นโยบายพรรคก้าวไกล 100 วันแรก ค่าไฟแฟร์-หวยใบเสร็จ ผลักดันสมรสเท่าเทียม

15 พ.ค. 66

ส่องนโยบาย "พรรคก้าวไกล" 100 วันแรก หากได้จัดตั้งเป็นรัฐบาล พร้อมนโยบายที่จะทำการผลักดันต่อ เช่น สมรสเท่าเทียม ค่าแรงเริ่มต้นที่ 450 บาท

วันที่ 15 พ.ค.66 เวลา 14.10 น. ภายหลังจากที่ กกต.รายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โดยคะแนนเสียงของพรรคการเมืองที่นำอยู่เป็นอันดับ 1 คือ "พรรคก้าวไกล" โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ประกาศชัยชนะ เลือกตั้ง 66 นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าพร้อมจับมือ 5 พรรคตั้งรัฐบาล พร้อมเป็นนายกของคนไทยทุกคน และพร้อมฟังทุกความเห็นต่าง 

อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกล ได้เปิดเผยนโยบาย 100 วันแรก จาก 300 นโยบาย ที่จะทำหากได้จัดตั้งเป็นรัฐบาลซึ่งระบุเอาไว้ทั้งหมด 15 นโยบาย ดังนี้ 

1. ประชามติ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จัดให้มีการทำประชามติเพื่อถามประชาชนว่าควรมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ภายใน 100 วันแรก ของรัฐบาลก้าวไกล

2. ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกในชายแดนใต้ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการคลี่คลายสถานการณ์รุนแรง

3. ประชามติยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ไม่มีใครตกงาน-เสียประโยชน์ จัดให้มีประชามติภายใน 1 ปี เพื่อถามประชาชนว่าเห็นชอบหรือไม่ ให้มีการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค และโอนถ่ายอำนาจการบริหารจังหวัดไปสู่ท้องถิ่น

4. ยกเลิกกฎระเบียบและคำสั่ง คสช. ที่ล็อกคอ-ล้วงลูกท้องถิ่น ยกเลิกกฎระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ที่จำกัดอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และไม่จำเป็นต่อการบริหารราชการท้องถิ่น เช่น การใช้จ่ายประมาณของท้องถิ่น การสอบสวนผู้บริหารท้องถิ่น การลาของผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น การเห็นชอบข้อบัญญัติท้องถิ่น

5. ห้ามใช้เงินหลวง โปรโมทตัวเอง ตรวจสอบการใช้งบประชาสัมพันธ์ภาครัฐอย่างเข้มข้น และกำหนดว่าการใช้งบจะต้องเป็นการโฆษณาโครงการหรือผลงานของหน่วยงานเท่านั้น โดยห้ามไม่ให้ใช้เพื่อโฆษณาตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี อธิบดี หรือหัวหน้าหน่วยงาน ที่ไม่ได้ควักเงินตัวเองมาทำโครงการ

6. กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ออกข้อกำหนด “กฎโรงเรียนต้องห้าม” เช่น การบังคับเรื่องทรงผม การลงโทษด้วยวิธีรุนแรงทุกประเภท การบังคับให้เด็กบริจาคเงินหรือสิ่งของ การบังคับซื้อของ และการบังคับให้ทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน

7. ครูละเมิดสิทธิ พักใบประกอบทันที พักใบประกอบวิชาชีพครูทันทีเมื่อมีการละเมิดสิทธิเด็ก (เช่น การทำร้ายร่างกายเด็ก การล่วงละเมิดทางเพศ) เพื่อป้องกันไม่ให้มีการงดโทษหรือลงโทษเพียงแค่ย้ายโรงเรียน ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่ปลอดภัยของผู้เรียนในสถานศึกษาอื่น

8. ยกเลิกการให้ครูนอนเวรเฝ้าโรงเรียน เพื่อให้คุณครูสามารถโฟกัสไปที่การเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเต็มที่

9. ยกเลิกพิธีรีตองที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนหรือการพัฒนาผู้เรียน (เช่น การจัดแต่งอาคารสถานที่ต้อนรับผู้ประเมิน) เพื่อให้คุณครูสามารถโฟกัสไปที่การเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเต็มที่

10. เปลี่ยนนิคมสหกรณ์เป็นโฉนดทันที เร่งเปลี่ยนที่ดินนิคมสหกรณ์ทุกแห่งทั่วประเทศ เป็นเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดให้เกษตรกรและประชาชนทันที

