รถหรูซิ่งแข่งกันบนถนนหลวง เสียหลักพุ่งชนรถรับ-ส่งนักเรียนเจ็บระนาว

24 มิ.ย. 66

นักเรียนเจ็บอื้อ! รถหรูซิ่งแข่งกันบนถนน เสียหลักพุ่งชนรถรับ-ส่งนักเรียนพลิกคว่ำ นักเรียนบนรถบาดเจ็บกว่า 14 ราย บางรายกระดูกคอร้าว

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.66 เวลา 17.00 น. ร.ต.อ.บัณฑิต ทรัพย์พงศ์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน และเสียหลักพุ่งชนรถรับ-ส่งนักเรียน บนถนน 304 บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้า อ.บางคล้า ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนบาดเจ็บประมาณ 14 ราย

จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่ารถหรูทั้ง 2 คัน ที่วิ่งแข่งไล่กันมา จากนั้นได้เสียหลักเฉี่ยวชนกันเอง และคันหนึ่งพุ่งเข้าบ้านเรือนประชาชนที่เปิดเป็นร้านขายต้นไม้ ส่วนอีกคันเสียหลักไปชนรถรับส่งนักเรียน ซึ่งจอดส่งนักเรียนอยู่ และกำลังจะออกตัว ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำทำให้เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ

 ชนรถนักเรียน

ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ 24 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงพยาบาลพุทธโสธร พบว่ายังมีเด็กหลงเหลือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้ นอนพักรักษาตัวอีก 3 คน ประกอบด้วย

1.ด.ช.ชาญานน สงวนนามสกุล อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนวัดดอนทอง

2.ด.ช.ปฐมพร สงวนนามสกุล อายุ 14 ปี

3.ด.ช.ธิติพงษ์ สงวนนามสกุล อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์ 2

ด.ช.ชาญานนหรือน้องพีทผู้บาดเจ็บเปิดเผยว่า ตนเองปวดหัวไหล่ มีบาดแผลถลอกบริเวณหัวไหล่ และแผ่นหลัง มีอาการปวดหัวและผลเอ๊กเรย์คุณหมอแจ้งว่า มีเลือดออกบริเวณต้นคอ ขณะนี้ยังคงมีอาการปวดหัวอยู่

โดยขณะเกิดเหตุตนเองกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนๆ จู่ๆ เห็นรถเก๋งล้อมีควันขึ้น ก่อนจะพุ่งชนด้านขวารถที่ตนนั่ง ก่อนรถจะหมุนพลิกตะแคงข้าง ทำให้น้องๆ ที่นั่งอยู่อีกฝั่งหล่นมาทับตน จากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องและภาพตนเองก็ตัดไป เมื่อตั้งสติได้จึงรีบออกมานอกรถ ขอความช่วยเหลือยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ชนรถนักเรียน

นางนวลพันธ์ แฉ่งเจริญ อายุ 49 ปี ย่าของ ด.ช.ชาญานน ผู้บาดเจ็บเปิดเผยว่า หลานสาวอีกคนที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน เมื่อเช้าได้บอกกับตนว่าไม่อยากไปโรงเรียนในเมืองแล้ว อยากเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ให้เดินไปหนูก็ยอม หนูกลัวหนูกลัวมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กวัย 9 ขวบ ได้สื่อสารออกมาถึงความกลัวกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า อยากให้ผู้ขับขี่ทั้งสองคันได้ยินความบริสุทธิ์ของเด็กเหล่านี้ พูดอยากให้คิดนิดนึงก่อนจะทำอะไรลงไป เพียงเพราะความประมาท ตอนแรกพอได้ยินข่าวตนเองถึงกับช็อก ซึ่งแม่ของตนเองวัย 83 เป็นชวดของน้องพีท เห็นข่าวแล้วหลานยังไม่กลับบ้านก็รู้สึกกังวลใจเลยบอกไปว่าน้องพีทไม่เป็นอะไรมาก เพื่อให้ชวดได้สบายใจ ตนเองอยากจะเรียกร้องให้ผู้ขับขี่รถทั้งสองคันออกมาแสดงความรับผิดชอบ ตนเองไม่รู้ว่ามีอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า แต่พวกคุณขับรถบนถนนด้วยความเร็ว และความประมาททำให้เด็ก 14 คน ต้องประสบอุบัติเหตุเด็กๆ เหล่านี้ เช้าวันเสาร์ได้พักผ่อนออกไปวิ่งเล่นกลับต้องมานอนพักรักษาตัวแบบนี้ เพราะความผิดพลาดของคนขับรถสองคันนี้ซึ่งเด็กๆ ทั้ง 14 คนจะต้องหวาดกลัว หวาดระแวงกับเหตุการณ์ครั้งนี้0

ชนรถนักเรียน

น.ส.สุภาพร แก้วประเสริฐ อายุ 49 ปี แม่ของด.ช.ปฐมพร ที่ได้รับบาดเจ็บหัวแตก เปิดเผยว่า ตนเองกลับมาถึงบ้านเห็นโทรศัพท์ดังหลายสายไม่ได้รับ เห็นสายสุดท้ายเป็นน้องสามีโทรมา จึงโทรกลับไปทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตนเองถามว่าลูกเจ็บเยอะไหม ปลายสายบอกว่าเจ็บ 14 คน ส่วนลูกตนเองหัวแตกคนเดียวในรถ ให้ตนเองรีบไปโรงพยาบาล เมื่อได้ยินแบบนั้นตนเองทิ้งข้าวของทุกอย่างรีบไปหาลูกชายที่โรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงแล้วยังไม่พบหน้าลูกเพราะยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน ตนเองรู้สึกกลัวเพราะยังไม่เห็นหน้าลูก และมารู้ว่าลูกต้องนอนโรงพยาบาล เด็กคนอื่นๆ ที่เจ็บเล็กน้อย เมี่อทำแผลเสร็จก็ทยอยกันกลับบ้าน

พอตนเองได้เห็นหน้าลูกชายน้ำตาก็ไหล แล้วเข้าไปกอดเข้าไปถามว่าหนูเจ็บไหม ลูกลูกชายตอบกลับมาว่าโคตรเจ็บเลยแม่ ตนเองอยากเรียกร้องให้เขามีจิตสำนึกที่ชนเด็กๆ ทั้งนั้นเลย คนชนจะมีความรับผิดชอบอะไรบ้างถ้าเด็กๆ เหล่านั้นเป็นลูกคุณหลานคุณ ในครอบครัวคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร?

น.ส.พรพิมล เมฆสุวรรณ อายุ 35 ปี แม่ของด.ช.ธิติพงษ์ เปิดเผยว่าตอนนี้ลูกของตนกระดูกร้าวบริเวณลำคอ ไม่สามารถขยับเขยื่อนคอได้ ต้องใส่แพมเพิดในการขับถ่าย เพราะหมอไม่อยากให้ขยับตัวมาก ตอนเกิดเหตุแม่ทำงานอยู่ในโรงงาน ได้ยินเสียงโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกประสบอุบัติเหตุ นึกว่าเป็นรถจักรยานยนต์คว่ำ แต่ยายของลูกชายบอกว่าเป็นรถรับส่งนักเรียนคว่ำ ด้วยความตกใจจึงขออนุญาตลาหัวหน้างานออกมาหาลูกชาย

พอตนเองเห็นหน้าลูกใส่ที่บล็อกคอก็รู้สึกตื้อๆ น้ำตาไหลถามลูกว่าเจ็บไหม เป็นยังไงบ้าง ลูกชายของตนก็ร้องไห้ออกมาบอกว่าเจ็บ ตนเองอยากจะเรียกร้องให้คนขับทั้งสองออกมารับผิดชอบ จิตสำนึกบนท้องถนน  ลูกชายเองก็มาบ่นกับตนเองเมื่อเช้าว่าโทรศัพท์ที่ใช้เรียนภายในมีการบ้านอยู่ในนั้น หลายวิชาพังแตกกระจายเสียหายหมดเลย ลูกรู้ว่าครอบครัวเราไม่รวยเหมือนคนอื่น แต่ตนเองก็บอกลูกให้สบายใจว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวแม่จัดการซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้ ลูกก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งตนเองมาดูคลิปย้อนหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกใจหาย แล้วก็เห็นลูกตนเองกำลังวิ่งออกมาได้ แต่คิดว่าเขาขับรถอะไรกันขนาดนี้ และบางคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียลก็เห็นว่าเขาแข่งกันมา

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ถึงความคืบหน้าของคดี ทราบว่าเมื่อวานนี้ได้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน นายกฤษตเมธ สงวนนามสกุล อายุ 30 ปี คนขับรถเก๋งมินิคูเปอร์และนายอนุชิต สงวนนามสกุล อายุ 54 ปี คนขับรถเก๋งเปอร์เช่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาเพราะต้องการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม ทั้งภาพจากกล้องหน้ารถกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่ามีการนัดแข่งกันมาก่อนหน้านี้ หรือบังเอิญมาเจอกันเลยท้าแข่งกัน พร้อมกันนี้จะเชิญพยานปากต่างๆ ที่ขับรถสัญจรอยู่ขณะเกิดอุบัติหตุมาทำการสอบสวนร่วมด้วย เพื่อเพิ่มพยานหลักฐานในมิติต่างๆ ก่อนจะเรียกผู้ขับขี่ทั้งสองมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนรถทั้งสองคันวันนี้ได้มีการนำเข้าตรวจสภาพรถอย่างละเอียดเพื่อใช้ในสำนวนคดีเช่นเดียวกัน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส