เปิดปม ส.ส.ก้าวไกล ทำร้ายแฟนสาว พร้อมยอมรับผิด ตำรวจเรียกทั้งคู่ไกล่เกลี่ย 30 มิถุนายน เตรียมรับโทษทางวินัยของพรรค
จากกรณีของ หญองสาวรายหนึ่งที่ได้เข้าดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี เพื่อเอาผิด แฟนหนุ่ม ซึ่งเป็น ส.ส.กทม.เขตทวีวัฒนา พรรคก้าวไกล เนื่องจากโดนทำร้ายร่างกาย ต่อยใบหน้า และดึงศีรษะ
โดยรายละเอียดในบันทึกประจำวัน ระบุว่า ได้คบหาเป็นแฟนกับ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ประมาณ 1 เดือนเศษ ต่อมาวันที่ 23 มิ.ย. 66 ผู้เสียหายได้ขับรถมากับ ส.ส. คนนี้ เมื่อไปที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ระหว่าง ส.ส. คนนี้ขนกระเป๋าใส่รถ เกิดความไม่พอใจ และได้ด่าทอผู้เสียหาย
พรรคก้าวไกลพิจารณาวินัย
ภายหลังจากการเกิดเรื่องดังกว่า พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า “จากกรณีที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล ถูกแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย พรรคก้าวไกลถือว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรง พรรคได้ติดต่อไปยังผู้แจ้งความแล้ว เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม และจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวินัยพรรคโดยเร็วที่สุด”
ขณะที่นาย ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความถึงเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยพรรคฯ ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว และจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการวินัยฯ อย่างเร็วที่สุด โดยจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และภายใต้การเคารพต่อสิทธิของผู้เสียหายเป็นหลักครับ #ก้าวไกล”
ปมเหตุทำร้ายร่างกาย
ล่าสุดวันที่ 29 มิถุนายน 2566 มีข้อมูลรายงานว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน ตำรวจ สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี จะเรียกทั้งคู่เข้าไปไกล่เกลี่ยเรื่องดังกล่าว โดยฝ่ายชายยอมรับเรื่องราวที่ตนถูกกล่าวหา พร้อมกับบอกว่ายินไปไกล่เกลี่ยตามที่ตำรวจได้แจ้งมา
ทั้งนี่ เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 21-23 มิถุนายน เป็นช่วงสัมนาภายหลังจากที่ชนะการเลือกตั้ง ช่วงนั้นฝ่ายชายได้คบหากับฝ่ายหญิงได้เป็นระยะเวลา 1 เดือนเศษ
ในวันนั้นฝ่ายหญิงได้มาเที่ยวกับเพื่อนที่พัทยา ทั้งคู่เลยได้มาเจอแล้วพูดคุยกัน ฝ่ายชายได้กังวลถึงเรื่องการเดินทางว่าอาจเกิดอันตรายได้ ทำให้มีปากเสียงกันจนบานปลายไปเป็นการใช้กำลัง
ส่วนสาเหตุที่ยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้เนื่องจากกังวลว่าเมื่อเป็นข่าวแล้ว จะทำให้ไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว และภายหลังจากที่เกิดเรื่อง ฝ่ายชายไม่ได้นิ่งนอนใจ และยอมรับในการกระทำ รวมถึงผลของการดำเนินคดีและวินิจฉัยบทลงโทษทางวินัยของพรรคก้าวไกล ส่วนฝ่ายหญิงยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงแต่อย่างใด
