เปิดใจ! หนุ่มโพสต์แฉแฟนสาวซุกกิ๊กในโรงแรม สุดช้ำใกล้แต่งงานแต่หญิงนอกใจ (คลิป)

จากกรณีที่มีผู้ชายคนหนึ่งได้โพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก ที่เป็นภาพของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่อยู่ภายในห้องของโรงแรม และมีชายอีกคน หลบอยู่ภายในห้องน้ำ ขณะที่ใต้ภาพมีการโพสต์ข้อความบรรยายถึงความน้อยใจ เมื่อตนจับได้ว่าแฟนสาวที่คบกันมาเป็นเวลา 3ปี ได้แอบนัดเจอหนุ่มคนหนึ่งที่โรงแรมในพื้นที่ อำเภอท่าม่วง พร้อมตัดพ้อแฟนสาวว่าเห็นชายหนุ่มคนใหม่ ที่เพิ่งคบกันได้ไม่นาน มีความสำคัญมากกว่าตนที่คบกันมาถึงสามปี หลังโพสต์ดังกล่าวถูกลงเฟซบุ๊กก็มีการแชร์เรื่องราวดังกล่าวต่อไปเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด (20 ก.ค.) นายเอ (นามสมมติ) ชายหนุ่มผู้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนกับเเฟนสาวคบกันมาเป็นเวลา 3ปีกว่าแล้ว ที่ผ่านมา พ่อแม่ของตน และฝ่ายหญิงมีการพบปะพูดคุยกันมาตลอด อีกทั้งเคยมีการพูดคุยเรื่องของการแต่งงานในปีหน้าไว้ ก่อนที่ในช่วงหลังแฟนสาวของตนจะมีพฤติกรรมแปลกๆ เมื่อตนโทรศัพท์ไปก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ อีกทั้งในเฟซบุ๊กก็มีการปรากฏสถานที่แปลกๆขึ้นมาเป็นระยะ ทั้งที่ในช่วงเวลาดังกล่าวแฟนของตนบอกว่าทำงานอยู่ที่บริษัท และไม่ได้ออกไปไหน ตนจึงตัดสินใจตามสัญญาณ จากโทรศัพท์ของแฟนสาวไป จนพบรถของแฟนสาวจอดอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตนตัดสินใจขอกุญแจจากพนักงาน แต่พนักงานไม่ยอมให้ ตนจึงไปเคาะประตูห้องแฟนสาว แต่ก็ไม่ยอมเปิดก่อนที่ตนจะขู่ว่า ถ้าไม่เปิดจะพังประตูเข้าไป แฟนสาวจึงออกมาเปิดประตูให้ เมื่อเข้าไปในห้องก็พบชายคนหนึ่งอยู่ในห้อง ตามเรื่องราวที่ตนได้โพสต์ลงไป

นายเอ บอกอีกว่า ที่โพสต์เฟซบุ๊กไป ไม่ได้มีเจตนาที่จะประจานแฟนสาวของตนแต่อย่างใด แต่ที่โพสต์ไป เพราะความน้อยใจเท่านั้น และไม่ได้มีการแชร์เรื่องดังกล่าวไปถึงใครทั้งสิ้น อีกทั้งในโพสต์ก็มีการเบลอหน้าและทะเบียนรถของแฟนสาวไว้ทั้งหมด ก่อนที่เรื่องราวจะกลายเป็นข่าวดัง ตนก็ตกใจแต่เมื่อได้ไปดูสถานะของเฟซบุ๊กและเห็นว่าตั้งค่าเป็นสาธารณะไว้ตนก็เข้าใจ

หลังเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวดังขึ้นมา ตนก็ยอมรับว่าเครียด เพราะไม่ได้ตั้งใจให้เป็นข่าวแบบนี้ และไม่อยากให้อดีตแฟนสาวต้องเสียหาย แต่เมื่อเป็นข่าวขึ้นมา ก็ทำอะไรไม่ได้ ภายหลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ ชายหนุ่มที่ตนพบอยู่ในห้องของโรงแรมกับแฟนสาวก็ได้ติดต่อมา พร้อมต่อว่า ที่นำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ อีกทั้งยังข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ ก็ได้นัดให้ตนเข้าไปเจรจากับอดีตแฟนสาวที่ไปแจ้งความเอาผิดตน ในวันนี้ ซึ่งตนก็เดินทางไปตามที่นัด เนื่องจากอยากที่จะพูดคุย และตกลงกับอดีตแฟนสาวให้รู้เรื่อง เพราะไม่อยากให้มีเรื่องติดค้างกันอีก หากตกลงกันได้ ก็พร้อมให้เรื่องดังกล่าวจบลง ทั้งนี้คงจะต้องขึ้นอยู่กับแฟนสาวของตนว่าจะยินยอมหรือไม่ หากไม่ยินยอมและยืนยันที่จะฟ้องร้องตนก็คงจะทำอะไรไม่ได้