11. หยุดบังคับติดตั้งระบบ AIS ( Automatic Identification System) ยกเลิกนโยบายกำหนดให้เรือประมงพาณิชน์ติดตั้งระบบ AIS ( Automatic Identification System) ที่ซ้ำซ้อนกับ VMS ที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้เหลือเพียงระบบเดียว

12. “ค่าไฟแฟร์” ถูกและเป็นธรรมสำหรับประชาชน ลดค่าไฟให้กับประชาชนได้อย่างน้อย 70 สตางค์/หน่วย (เฉลี่ยบ้านละ 150 บาท) โดยปรับนโยบายเพื่อให้ความสำคัญกับประชาชนก่อนกลุ่มทุน (เช่น การเปลี่ยนนโยบายก๊าซธรรมชาติให้โรงแยกก๊าซร่วมหารต้นทุนก๊าซใน Energy Pool ด้วย และให้ก๊าซจากอ่าวไทยขายให้โรงไฟฟ้าก่อนโรงงานอุตสาหกรรม หรือขายก๊าซให้โรงงานอุตสาหกรรมในราคา LNG เพื่อให้ก๊าซจากอ่าวไทยราคาถูกกว่าป้อนโรงไฟฟ้าได้มากขึ้น)
เจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับสัมปทานทุนใหญ่พลังงานใหม่ เพื่อลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้เดินเครื่อง

13. “หลังคาสร้างรายได้” เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ ประกันราคาซื้อพลังงานสะอาดสำหรับครัวเรือน

14. ลดรายจ่าย SME: หักค่าใช้จ่ายเหมาภาษี เพิ่มจาก 60% เป็น 90% เปิดให้ SMEs หักค่าใช้จ่ายเหมาภาษีบุคคลได้เพิ่มเป็น 90% (จากเดิม 60%)

15. เพิ่มแต้มต่อให้ SME: หวยใบเสร็จ ซื้อของร้านค้ารายย่อย ทั้งคนซื้อคนขายได้หวย ลุ้นรวยเงินล้าน สำหรับคนขาย หรือ ผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ: เมื่อขายสินค้าครบ 5,000 บาท สามารถแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ 1 ใบ

นอกจากนี้ยังมีอีหลายนโยบายเด่นของพรรคที่นำเสนอต่อประชาชน อาทิ

  • ของขวัญแรกเกิด 3,000 บาท
  • เงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท
  • สิทธิลาคลอด 180 วัน พ่อแม่แบ่งกันได้
  • ศูนย์ดูแลเด็กใกล้บ้านและที่ทำงาน
  • เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง
  • คูปองเปิดโลก ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน
  • ยกเลิกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผ้าอนามัยและแจกผ้าอนามัยฟรี
  • ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นทุกปี เริ่มต้นวันละ 450 บาท รัฐช่วย SME 6 เดือนแรก
  • สัญญาจ้างเป็นธรรม ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
  • แรงงานทุกกลุ่มตั้งสหภาพได้ สอดคล้องหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
  • ประกันสังคมถ้วนหน้า เจ็บป่วยได้เงินชดเชยและค่าเดินทาง12.เรียนเสริมทักษะ-เปลี่ยนอาชีพ ฟรีไม่จำกัดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และคูปองเรียนเสริม
  • เงินผู้สูงวัยเดือนละ 3,000 บาท สร้างระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง
  • ค่าทำศพถ้วนหน้า 10,000 บาท
  • บ้านตั้งตัว 350,000 หลัง รัฐช่วยผ่อน-จ่ายค่าเช่า
  • น้ำประปาดื่มได้ทุกพื้นที่
  • เติมเงินให้ท้องถิ่น เพิ่มขนส่งสาธารณะ
  • เน็ตฟรี 1 GB ต่อเดือน
  • เงินคนพิการเดือนละ 3,000 บาท

อย่างไรก็ตาม อีกนโยบายหนึ่งที่ประชาชนให้ความสนใจ และทางด้านของพรรคเองก็พยายามที่จะผลักดันมาโดยตลอดนั่นก็คือ แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว โดยเปลี่ยนคำในตัวบทกฎหมาย จากคำนามระบุเพศ เช่น ชายหญิง สามีภรรยา เป็นคำนามไม่ระบุเพศ อาทิ บุคคล คู่สมรส เพื่อให้คนทุกเพศสามารถหมั้นและสมรสกันได้ และมีสิทธิในฐานะคู่หมั้น/คู่สมรสโดยเสมอหน้ากันทุกประการ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส