"รังสิมนต์ โรม" มึนข่าวดีลตั้งรัฐบาลข้ามสายพันธุ์ ลั่นยังผลัก ก.ก. เป็นฝ่ายค้านไม่ได้

29 ก.ค. 66

"รังสิมนต์ โรม" มึนข่าวกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลข้ามสายพันธุ์ ลั่นยังผลัก "ก้าวไกล" ออกไปเป็นฝ่ายค้ายไม่ได้

วันที่ 29 ก.ค.2566 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่มีความไม่เเน่นอนเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลับประเทศไทย ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ จะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่? ว่า “ถ้านายทักษิณกลับมา คงยากปฏิเสธว่ามีผลกระทบทางการเมือง  แต่กระทบทางไหนตอบยากเพราะยังไม่ถึงวันนั้น ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยมีคณะกรรมการพูดคุยเจรจา ที่ผ่านมายังไม่มีการพูดคุย จะมีการเลือกนายกฯ กันวันที่ 4 ส.ค.อยู่แล้ว เลยไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วเอาอย่างไร

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายในสังคม พยายามพูดว่ามีกระบวนการบางอย่างเกิดขึ้น เช่น มีการพูดกันว่า จะจัดตั้งรัฐบาลข้ามสายพันธุ์ เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีการพูดกันในสังคม ซึ่งโดยกระบวนการที่มันควรจะเป็นต้องมีการออกมาพูด หรือปฏิเสธ ว่าเป็นเรื่องจริงไม่จริง อย่างไร? เราไม่รู้ว่าตกลงแล้วไปเจรจาตั้งรัฐบาลในการขอเสียงโหวตตามมาตรา 272  เป็นอย่างไร เราก็ยังไม่รู้ความคืบหน้า มากไปกว่านั้นสรุปแล้วที่สังคมกังวล พูดถึงกันเป็นอย่างไร เราก็ไม่รู้อีก เลยยังตอบลำบากว่ายังไง ก็คงจะต้องถามพรรคพท. เรื่องวันนัดเจรจาพูดคุย

แสดงว่าพรรคพท. ยังไม่มีการติดต่อเพื่อนัดประชุมร่วม 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล?

นายรังสิมันต์ ตอบว่า มันต้องมีการประชุมกัน แต่เท่าที่ตนทราบ ยังไม่เห็นรายละเอียดว่าการประชุมจะเป็นวันไหน รู้จากข่าวเหมือนกับประชาชน

 

หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านแน่? 

เรายืนอยู่บนข้อเท็จจริงดีกว่า เรื่องการคะเน มันไม่เคยถูก 100 เปอร์เซ็นต์ เรายืนอยู่บนข้อเท็จจริงดีกว่า ว่าตอนนี้เราอยู่ในเสียง 312 เสียงของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งในสภาฯ ถือเป็นเสียงข้างมาก ถ้ามี 312 เสียงแล้วเป็นฝ่ายค้าน ตนว่าคงอธิบายยากในการเมืองไทยให้ประชาชนเข้าใจ เบื้องต้นเรายืนอยู่บนหลักการนี้ว่า เรามีโอกาสเป็นรัฐบาล แต่เราให้พรรค พท.เป็นแกนนำในการจัดตั้ง สุดท้ายผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องมาคุยกัน ตอนนี้เรายืนอยู่ตรงนี้

เวลานี้ตัดพรรคก้าวไกลออกไปเป็นฝ่ายค้าน ได้หรือยัง?

ตอนนี้ตนว่ายังตัดไม่ได้หรอก เพราะข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ

 

เมื่อถามว่าหากสุดท้ายแล้วเมื่อดิวจบมีการตั้งรัฐบาลข้ามสายพันธุ์จริงๆ แล้วสุดท้ายก้าวไกล ถูกผลักไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน?

นายรังสิมันต์ตอบว่า ไม่ใช่แค่เรื่องความรู้สึก เป็นเรื่องของประชาชนมากกว่า มันเป็นสิ่งที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น มันคือการไม่สะท้อนความต้องการของประชาชน ที่เขาเลือกตั้งคือ ประชาชนเลือกขนาดนี้ แล้วการตั้งรัฐบาลได้มันยังไม่เกิดขึ้น ตนคิดว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดกระบวนการที่ทำให้ไม่เคารพเสียงประชาชนต้องรับผิดชอบ ดังนั้นอย่าทำแบบนั้นเลย ต้องเล่นกันตามกติกาอย่างตรงไปตรงมา ประเทศจะเดินได้ แต่ถ้าเกิดหวงแหนอำนาจ อยากจะมีอำนาจโดยไม่สนว่า จริงๆ แล้วประชาชนไม่ได้เลือกคุณมาขนาดนั้น คิดว่าประชาชนในประเทศไทยจะสั่งสอน คนเหล่านี้ในอนาคตอย่างแน่นอน

นายรังสิมันต์ กล่าวถึงกรณีตนเองถูกโยงแฮชเเท็ก #ตั๋วปารีส ว่า ตนเห็นแล้วได้แต่ขำก๊ากกับบรรดาไอโอ ทีนี้มากันใหญ่ ทีตั๋วช้างทำเป็นเงียบ คิดให้ดีแล้วกันถ้าจะปั่นแฮชเเท็กนี้ จะยิ่งทำให้คนนึกถึงตั๋วช้้าง ตนยืนยันว่าไม่จริง และไม่สมเหตุสมผลเลยที่มาปั่นว่าตนรับงานต่างชาติเพื่อมายกเลิกมาตรา 112

แถมนำเรื่องที่ตนยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ล่าสุด มาบอกว่า ทรัพย์สินตนเพิ่มขึ้นมากจากปี 2562 ตนขอตอบเลยว่า เมื่อปี 2562 ตนยังโสด ทรัพย์สินก็ยื่นคนเดียว แต่ในปีล่าสุด ตนยื่นพร้อมของภรรยา ถ้าดูทรัพย์สินของตนจริงๆ ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก แถมเป็นหนี้ด้วยซ้ำไป ตนมีเงินเดือนอายุตอนนี้ 31 ปี แปลกตรงไหนที่จะกู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อรถ ดังนั้น ยืนยันว่าทรัพย์สินที่ตนยื่นไปเกือบครึ่งนั้นเป็นของภรรยา ส่วนของตนก็ประกอบไปด้วยหนี้สินด้วย

ดังนั้น การเอาตัวเลขบางส่วนหยิบยกขึ้นมาโดยไม่เลือกที่จะอธิบายข้อเท็จจริง แล้วโจมตีกันมันก็แสดงให้เห็นว่าเจตนาในการวิจารณ์คือต้องการให้คนเข้าใจผิด วันนี้มีกระบวนการดิสเครดิตที่รุนแรง หวังผลทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคก้าวไกล มันเกิดขึ้นระหว่างช่วงที่มีการตั้งรัฐบาลซึ่งกำลังอีนุงตุงนังมากๆ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม