ปิดฉากครอบครัวโจร เบื้องหน้าเป็นมาม่าซัง เบื้องหลังเปิดชำแหละรถเถื่อน

5 พ.ค. 66

สืบนครบาล ปิดฉาก "แก๊งมาม่าซัง" ฉากหน้าเปิดร้านนวด ฉากหลังเป็น “โรงชำแหละ” รถเถื่อน ธุรกิจครอบครัว ยาย-แม่-ลูกเขย-หลานสาว

จากการจับกุม “เซเลบเก๊” ที่ตระเวนก่อเหตุ “นัดเดท” ผ่านแอปหาคู่ แล้วขโมยรถเหล่าหญิงสาวที่เป็นคู่หลับนอน นำมาสู่การขยายผลเจอ “แก๊งมาม่าซัง” นักชำแหละรถรายใหญ่ ซึ่งมีมาม่าซัง “สายมู” เป็นหัวหน้าเครือข่าย ใช้ร้านนวดเป็นฉากหน้า โดยฉากหลังเป็นโรงชำแหละรถแบบครบวงจร ซึ่งมีรถเข้ามาไม่น้อยกว่า 5 คันต่อสัปดาห์

1683267966151

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาล นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัวสองสามีภรรยาซึ่งเป็น “หัวหน้า” เครือข่ายคือ 1.นางสมนึก ขุนทอง อายุ 65 ปี (มาม่าซัง) 2.น.ส.กนกวรรณ ขุนทอง อายุ 41 ปี (ลูกสาว) 3.น.ส.นฤมล สังขนัครา อายุ 19 ปี (หลานสาวซึ่งเป็น steammer game online สายเซ็กซี่) 4.นายรุ้ง ศรีบุญเพ็ง อายุ 47 ปี (ลูกเขย) โดยถูกกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร” สามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จว.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 20.20 น. ตรวจยึดของกลางจำนวน 12 รายการ

1683267847288

พฤติการณ์กล่าวคือ จากเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายภีรพัฒน์ บุญมี อายุ 26 ปี หรือ อุ้ม หรือ อั้ม หรือ พอช หรือ พัด หรือ แซ็ค หรือ แร็ค ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 7 หมายจับ ซึ่งคนร้ายรายนี้ได้แฝงตัวอยู่ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ สร้างโปรไฟล์เป็น “เซเลบเก๊” ทำการนัดมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อที่เป็นหญิงสาวและจะอาศัยจังหวะที่เหยื่อนอนหลับไปขโมยรถของเหยื่อ แล้วไปขายให้กับกลุ่มผู้ค้ารถเถื่อน

หลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ขยายผลการจับกุมจนสืบทราบเบาะแสว่ารถยนต์ของ เหล่าหญิงสาวผู้เสียหายได้ถูกเซเลบเก๊รายนี้ขโมยไปนั้นได้ถูกนำไปขายให้กับ “มาม่าซัง” ย่านบางบัวทองซึ่งยังไม่ทราบว่าชื่อสกุลจริงอะไร ทราบเพียงว่ามาม่าซังรายนี้เป็น “สายมู” และชื่นชอบดูดวง พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จนกระทั่งสืบทราบว่า มาม่าซัง ดังกล่าวคือ นางสมนึก ขุนทอง อายุ 65 ปี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าไม่ได้ทำเพียงคนเดียวแต่ยังมีผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นลักษณะ “ธุรกิจครอบครัว”

1683267852732

แก๊งนี้จะเปิดกิจการร้านนวดบังหน้า และจะใช้พื้นที่ด้านหลังร้านเป็นสถานที่ซุกซ่อนรถที่ไปรับซื้อจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือรถที่หลุดจำนำ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการ “ชำแหละ” แยกอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งภายในโรงชำแหละนี้มีเครื่องไม้เครื่องมือในการแยกชิ้นส่วนรถยนต์ เรียกได้ว่าครบวงจร ก่อนจะนำชิ้นส่วนรถขายทอดตลาด โดยระยะเวลาในการย่อยสลายรถเมื่อแก๊งมาม่าซังได้รับรถมาแล้ว ใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่เกิน 2 วัน ซึ่งข้อมูลจากการสืบสวนทำให้ทราบว่าแก๊งมาม่าซังนี้จะรับรถเข้ามาโดยเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 คัน และจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ยังได้รับเบาะแสจากชาวบ้านในละแวก ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามาม่าซังรายนี้คือ “เจ้าใหญ่” ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ทีมสืบสวนสอบรวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยตนเองกระทั่งได้ออกหมายจับเครือข่ายแก๊งมาม่าซังนี้ได้ทั้ง 4 ราย ในข้อหา “ร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร”

1683267891520

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 นาย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังเสร็จสิ้นการจับกุมได้นำตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางโพทอง จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส