"เจนนี่ รัชนก" น้ำตาคลอ ได้ยินครอบครัวสามี "ยิว ฉัตรมงคล" พูดถึงลูกสะใภ้

28 ก.ค. 66

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น น้ำตาคลอ ได้ยินครอบครัวสามี ยิว ฉัตรมงคล พูดถึงลูกสะใภ้คนนี้ถูกใจมาก เผยอายุครรภ์ตอนนี้ 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีอาการแพ้ท้องเลย

 

คู่รักน้อยร้อยดราม่า อย่าง เจนนี่ รัชนก หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น กับคุณสามีสุดหล่อ ยิว ฉัตรมงคล พร้อมเคลียร์ใจมีปัญหาแม่ผัว ลูกสะใภ้ จริงไหม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow 

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

ข่าวดีมีลูกคนที่2 คนอื่นถือฤกษ์เวลาจะบอก ส่วนนี่ติดปุ๊บ ประกาศปั๊บ?
เจนนี่ : ใช่ แฟนคลับถามทุกเดือน เราก็อยากบอกเขา เราท้องแล้วนะ

เห็นว่าวันที่รู้ว่าท้อง ไปบอกยิวมือสั่นเลย?
เจนนี่ : เรารู้สึกแปลกๆ เลยแอบตรวจ เผื่อไม่ใช่ เขาจะได้ไม่ผิดหวังเยอะ แล้วคำแรกยิวพูดว่าท้องเหรอ เราแบบ อ้าว รู้ได้ไง
ยิว : ผมเหมือนผมฝันว่ามีใครสักคนมาบอกได้ลูกชายอะไรอย่างนี้

ยูจิน

เบบี๋ในท้องระยะเวลาเท่าไหร่แล้ว?
เจนนี่ : หนูว่าน่าจะประมาณ 2 เดือน ยังไม่มีอาการแพ้ท้องเลย ส่วนท้องแรกแพ้เดือนที่4 แพ้เดือนเดียว แอบข้ามหลังผัว ผัวก็แพ้ต่อ ตอนแรกหนูก็ไม่เชื่อ ตอนนั้นหนูแพ้ท้องหนัก เขาหลับอยู่หนูเลยลองทำดู
ยิว : ปกติผมนั่งรถไม่อ้วก แต่ตอนนั้นจะอ้วกๆ
เจนนี่ : เนอะ อยากกินแต่ส้ม ส้มตำ
ยิว : น้ำลายเหนียวเต็มปาก
เจนนี่ : แต่หนูเพิ่งมาบอกเขาตอนคลอดลูกแล้วว่าแอบข้าม
ยิว : ผมรู้สึกว่ามันดีนะถ้ามันส่งกันได้ เราจะได้แบ่งเบาเขา

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

เวลาเรามีภารกิจ มีลูกต้องดูแล ส่งสัญญาณกันไหม?
เจนนี่ : ก็บอกว่าไปอาบน้ำ อาบนานๆ หอมๆ นะ เราก็รู้ตัวเริ่มเลือกชุด เราจะรู้ว่าถ้าวันนี้เรามีภาระกิจเราต้องเซ็กซี่นิดนึง

มีชุดอะไรบ้าง?
เจนนี่ : เรื่องชุดเมื่อก่อนหนูไม่เคยใส่เลย แต่เขาเป็นคนเริ่มซื้อให้เราก่อน ตอนคบกันใหม่ๆ แล้วเรารู้สึกว่าพอใส่แล้วมันเป็นความสุขดีนะของชีวิตคู่ มันก็มีความแปลกใหม่ ก็มีการสั่งเรื่อยๆ จนมันก็เริ่มโป๊เรื่อยๆ
ยิว : ชุดลูกไม้เซ็กซี่ๆ ไม่ใช่คลอสเพลอะไรแบบนั้น

พัฒนาการยูจินแบบก้าวกระโดดเลย?
เจนนี่ : ใช่ค่ะ เหมือนเด็กรุ่นเดียวกันมาเล่นกัน ยูจินจะเป็นฝ่ายที่พูดเยอะกว่าเยอะมาก อย่างคำแรกที่เขาพูดออกมาเลย คือ ปะป๊า ตอนนั้นคุยกับปะป๊าไว้ว่าถ้าลูกเรียกใครก่อน คนนั้นต้องจ่ายแสนนึง เห็นเขาเรียกปะป๊า หนูเลยลองให้เขาเรียก มาม๊า แต่กลายเป็น หมาหมา เลยไม่ให้เขาเรียกดีกว่า

เจนนี่ รัชนก

ชาวเน็ตชอบมากตอนแกล้งเจนนี่?
เจนนี่ : ใช่ แล้วตอนนี้ไปไหน มาไหน ยูจินละ เหมือนมองข้ามเราไปเลย ยูจินมาไหมๆ

ลูกน่ารักขนาดนี้เคยเถียงกันไหน ตรงนี้เหมือนฉัน ตรงนั้นเหมือนเธอ?
เจนนี่ : คือหลักฐานชัดอยู่แล้วว่ามาทางแม่ แต่ปะป๊าไม่รับฟังเลย
ยิว : วันนี้อาจจะดูไม่ค่อยออก เดี๋ยวรอให้โตสักนิด
เจนนี่ : คิวเหมือนพ่อเต็มๆ เพราะเราเป็นคนคิ้วโล้น แต่แก้มน่าจะหนู

ตอนนั้นที่ลูกชายคบกับเจนนี่ ดังเรื่องดราม่า ตอนนั้นที่บ้านเป็นยังไงบ้าง?
คุณแม่ยิว : ก็รู้สึกเหมือนกลัว วิตก ตอนนั้นเขากำลังเริ่มทำงานเป็นตำรวจ พอมีกระแส แม่ก็ถามน้องยิวว่าแล้วลูกจะยังไงครับ เขาก็ตอบว่า แม่ไม่ต้องสนใจ แม่ไม่ต้องเครียดนะ แม่ก็บอกว่าถ้าลูกรักใครแล้วอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข แล้วลูกปรับตัวเข้ากันได้แม่ก็โอเค

ตื่นเต้นไหมแม่ที่เราได้ลูกสะใภ้เป็นเจนนี่?
คุณแม่ยิว : ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เคยติดตามเขา พอเจอดราม่า แม่ก็วิตก

เจนนี่ รัชนก

พอวิตก ตอนเจอกันช่วงแรก มันมีอารมณ์แบบแม่ผัว ลูกสะใภ้ไหม?
คุณแม่ยิว : ไม่มีค่ะ แม่เป็นคนที่ถ้าลูกบอกว่าสนใจผู้หญิงคนนี้ เขารัก แม่ก็ยินดี
ยิว : ครอบครัวผมพูดตลอดว่าไม่เกี่ยวว่าผมคบกับใคร แค่ผู้หญิงคนนั้นรักผม จริงใจกับผมก็พอ

เจนนี่ : หนูไปวันแรกหนูตื่นเต้นมาก เราก็คิดไว้เต็มว่าเขาจะคิดว่าเราเป็นไปตามข่าวไหม เราแรงไหม ก็พยายามหาเลือกชุดที่เรียบร้อยสุด เราก็ตื่นเต้น ก็กลัว แต่ไปถึงได้รับการต้อนรับที่ดีมากๆ แม่ทำกับข้าวให้เยอะมาก เพราะเขาเปิดร้านอาหาร ไปเจอพี่สาวเราก็ยิ่งกลัว เพราะพี่นกเวลาเขาอยู่หน้านิ่งๆ น่ากลัวนะ วันนั้นเจอทุกคนหมดเลย เหมือนทุกคนมาดูว่าเป็นยังไง แต่ว่าคำแรกที่ได้ยินจากพี่สาว พี่ชายยิว เขาจะพูดเสมอว่าเขาไม่ได้ดีใจที่น้องจะคบคนดังหรือไม่ดังนะ เขาขอแค่เป็นคนดี เราเลยรู้สึกว่าถ้าคนดีเราก๋มาถูกทางนะ

ตอนที่ยิวบอกว่าจะพาเจนนี่มาเจอ ตอนนั้นรู้สึกยังไง?
พี่นก : แอบกังวลนิดๆ ถ้ามันไม่ดีแล้วจะยังไง ด้วยความที่เขาก็ดัง เราก็คือชาวบ้านธรรมดา แต่ตอนนั้นไม่ได้มองเขาว่าเขาเป็นดารานะ มองเขาว่าเขาเป็นเพื่อนของน้องชาย แค่เป็นห่วง แต่พอได้เจอจริงๆ เขาน่ารัก ตลก เป็นกันเอง ไม่ได้มีความแบ่งแยกว่าฉันดัง เขาก็ทำต้วเหมือนน้องสะใภ้คนนึง

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

ระหว่างทางกระแสดราม่ามีต่อเนื่อง มีหลายเรื่องราวเข้ามาอีก ตอนนั้นมีปรึกษาในครอบครัวไหมว่าเราจะไปยังไงต่อ?
พี่นก : ตั้งแต่ยิวเด็กๆ ก็จะสอน เหมือนเราเลี้ยงเขามาเยอะ จะสอนต้้งแต่เด็ก แล้วปล่อยให้เขาคิด ด้วยความที่เรารู้ว่าน้องเราพื้นฐานความคิดเป็นยังไง พื้นฐานจิตใจเป็นยังไง ส่วนใหญ่ปล่อยให้เขาตัดสินใจ เราก็รอซัพพอร์ต ไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องคบกัน ก็จะปล่อยให้น้องตัดสินใจ เพราะสุดท้ายคนที่ใช้ชีวิตก็คือเขา

ลูกสะใภ้คนนี้ถูกใจแม่ไหม?
คุณแม่ยิว : ถูกใจค่ะ เขาเป็นคนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน พูดอะไรเปิดเผย ตรงไป ตรงมา
พี่นก : ทุกอย่างแตกต่างจากข่าวแทบทั้งหมด คือจากข่าวเขาดูหยิ่ง เกรี้ยวกราด จริงๆ ลึกๆ เขาเป็นคนอ่อนแอนะคะ เวลามีข่าวอะไรแรงๆ นั่งร้องไห้ แต่พอมาเจอคนอื่นก็เฮฮาปกติ แต่พอเหลือแค่ยิว พี่ ร้องล่ะ จริงๆ เขาเป็นคนสนุก ตลก ลึกๆ เขาเป็นคนอ่อนแอ

รู้สึกยังไงบ้างที่คุณแม่ พี่นก พูดถึงเราแบบนี้?
เจนนี่ : มันก็อบอุ่น น้ำตาคลอเลย เพราะว่าเราเหมือนมีครอบครัวใหญ่ หนูสามารถคุยกับพี่นกได้ทุกเรื่อง บางทีหนูเจอข่าว เจอเรื่องไม่ดี หนูก็ทักไปคุย ขณะคนทั้งโซเชียลพยายามทั้งมา เรื่องเป็นยังไงมึง จริงเหรอ แต่ครอบครัวยิวไม่เคยอะไรเลย มันจะมีไลน์กลุ่มของครอบครัวที่หนูอยู่ในนั้นด้วย ก็จะมีข้อความว่า สู้ๆ นะลูกเจน, เจนเป็นไงบ้าง ไม่มีแบบข่าวจริงไหม เขาไม่เคยถามหนูเลย จนถึงวันนี้เขายังไม่เคยถามเลยว่าข่าวที่ออกมาเป็นยังไง คือเขาสัมผัสเอาจากปัจจุบันจนถึงตอนนี้ เขาจะให้คำที่แบบฮีลใจความเป็นจริงที่ฟังแล้วอบอุ่นใจ เราก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้โดกเดี่ยว เรามีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

อยากบอกอะไรกับคุณแม่และพี่นกไหม?
เจนนี่ : ต้องขอบคุณที่ต้อนรับหนูเป็นอย่างดี แล้วไม่เคยเอาความดังหนูมาใช้ประโยชน์เลย แล้วก็ขอบคุณที่สอนหลายๆ อย่าง ขอบคุณที่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา แล้วก็คงจะมีบ้างแหละที่เราผิดพลาดไปก็ขอโทษนะคะ คือเขาไม่เคยบอกว่าหนูผิดพลาดตรงไหนนะ แต่หนูว่าคนเราถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน บางทีไปอยู่บ้านเขา มันก็ต้องมีการแสดงบางอย่างที่อาจจะดูไม่น่ารัก แต่สุดท้ายก็ขอบคุณที่ทุกคนให้การต้อนรับ แล้วก็รักหนู แล้วหนูก็รักครอบครัวยิวมากเหมือนกัน

คุณแม่ยิว : ตอนที่เขาตัดสินใจแต่งงานกันตอนอายุ 20 กว่า แม่เป็นห่วง แต่ตอนนี้แม่ภูมิใจมากๆ เขาเติบโต เลี้ยงดูครอบครัว ให้ความอบอุ่นกับลูก กับเมีย
เจนนี่ : แม่จะพูดตลอด ลูกเจนฝากด้วยนะ แม่กลัวว่าต่างฝ่ายต่างอายุน้อย กลัวว่ามันจะไปไม่รอด จะกังวล แต่พอคุยกันจริงๆ พี่นกนั่นแหละที่เป็นคนบอกว่า แม่ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตไปเถอะ จะรอดหรือไม่รอดไม่มีใครการันตีกันได้หรอก มันต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ให้เราแก้ปัญหากันเอง

เจนนี่ รัชนก

ส่วนใหญ่เวลามีน้ำตา เคยมีน้ำตากับการใช้ชีวิตคู่ไหม?
เจนนี่ : กับยิวนานๆ ที แต่ที่ร้องไห้บ่อยๆ หนูจะร้องไห้จากเรื่องงาน เรื่องของการบริหารจัดการชีวิตครอบครัว เราจะแพนิกนิดนึงแล้วเป็นคนที่เราวางแผนอนาคตไว้ จนเราลืมมีความสุขกับปัจจุบันไปบ้าง เราเลยคิดมาก พอเรามีลูกมันยิ่งอ่อนแอ คิดตลอดว่าถ้าเราเป็นอะไร ยูจินจะอยู่ยังไง จะลำบากเหมือนเราไหม

ยิว : ช่วงที่ผมกับเจนทำงานหนักมาก พอมันถึงจุดนึงพอกลับมาหาลูกแล้วคิดว่าถ้าเราออกไปทำงานแล้วไม่ได้กลับมาหาลูก ทุกอย่างที่เราสร้างมา ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ชื่อเสียง มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนะ มันกลายเป็นว่าถ้าวินาทีนั้นเราไม่ได้อยู่กับลูกแล้ว ผมยอมแลกทุกอย่าง แต่มันคงแลกไม่ได้ ผมก็เลยคิดว่าเราใช้ทุกวันให้มันคุ้มค่าที่สุด ถ้าสังเกตผมจะชอบกอดลูก นั่งเล่นกับลูกทั้งวันถ้าผมไม่ทำอะไร เพราะว่าเราอยากสัมผัสตรงนี้ให้ได้มากที่สุด

เจนนี่ รัชนก

ยิววันนี้อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง?
ยิว : ผมคิดตั้งแต่เด็กเลยว่าผมจะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ก่อนที่พ่อกับแม่จะตาย ตอนนี้ผมประสบความสำเร็จให้พ่อ แม่ ครอบครัวเห็นแล้ว ถ้าเหมือนพรุ่งนี้ พ่อกับแม่ หรือครอบครัวไม่ได้อยู่ก้บผม ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะเสียใจ เพราะผมทำทุกวันให้ดีที่สุด ผมพยายามดูแลครอบครัว ทั้งครอบครัวที่สร้างผมมา และครอบครัวที่ผมสร้างมาให้ดีที่สุด

ส่วนกับพี่นก เราเป็นครอบครัวที่ไม่ได้คุยกัน แต่สิ่งที่เราทำในทุกๆ วัน เราแสดงออกให้เห็นชัดเลยว่าเรารักกันและห่วงใยกันแค่ไหน เหมือนพี่นกบอกรักผมด้วยการทำงาน ดูแลผมทุกอย่าง ครอบครัวผมเริ่มจากศูนย์จนถีงวันที่ผมเกิดมาครอบครัวผมมีครบทุกอย่าง ผมรู้สึกว่า พอผมมาเป็นหัวหน้าครอบครัวจริงๆ มันยากนะที่จะสร้าง แต่พ่อ แม่ผม พี่นก พี่ชายผมลำบากมาก แต่ผมสบาย นี่คือผมสัมผัสได้ว่าเขารักผมมากแค่ไหน แล้วผมตอบแทนด้วยว่า ผมไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยในชีวิต ผมกล้าพูด ลูกผู้ชายถ้าทำให้พ่อ แม่ภูมิใจไม่ได้อย่างน้อยก็ไม่เสียใจ

เจนนี่อยากพูดอะไรกับสามี?
เจนนี่ : ภูมิใจทุกวัน ยิวเป็นผู้ชายที่ให้แต่สิ่งดีๆ บางอย่างเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กต้องทำอะไรแบบไหน แต่ยิวจะไปหาข้อมูล แล้วก็ขอบคุณที่พยายามแลกเปลี่ยนมุมมองจนทำให้หนูกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ทั้งๆ ที่ผ่านมา หนูมั่นใจในตัวเองตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ฉันเป็นผู้หญิงที่ดีมากๆ แล้วคนนึง แต่พอมาเจอเขา มันมีอะไรที่ดีขึ้น เราได้เห็นมุมมองความอบอุ่นจากครอบคร้วยิว ต้องพูดตรงๆ ว่าหนูเป็นเด็กกำพร้า พ่อ แม่มีปัญหากันเราก็เหมือนกบในกะลา จะมีกรอบ ชีวิตจริงมันไม่ได้เรียบง่าย มันไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น ครอบครัววันนึงก็ต้องแตกแยกกันไป แต่พอมาเจอนี่รู้สึกว่าความสุขบนโลกมันยังมีอีกเยอะที่เราพร้อมจะรับมันหรือเปล่า ก็ได้แลกเปลี่ยนกันและกัน

เจนนี่ รัชนก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส