วย เป็นตัวแม่ไม่ยอมน้อยหน้า และมาเจอสุดท้ายหมดไปล้านกว่า และพอมาตอนนี้ก็แต่งน้อยชิ้นหน่อย เราเซฟงบ ประหยัด และชุดที่ตัดไว้เก็บในกระสอบหนูมันก็กัด ถามว่าท้อไหม ก็คือท้อได้ ร้องไห้ได้ แต่ก็หยุดมันให้ได้ เริ่มต้นใหม่ คิดใหม่ทำใหม่ เราสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองก่อน ก่อนที่คนอื่นจะมาช่วยเหลือเรา เพราะที่สูญไปเกือบ 10 กว่าล้าน

แต่เราไม่กินไม่เที่ยวมันก็ยังพอมีเงินเลี้ยงลูกน้องอยู่ แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย จะไปคิดทำไม พ่อแม่ยังอยู่ แต่ก่อนเป็นบัวผันเราไม่มีอะไรอยู่แล้ว และการนุ่งน้อยห่มน้อยเพราะเราเป็นตัวแม่ เราประยุกต์ขึ้นมาแบบห้าวๆ ให้สวยและเซ็กซี่ และเราไม่ได้อิจฉาใครเลย เพราะเราก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว เราดีใจกับคนอื่นด้วยซ้ำที่เขาทำได้ ในมุมของบัวมีขึ้นและมีลง แต่ไม่อิจฉาใครทั้งนั้น”

บัวผัน ทังโส

และป่วยเป็นกล้ามเนื้อหลังฉีก?
“ตอนนั้นลงจากเวทีพร้อมรองเท้าสูง 9 นิ้ว และพื้นเป็นดิน หงายไปเลย ส้นรองเท้าลงดินไปเลย เจ็บเลย กล้ามเนื้อหลังฉีก โดนกระดูก นอนจมดินอ้อยไปเลย อันนี้คือก่อนขึ้นเวที ลูกน้องมาพยุงขึ้นเวที เพื่อให้ทำการแสดง แต่ถอดรองเท้าแสดงไป เราก็บอกไปว่าวันนี้เต้นไม่ได้นะ เพราเจ็บอิปิ ใส่รองเท้าแตะเต้น เพราะบัวผันวันนึงแสดง 5 ชม. พอเสร็จจากคอนเสิร์ตก็เข้าโรงพยาบาล

แต่เรารับงานไว้แล้ว ก็ดึงสายน้ำเกลือออกไปแสดงต่อ และอาการต่อเนื่องมือชานิ้วชา ก็ได้นอนแผ่รักษาในโรงพยาบาล แต่ก็บอกคุณหมอว่าเราต้องทำงาน คุณหมอบอกว่าทำงานเสร็จก็ต้องกลับมาให้น้ำเกลือต่อนะ เราก็โอเค ซึ่งหลังจากที่เราเล่นโยคะ ตอนนี้ร่างกายกลับมาดีกว่าเดิมเกิน 100%”

บัวผัน ทังโส

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส