หนุ่มโพสต์ถามชนิดงู หลังยายวัย 60 ปีถูกฉกที่นา ก่อนเพจดังแชร์ต่อพร้อมเฉลยเป็น "งูทับสมิงคลา" งูมีพิษร้ายแรง อันตรายถึงชีวิต
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพของงูตัวหนึ่ง พร้อมกับถามชนิดของงูโดยระบุข้อความว่า "งูอะไรครับ โดนฉกที่เขียงนา อ.เมือง จ.มุกดาหาร 30 นาทีก่อน คลื่นไส้อาเจียน 1 ครั้ง ปวดแผลเล็กน้อย" ก่อนที่จะมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ถูกกัดคือคุณยายอายุประมาณ 60 ปี โดยงูตัวดังกล่าวมีลักษณะคือ ลำตัวมีปล้องดำสลับขาว
ต่อมาทางเพจ Drama-addict ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า งูตัวดังกล่าวคือ งูทับสมิงคลา ซึ่งเป็นงูมีพิษร้ายแรงอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย พิษของงูทับสมิงคลา จะมีผลต่อะระบบประสาททำให้คนที่โดนกัด มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก หายใจเองไม่ได้จนเสียชีวิต แบบคนที่โดนงูเห่ากัด ปกติมักเจอช่วงกลางคืน เป็นงูที่กินกบ เขียด และงูด้วยกัน
ปัจจุบัน หากถูกงูกัด แล้วไม่มั่นใจว่ามีพิษหรือไม่ จะไม่แนะนำให้ตีงูจนตายแล้วนำมาที่โรงพยาบาลเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายที่มากขึ้นกว่าเดิมได้ แต่จะแนะนำให้พยายามถ่ายรูปของงูให้ได้ชัดที่สุดก็เพียงพอที่จะแยกชนิดของงูได้ หรือหากเจองูที่แยกชนิดได้ยากก็สามารถส่งข้อมูลเพื่อสอบถามชนิดจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้
อย่างไรก็ตาม การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ห้ามใช้ปากดูดพิษจากแผล ห้ามเอามีดหรือของมีคมไปทำให้เลือดออกจากแผลเด็ดขาด และไม่ต้องขันเชนาะเพราะถ้าหากทำำผิดวิธีก็อาจจะส่งผลเสียจนอาจต้องสูญเสียอวัยวะส่วนที่ถูกกัดไปได้
งูทับสมิงคลา
งูทับสมิงคลา เป็นงูพิษต่อระบบประสาท ที่มีลายดำสลับขาวเป็นปล้อง โดยปล้องขาวจะไม่ขาวสนิทแต่มีสีดำเจือปนอยู่ งูพิษชนิดนี้ พิษชนิดนี้มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถถูกดูดซึมได้รวดเร็วไปตามกระแสเลือด ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยเกิดหนังตาตก พูดไม่ชัด หายใจไม่สะดวก
ลักษณะงูทับสมิงคลา
งูขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ (จากปลายปากถึงรูก้น 1,045 มิลลิเมตร และหางยาว 152 มิลลิเมตร) หัวยาวและแบน ส่วนของหัวกว้างใกล้เคียงกับลำคอ ตาค่อนข้างเล็ก ลำตัวยาวและตรงกลางของหลังเป็นสันไม่สูงมากและลำตัวไม่เป็นรูปสามเหลี่ยมชัดเจน แต่ค่อนข้างกลม หางสั้นและส่วนปลายของหางเรียว ผิวหนังลำตัวมีเกล็ดปกคลุม เกล็ดบนหัวเป็นแผ่นกว้าง เกล็ดบนหลังและทางด้านบนของหางมีพื้นผิวเรียบ เกล็ดท้องขยายกว้าง เกล็ดใต้หางเป็นแถวเดี่ยว เกล็ดรอบลำตัวในตำแหน่งกึ่งกลางตัวจำนวน 15 เกล็ด เกล็ดท้องจำนวน 194-237 เกล็ด และเกล็ดใต้ หางจำนวน 40-50 เกล็ด
