รักแท้ 65 ปี คุณยายจากไปด้วยโรคมะเร็ง คุณตา บอก "ไปพร้อมแม่ดีกว่า" ก่อนสิ้นใจตาม

13 ส.ค. 66

สุดเศร้า! คุณยายวัย 81 ปี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งคุณตาทำใจไม่ได้ขอตายตามไปอย่างสงบด้วยการกำหนดจิตตนเอง หลังครองรักกันนาน 65 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ คุณแม่บุญมี หรือ “ยายบุญมี” อายุ 81 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 4 ส.ค.66 ที่ผ่านมา โดยลูกหลานนำศพคุณยายบุญมี ตั้งศพบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจศพที่วัดควนสีนวล ม.7 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ในวันที่ 13 ส.ค. 66

ในเวลาต่อมา คุณพ่อมาต (คุณตามาต) อายุ 87 ปี สามีคุณยายบุญมี ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของคุณยายบุญมี ภรรยาสุดที่รัก คุณตามาตก็บอกลากับลูกหลานว่า "ไปพร้อมแม่ดีกว่า ลูกหลานร้องไห้ได้แต่อย่าทะเลาะกัน" ถือเป็นการสั่งเสีย หลังจากนั้น 3 วัน คุณตามาตก็ได้นอนหลับนิ่งเสียชีวิตลงไปอย่างสงบ ในวันที่ 9 ส.ค.66 ทางลูกหลานจึงนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลคู่กัน คุณตามาตบรรจุในโลงศพสีน้ำตาลลายขาว เมื่อต้องแสงจะออกอมชมพู อมส้ม ส่วนคุณยายบุญมีบรรจุในโลงศพสีทอง สีสวยสดใสตั้งคู่กัน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ ของลูกหลาน และเพื่อนบ้าน โดยหน้าศพมีการนำรูปที่คุณยายบุญมีนั่งตัดผมให้คุณตามาตตอนยังมีชีวิตอยู่มาติดตั้งด้วย ซึ่งเป็นภาพที่น่ารักอย่างมาก

สำหรับคุณตามาต และคุณยายบุญมี สองสามีภรรยาครองรักกันมานานถึง 65 ปี มีลูกด้วยกันรวม 6 คน ลูกคนโตเสียชีวิตไป 1 คน ตอนนี้เหลือ 5 คน ทั้งคุณตาและคุณยายเป็นคนใจดี คุณยายจะดูแลลูกๆ หลานๆ ทั้งสองจะดูแลกันไม่ห่าง เป็นที่รักของลูกหลาน ญาติๆและเพื่อนบ้าน โดยชาวบ้านเชื่อว่าคุณตามาต และคุณยายบุญมี เป็นคู่รักแท้คู่บุญบารมีแก่กัน เมื่อคุณยายบุญมี ภรรยาเสียชีวิต คุณตามาต สามี จึงกำหนดจิตตัวเองเพื่อหยุดลมหายใจ หลังจากสั่งเสียลูกหลานเสร็จสิ้น เพราะต้องการไปอยู่ด้วยกันกับ คุณยายบุญมี ภรรยาสุดที่รัก

นางหนูรัตน์ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่2 และ นางพิมพ์ชนก อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า คุณแม่เสียชีวิตด้วยอาการเป็นโรคมะเร็งในปอด เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลก่อน หลังจากนั้นคุณพ่อก็ไม่พูดอะไรมาก แค่พูดว่าขอไปพร้อมแม่ดีกว่า เอ็นดูแม่อีก พร้อมสั่งเสียลูกๆ ว่า ให้ร้องไห้ได้ แต่อย่าทะเลาะกัน

ทั้งพ่อและแม่เป็นคนใจดีกันทั้งสองคนจะดูแลซึ่งกันและกัน รวมไปถึงดูแลลูกหลานอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะหลาน ๆ แม่จะดูแลดีมาตลอด มีจะอะไรก็จะหยิบยื่นให้ ทำกับข้าวก็จะทำเผื่อให้กับลูกหลานเป็นประจำ แม่จะอยู่เป็นแม่ศรีเรือน ส่วนพ่อไม่มีโรคประจำตัวอะไร แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่แม่นอนป่วยอยู่ พ่อก็มีอาการหมดใจก็ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำเหมือนกับแม่ พ่อมีอาการตรอมใจ แต่ไม่มีโรคประจำตัวอะไร เพราะตอนมีชีวิตอยู่ ทั้ง 2 คนรักกันมาก ไม่เคยจากกันไปไหนเลย รักกันมากว่า 65 ปีแล้วอยู่ด้วยกันมาแบบเรียบง่าย ไม่เคยเถียง หรือทะเลาะกันเลย

แม่เป็นคนเอาใจเก่ง ไม่ค่อยนึกถึงตัวเอง จะคิดถึงพ่อ คิดถึงลูกหลานก่อนเสมอ หลังจากนั้นอีก 3 คืน พ่อก็ได้จากไปด้วยอาการสงบ ค่อยๆ ไปทีละนิด จนสิ้นใจจากไปอย่างสงบ และพรุ่งนี้ (13 ส.ค.) ก็จะทำการฌาปนกิจทั้ง 2 คน พ่อและแม่พร้อมกัน ความรู้สึกครอบครัวตอนนี้ก็เสียใจและหลังจากนี้ที่บ้านคงจะเงียบเหงา เพราะทั้งพ่อและแม่เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของบ้าน เพราะหลังเลิกงานลูกหลานก็จะมานั่งหยอกล้อพูดคุยกับพ่อแม่เป็นประจำ เคยพูดล้อเล่นกันว่า ถ้าแม่ตายไป ก็จะรอพ่อ จากที่พูดหยอกล้อกันจนกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส